Disney+Hotstar แพลตฟอร์มวิดีโอ สตรีมมิ่งชื่อดัง ประกาศราคาแพ็กเกจใหม่สำหรับสมาชิกปัจจุบันและสมาชิกใหม่ โดยตั้งแต่ วันที่ 29 มิถุนายน 2566 เป็นต้นไป Disney+Hotstar จะมีแพ็กเกจหลัก 2 รายการ ได้แก่ แพ็กเกจ Disney+Hotstar มือถือ ค่าบริการ รายเดือน 99 บาท/เดือน | รายปี 799 บาท/ปี สามารถดูได้ 1 หน้าจอ ความคมชัดสูงสุด 720p ไม่รองรับ AirPlay ระบบเสียง Stereo และดูได้บนมือถือ, แท็ปเลต
และแพ็กเกจ Disney+Hotstar พรีเมียม ค่าบริการรายเดือน 289 บาท/เดือน (รายปี 2,290 บาท/ปี) ดูได้ 4 หน้าจอ ความคมชัดสูงสุด 4K 2160p, รองรับ AirPlay, ระบบเสียง Dolby 5.1, Dolby Atmos, Dolby Vision และสามารถ ดูได้บนมือถือ, แท็บเล็ต, แล็ปท็อป, ทีวีที่ผ่านมา ขยับราคามาตลอด
โดยที่ผ่านมา Disney+Hotstar มีการขยับราคาขึ้นมาตลอด จากที่เปิดตัวเริ่มต้นเดือนละ 35 บาท มาเป็นเดือนละ 59 บาท และ 79 บาท ล่าสุดขยับแพ็กเกจราคาต่ำสุดแพ็กเกจ Disney+Hotstar มือถือ ค่าบริการ รายเดือน 99 บาท/เดือน | รายปี 799 บาท/ปี ขณะที่แพ็กเกจ Disney+Hotstar พรีเมียม ค่าบริการรายเดือน 289 บาท/เดือน (รายปี 2,290 บาท/ปี ขยับราคาสูงถึง 359%
โดยแหล่งข่าวในวงการวิดีโอสตรีมมิ่งมองว่า Disney+Hotstar เริ่มมีการปรับบิสสิเนสโมเดลจากตลาดแมส ไปสู่ตลาดพรีเมียม ในหลายประเทศ ที่ตลาดมีขนาดเล็ก (สมาชิกน้อย) ซึ่งในไทยคาดว่าจะมีตัวเลขไม่ถึง 2 ล้านคน ไม่ได้อีโคโนมีออฟสเกลตามที่ Disney+Hotstar ต้องการ ทำให้จำเป็นต้องปรับรูปแบบการทำธุรกิจในไทย เพื่อสร้างรายได้และผลกำไร โดยปรับราคาแพ็กเกจใหม่เพื่อมุ่งไปยังกลุ่มลูกค้าพรีเมี่ยม เชื่อว่าการปรับราคาครั้งนี้จะทำให้ยอดสมาชิกลดลง แต่ที่ยอมจ่ายเพื่อจะได้เสพความบันเทิงคุณภาพ