ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ไปรษณีย์ไทย แจ้งผู้ใช้บริการที่ต้องการส่งเอกสาร หรือสิ่งของด้วยบริการ EMS และบริการ eCo–post ไปยังพื้นที่ 16 เกาะ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเศรษฐกิจ อาทิ เกาะสีชัง เกาะช้าง เกาะลันตา เกาะพีพี ฯลฯ เฉพาะพิกัดน้ำหนักไม่เกิน 1 กิโลกรัม จะมีการปรับอัตราค่าบริการเพิ่ม 15 บาท จากราคาปกติ ส่วนพิกัดน้ำหนักอื่นยังคงอัตราค่าบริการเดิม และยังคงมาตรฐานการขนส่ง EMS ในระยะเวลา 1 -2 วัน
การบวกเพิ่มอัตราค่าขนส่งบางพื้นที่ที่เป็นเกาะ เนื่องจากต้นทุนค่าน้ำมันการขนส่งทั้งทางบก ทางเรือ และค่าแรงงาน ในพื้นที่เศรษฐกิจและแหล่งท่องเที่ยวสูงกว่าพื้นที่อื่น ๆ ส่งผลให้ต้นทุนค่าขนส่งสูงขึ้นมายาวนาน และเพื่อรักษามาตรฐานการจัดส่ง และคุณภาพการให้บริการส่งด่วน EMS และส่งประหยัด eCo-post ไปรษณีย์ไทยจึงจำเป็นต้องบวกเพิ่มค่าบริการจากราคาปกติชิ้นละ 15 บาท สำหรับสิ่งของที่มีน้ำหนักไม่เกินน้ำ 1 กิโลกรัม โดยน้ำหนัก1 กิโลกรัมขึ้นไปจนถึง 30 กิโลกรัมยังคงอัตราค่าบริการคงเดิม
“พื้นที่เกาะที่บวกเพิ่มอัตราค่าบริการ 16 ปลายทาง ได้แก่ เกาะสีชัง เกาะช้าง เกาะลันตา เกาะพีพี เกาะยาว ภูเก็ต กะรน ถลาง กะทู้ ราไวย์ เกาะสมุย เกาะพะงัน ละไม เฉวง แม่น้ำ และเกาะเต่า ซึ่งมีผลตั้งแต่ 1 ก.ย. 2566 เป็นต้นไป ณ ไปรษณีย์ทุกแห่งทั่วประเทศ จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง
ทั้งนี้ ไปรษณีย์ไทยยังคงมุ่งมั่นรักษาคุณภาพการนำส่ง และพัฒนาคุณภาพบริการส่งด่วน EMS ให้คงมาตรฐานความเร็วภายใน 1-2 วัน ส่วนบริการ eCo-post ระยะเวลาขนส่ง 3-5 วัน มีการรับประกันสิ่งของศูนย์หายหรือเสียหายในความรับผิดชอบของไปรษณีย์ไทยตามจริง EMS สูงสุดไม่เกินชิ้นละ 2,000 บาท และ eCo-post สูงสุดไม่เกินชิ้นละ 1,500 บาท สามารถติดตามสถานะการจัดส่งผ่านไลน์ออฟฟิเชียล @Thailand Post”
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ใช้บริการที่ส่งพัสดุไปยังพื้นที่เกาะดังกล่าวยังสามารถเลือกใช้บริการไปรษณีย์ลงทะเบียนในประเทศ ซึ่งมีอัตราค่าบริการที่ประหยัด เริ่มต้นเพียง 18 บาท ในพิกัดน้ำหนัก 20 กรัม ประเภทซอง และ 35 บาท ในพิกัดน้ำหนัก 20 กรัมประเภทกล่อง มาตรฐานการนำจ่าย 3-5 วัน