กสทช.ถกนัดพิเศษ ยกเลิกกฎ Must Have เดินหน้าประชาพิจารณ์ 30 วัน

23 มี.ค. 2566 | 19:48 น.
อัปเดตล่าสุด :24 มี.ค. 2566 | 15:25 น.

กสทช. ถกนัดพิเศษเห็นชอบยกเลิกประกาศ Must Have เรื่อง หลักเกณฑ์รายการโทรทัศน์สําคัญที่ให้ เผยแพร่ได้เฉพาะในบริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไป พ.ศ. 2555

วันที่ 23 มีนาคม 2566 ประชุม กสทช.  นัดพิเศษ ครั้งที่ 7/2566 ได้พิจารณาเรื่อง เห็นควรยกเลิกประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์รายการโทรทัศน์สำคัญที่ให้เผยแพร่ได้เฉพาะในบริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไป พ.ศ. 2555 (ประกาศ Must Have) ซึ่งเป็นประกาศที่กำหนดให้รายการกีฬา 7 ประเภท คือ ซีเกมส์ อาเซียนพาราเกมส์ เอเชียนเกมส์ เอเชียนพาราเกมส์ โอลิมปิก พาราลิมปิก ฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ที่หากมีการได้รับสิทธิให้นำมาออกอากาศในประเทศไทย ต้องนำทั้ง 7 รายการ มาเผยแพร่ผ่านทางโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป (ภาคพื้นดิน) เป็นอันดับแรก และจะมีผลต่อเนื่องทำให้ทั้ง 7 ประเภทรายการแข่งขัน ก็จะถูกนำสัญญาณไปออกอากาศผ่านระบบดาวเทียม เคเบิล และ IPTV ภายใต้ กฎ Must Carry

 โดยในที่ประชุม ให้ความเห็นชอบ (ร่าง) ประกาศ กสทช. เรื่อง ยกเลิกประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์รายการโทรทัศน์สำคัญที่ให้เผยแพร่ได้เฉพาะในบริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไป พ.ศ. 2555 โดยมอบหมายให้สำนักงาน กสทช. จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียและประชาชนทั่วไป เพื่อนำความเห็นที่ได้มาประกอบการพิจารณาก่อนออกประกาศ โดยมีระยะเวลาในการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียและประชาชนทั่วไปเวลา 30 วัน ตามมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

 

ก่อนหน้านี้ความเห็นคณะอนุกรรมการพิจารณาอนุญาตด้านกิจการโทรทัศน์ ที่ประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาอนุญาตด้านกิจการโทรทัศน์ ครั้งที่ 5/2566  เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 16 มีนาคม 2566 มีมติมอบหมายให้สำนักงาน กสทช. นำเสนอต่อที่ประชุม กสทช. เพื่อพิจารณา ดังนี้

  • เห็นควรยกเลิกประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์รายการโทรทัศน์สำคัญที่ให้เผยแพร่ได้เฉพาะในบริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไป พ.ศ. 2555
  •  เห็นควรมอบหมายให้สำนักงาน กสทช. จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียและประชาชนทั่วไป เพื่อนำความคิดเห็นที่ได้มาประกอบการพิจารณาก่อนออกประกาศ ซี่งการดำเนินการเป็นกรณีมีความจำเป็นเร่งด่วน จึงให้มีระยะเวลารับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียและประชาชนทั่วไปไม่น้อยกว่า 7 วัน ตามมาตรา ๒๘ แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553  และที่แก้ไขเพิ่มเติม

 

ว่าด้วยเรื่องกฎ Must Have

  • Must Have ถูกกำหนดขึ้นจาก คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ดันไปออกกฎ 7 ชนิดกีฬาที่คนไทยต้องดูฟรี ประกอบด้วย ซีเกมส์, อาเซียนพาราเกมส์, เอเชี่ยนเกมส์, เอเชี่ยนพาราเกมส์, โอลิมปิกเกมส์, พาราลิมปิกเกมส์ และฟุตบอลโลก 
  • ผู้ที่ซื้อลิขสิทธิ์เกี่ยวกับกีฬา 7 ประเภทดังกล่าวเพื่อนำมาเผยแพร่ในประเทศจะต้องปฏิบัติตามภายใต้สภาพบังคับทางกฎหมายดังกล่าวด้วย พร้อมกับต้องแจ้งเจ้าของลิขสิทธิ์ในต่างประเทศทราบว่ามีระเบียบดังกล่าว เพื่อไม่ให้มีผลต่อการละเมิดลิขสิทธิ์
  • ประกาศนี้ออกมาปี 2555 หรือปี 2012 ก่อนฟุตบอลโลก 2014 ทำให้มีปัญหากับ RS เจ้าของสิทธิ์ ที่ได้ซื้อลิขสิทธิ์มาก่อนที่ประกาศฉบับนี้จะออก มีเรื่องฟ้องร้องที่ศาล กสทช. ก็ต้องจ่ายเงินชดเชยให้กับ RS.