สู้โลกร้อนด้วยเทคโนโลยี “ผ้าสัมผัสเย็น”

05 ส.ค. 2566 | 06:03 น.
อัปเดตล่าสุด :05 ส.ค. 2566 | 06:35 น.

การขยับตัวของนักการตลาดที่นำเอาผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าที่ผลิตจาก “เนื้อผ้าสัมผัสเย็น” บางเบา เนื้อสัมผัสเรียบลื่น ระบายอากาศได้ดี ให้แล้วเย็นสบาย นับเป็นวิธีการ “สู้อากาศร้อน” ที่กระแสตอบรับกำลังมาแรง

 

บรรดา ธุรกิจค้าปลีกและเสื้อผ้า ใน สหรัฐอเมริกา ไม่ว่าจะเป็นห้างเมซีส์ (Macy's) หรือโคลัมเบีย (Columbia) ต่างขยายไลน์ เสื้อผ้าระบายอากาศ และมี เนื้อผ้าสัมผัสเย็น เพื่อหวังกระตุ้นยอดขายท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนระอุขึ้นและผลักดันความต้องการ เสื้อผ้าสู้อากาศร้อน ทะลุปรอทได้

ขณะที่บริษัทอื่น ๆ เช่น วีเอฟ คอร์ป เจ้าของแบรนด์นอร์ธเฟซ (The North Face) และรีฟอร์เมชัน (Reformation) เลือกใช้ ผ้าเทนเซล (Tencel) ซึ่งเป็นเส้นใย “ไลโคเซลล์” ที่บริษัทเลนซิง ผู้ผลิตสิ่งทอ ระบุว่าเป็นเนื้อผ้าที่ซึมซับได้ดีกว่าผ้าฝ้ายเสียอีก

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า กระแสผลักดันการใช้เนื้อผ้าสู้อากาศร้อน เกิดขึ้นในช่วงที่บริษัทค้าปลีกด้านเสื้อผ้ามียอดขายร่วงลงซึ่งเป็นผลมาจากภาวะเงินเฟ้อ ที่ทำให้ผู้บริโภคจำเป็นต้องตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป ประจวบกับการทำการตลาดเสื้อผ้าที่เนื้อผ้ามี “สัมผัสเย็น” นับว่าสอดคล้องอย่างยิ่งในช่วงที่คลื่นความร้อนปกคลุมอย่างน้อย 3 ทวีปทั่วโลกในเวลานี้

ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องแต่งกายหลากหลายค่าย กำลังทุ่มเม็ดเงินลงทุนไปกับการพัฒนาวัสดุน้ำหนักเบาและเนื้อผ้าที่ทำจากเส้นใยสมรรถนะสูง เพื่อชดเชยวัสดุดั้งเดิมอย่างผ้าฝ้ายและใยสังเคราะห์ เช่นเดียวกับเส้นใยแบบไฮเทคที่จะช่วยให้ผู้สวมใส่รู้สึกเย็นได้ตลอดเวลา

การทำการตลาดเสื้อผ้าที่เนื้อผ้ามี “สัมผัสเย็น” นับว่าสอดคล้องอย่างยิ่งในช่วงที่คลื่นความร้อนปกคลุมอย่างน้อย 3 ทวีปทั่วโลกในเวลานี้

เจสส์ รามิเรซ นักวิเคราะห์จากบริษัท Jane Hali & Associates ให้ความเห็นว่า ผ้าเนื้อสัมผัสเย็นไม่ใช่เรื่องใหม่ในวงการสิ่งทอ แต่ด้วยอุณหภูมิโลกที่ร้อนขึ้นเรื่อย ๆ ห้างค้าปลีกที่พยายามโปรโมตสินค้ากลุ่มนี้สำหรับการรับมือกับอากาศร้อน ได้ขยายตลาดเป็นคอลเลคชันเสื้อผ้าที่สามารถจำหน่ายได้ตลอดทั้งปี รวมทั้งในภาวะที่ฤดูหนาวก็อบอุ่นขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน

เอมิลี เอรูชา-ฮิลลิค รองประธานอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์แบรนด์สินค้าของห้างสรรพสินค้าเมซีส์ เปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า ไลน์เสื้อผ้าใหม่ของทางห้าง ยังรวมถึงเสื้อโค้ทยาวที่ทำจาก เส้นใยไลโคเซลล์ และเสื้อยืดจาก เส้นใยโมดาล (Modal) ที่ขายในราคา 24.50 ดอลลาร์ โดยเป็นเนื้อผ้าลื่นดุจแพรไหม ทำมาจากเส้นใยพืชที่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่ามีน้ำหนักเบาและระบายอากาศได้ดี และทางห้างเมซีส์ ก็เตรียมที่จะขยายกำลังการผลิตและทำการตลาดสินค้าบางอย่างในกลุ่มนี้ แต่ยังไม่เปิดเผยว่าจะเป็นสินค้าแบบใดบ้าง

ส่วนแบรนด์เสื้อผ้าสตรี “รีฟอร์เมชัน” ก็เริ่มจำหน่ายกระโปรง กางเกง และชุดเดรสที่ใช้เนื้อผ้าเทนเซล ที่ทางแบรนด์ระบุว่าเป็น “รากฐาน” ของผลิตภัณฑ์ของบริษัทด้วย

แม้ว่าธุรกิจเสื้อผ้ากลุ่มนี้ยังไม่มีคู่แข่งมากนัก แต่ฝั่งบริษัทผู้ผลิตเนื้อผ้าสัมผัสเย็นกำลังเติบโตขยายตัวอย่างมาก

บริษัทเลนซิง ที่เน้นการผลิตผ้าเทนเซล ได้ขยายฐานการผลิตในประเทศไทยเมื่อปีก่อน จากการเปิดเผยของชารอน เปเรซ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ กับทางรอยเตอร์ บริษัทเล็งเห็นความต้องการจากแบรนด์ดังอย่าง พาทาโกเนีย และนอร์ธเฟซ แม้ว่าต้นทุนจะแพงกว่าวัสดุอื่นๆ ประมาณ 10 เซนต์ต่อผ้า 1 ปอนด์ก็ตามที

ตลาดโดยรวมทั่วโลกของเส้นใยธรรมชาติอย่างไลโคเซลล์ โมดาล และคิวโปร เติบโตราว 10% จากระดับ 7.2 ล้านตันเมื่อปีที่ผ่านมา (2022) อ้างอิงจากข้อมูลขององค์กรอิสระ Textile Exchange

ทางด้านบริษัท พีที โกลเดน เท็กซ์ไทล์ จากอินโดนีเซีย ซึ่งมีลูกค้าอย่างเมซีส์ และโปโล ราล์ฟ ลอเรน เพิ่มกำลังการผลิตเนื้อผ้าที่ทำจากเส้นใยสมรรถนะสูงราว 20-30% ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ในทางวิทยาศาสตร์ยังไม่มีความชัดเจนว่าวัสดุที่ทำการตลาดว่าเป็นเนื้อผ้า “สัมผัสเย็น” นั้น จะช่วยลดอุณหภูมิในร่างกายให้ต่ำลง หรือแค่ช่วยให้ผู้สวมใส่รู้สึกสบายตัวมากขึ้นกันแน่

ข้อมูลจาก American Association of Textile Chemists and Colorists เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมสิ่งทอในสหรัฐได้เริ่มมีการทดสอบเรื่องวัสดุสัมผัสเย็น เพื่อวัดศักยภาพของเนื้อผ้าในการกระจายความชื้นและการแห้งเร็วของเนื้อผ้าแล้ว

อย่างไรก็ตาม โรเจอร์ บาร์เกอร์ ผู้ศึกษาด้านสิ่งทอจาก North Carolina State University กล่าวกับรอยเตอร์ว่า จำเป็นต้องมีการทดสอบที่ชัดเจนกว่านี้ ก่อนที่บริษัทต่าง ๆ จะกล่าวอ้างสรรพคุณเรื่องความเย็น เพราะการค้นพบในห้องทดลองที่มีมากมายก็ไม่ได้หมายความว่าในการใช้จริงจะเป็นเช่นนั้น

เนื้อผ้าเย็นทันใจ-ระบายเหงื่อได้ทันที

บรรดาบริษัทในแวดวงเสื้อผ้าต่างผลิตเนื้อผ้าด้วยเส้นใยสมรรถภาพสูง อย่างเช่น คูลแมกซ์ของไลครา ที่ใช้เส้นใยสังเคราะห์ซึ่งช่วยทำให้เหงื่อระเหยออกไปได้เร็วขึ้น หรือยูนิโคล (Uniqlo) ที่ออกไลน์เสื้อผ้า “แอริซึ่ม” ที่ใช้เส้นใยสังเคราะห์ผสมคิวโปรที่มาจากฝ้าย ซึ่งทำให้เนื้อผ้ามีความละเอียดและนุ่ม รวมทั้งแห้งไวและเป็นเนื้อผ้าที่ให้สัมผัสเย็น

โฆษณาของยูนิโคล (Uniqlo) ที่ออกไลน์เสื้อผ้า “แอริซึ่ม” ใช้เส้นใยสังเคราะห์ผสมคิวโปรที่มาจากฝ้าย ทำให้ผ้าแห้งไว สัมผัสเย็น

คริสตี วิลสัน ที่ปรึกษาด้านวัสดุซึ่งทำงานร่วมกับบริษัทค้าปลีกใหญ่หลายแห่ง เปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า มีหลายแบรนด์ที่เริ่มใช้ เส้นใยสมรรถนะสูง อย่างคูลแมกซ์ ที่แห้งไวกว่าผ้าฝ้ายมากขึ้นแล้ว

แบรนด์เจ.ครูว์(J.Crew) และเอชแอนด์เอ็ม (H&M) เป็นหนึ่งในบริษัทที่หันมาใช้ผ้าคูลแมกซ์ ในชุดเครื่องนอน ถุงนอน และผลิตภัณฑ์สำหรับอากาศร้อนชื้น

ภายใต้สภาพอากาศที่ร้อนขึ้น ยังขับเคลื่อนให้มีการใช้เทคโนโลยีเส้นใยคลายความร้อน หรือ active cooling ด้วยการใส่วัสดุที่ช่วยดักจับและคลายความร้อนออกไป แทนที่จะเป็นการแผ่ความเย็นออกมาจากเนื้อผ้า

ในระหว่างที่เสื้อผ้าช่วยระเหยเหงื่อ เร่งการระเหยเหงื่อออกจากร่างกาย ซึ่งเป็นวิธีที่มนุษย์จะรู้สึกเย็นลงได้ตามธรรมชาติ แต่มันมีข้อจำกัดในรูปแบบเนื้อผ้าดังกล่าว

หน้าร้อนปีนี้ แบรนด์โคลัมเบีย สปอร์ตสแวร์ เปิดตัวเสื้อแขนยาวที่มีเนื้อผ้า Omni-Freeze Zero Ice fabric ที่ผสมผสานเทคโนโลยี active cooling เข้าไป เพื่อช่วยเรื่องการระเหยของเหงื่อและลายผ้าที่ช่วยดูดซับเหงื่อได้

ล่าสุด บริษัทสิ่งทอในแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย “Brrr” ซึ่งทำงานร่วมกับ 47 แบรนด์ดัง รวมทั้งอาดิดาส ได้ผสมเนื้อผ้าเข้ากับแร่ธาตุที่มีสารให้ความเย็น และว่ามีความต้องการเนื้อผ้าลักษณะนี้มากขึ้นสำหรับเสื้อผ้าที่เหมาะกับกิจกรรมอย่างการเดินป่า หรือเล่นสกีในฤดูหนาวด้วยเช่นกัน

ข้อมูลอ้างอิง