เปิดนโยบายพรรคเพื่อไทย หลังโปรดเกล้าฯ”ประเสริฐ” นั่งรมว.ดีอีเอส

02 ก.ย. 2566 | 10:33 น.
อัปเดตล่าสุด :02 ก.ย. 2566 | 13:52 น.

เปิดนโยบายรัฐบาลดิจิทัลพรรคเพื่อไทย หลังโปรดเกล้า “ ประเสริฐ จันทรรวงทอง” นั่งตำแหน่ง รมว.ดีอีเอส เร่งเดินหน้าปราบอาชญากรรมไซเบอร์ ผัลักดันเทคโนโลยีและนวัตกรรม Blockchain

วันนี้  2 กันยายน 2566 ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พระบรมราชโองการประกาศ แต่งตั้งรัฐมนตรีชุดใหม่ โดยมี นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีกว่าการกระทรวงการคลัง ขณะที่ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเขต 3 จังหวัด นครราชสีมา นั่งตำแหน่งกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส

เมื่อพลิกไปดูนโยบายทางด้านดิจิทัล ที่พรรคเพื่อไทย ได้กำหนดยุทธศาสตร์ไว้ เป็นนโยบายรัฐบาลดิจิทัลเพื่อประชาชน เพิ่มความโปร่งใสและประสิทธิภาพของภาครัฐ

  • Digital Government คือการพลิกเปลี่ยนจาก “รัฐอุปสรรค” เป็น “รัฐสนับสนุน” เพื่อปลดล็อคศักยภาพของประชาชนและผู้ประกอบการให้เป็นฟันเฟืองขับเคลื่นเศรษฐกิจไปด้วยกันและในขณะเดียวกันคือลดช่องทางการคอรัปชั่น
  • การสร้าง One Stop Service สำหรับการให้บริการภาครัฐ การขออนุญาติ อนุมัติต่างๆจะต้องง่ายสะดวกอยู่ในแพลตฟอร์มเดียว 
  • ลดดุลพินิจเจ้าหน้าที่ สร้างกฏเกณฑ์ชัดเจนโดยใช้ระบบเข้ามาเป็นตัวจดเช่น การใช้ Smart Contract เพื่อลดโอกาสในการคอรัปชั่น
  • กำหนดระยะเวลาในการอนุมัติให้แน่นอน เพื่อความสะดวก รวดเร็ว และตัดปัญหาการเตะถ่วงและปิดช่องการเรียกเก็บค่าอนุมัติ

พรรคเพื่อไทยสนับสนุน Central Bank Digital Currency (CBDC) และเดินหน้าพัฒนาร่วมกันธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อเป็นแพลตฟอร์มเปิดสำหรับทุกคน เพื่อยกระดับระบบการเงินของประเทศเพื่อรองรับเศรษฐกิจดิจิทัล

 

นโยบายรัฐบาลดิจิทัล

 

ปราบอาชญากรรมไซเบอร์

ภัยอาชญากรรมไซเบอร์ ซึ่งคือทุกข์ของประชาชนสร้างความเสียหาย ด้วยการหลอกลวง ขโมยเงินจากบัญชีธนาคาร พรรคเพื่อไทยจะปกป้องประชาชน ด้วยการใส่ใจ จัดการอย่างเฉียบขาด ทันการ ทันที เท่าทันโลก ทันเทคโนโลยี โดยการวางระบบป้องกันภัยไซเบอร์อย่างมีประสิทธิภาพ ธนาคารส่งข้อมูลกรณีกลโกงอาชญากรไซเบอร์ให้ทันการณ์ อาชญากรรมจากเทคโนโลยีจะต้องใช้เทคโนโลยีที่เท่าทันเข้าสู้ เพื่อไทยจะแก้ปัญหาภัยไซเบอร์ ไม่ปล่อยอาชญากรรมไซเบอร์ลอยนวล และขยายตัวออกไปสร้างความเสียหายต่อประชาชนซ้ำซากรายวัน สูญเสียทั้งทรัพย์สิน และชีวิตอีกต่อไป

นโยบายเทคโนโลยีและนวัตกรรม

Blockchain จะเป็นโครงข่ายสำคัญที่จะทำให้ Fintech เทคโนโลยีทางการเงินหรือเติบโตและจะทำให้คนไทยสามารถระดมทุนจากทั่วโลกได้  โดยเฉพาะ SME หรือ StartUp ทั้งหลายรวมทั้งการระดมทุนให้กับเกษตรกร และการขายสินค้าล่วงหน้า เปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความสามารถทางศิลปะและการออกแบบ ได้ขายผลงานในตลาดโลกได้ง่ายขึ้น แล้วประเทศไทยจะกลายเป็น Blockchain Hub และ Fintech Center ของภูมิภาคอาเซียน

สำหรับประวัติ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง

ประวัติการศึกษา

  • ปริญญาวิทยาศาสตร์บัณฑิต (บริหารธุรกิจ) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
  • พัฒนบริหารศาสตรมหาบัณฑิต (รัฐประศาสนศาสตร์) สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์

ประสบการณ์การทำงาน

  •  อดีต รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม