นายสิทธิเดช มัยลาภ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) หรือ สกาย กรุ๊ป (SKY Group) เปิดเผยว่า ไตรมาสแรกปี 2566 นอกจากการรับรู้รายได้จากโครงการต่างๆ ที่จะทยอยรับรู้ต่อเนื่องแล้ว การฟื้นตัวเต็มรูปแบบของการท่องเที่ยวไทยจะช่วยหนุนการดำเนินงานของสกาย กรุ๊ปให้เติบโตอย่างมั่นคง โดยเฉพาะหลังสาธารณรัฐประชาชนจีนเปิดประเทศในช่วงต้นปี ทำให้ยอดผู้โดยสารเดินทางเข้า-ออกประเทศเพิ่มสูงขึ้นแบบก้าวกระโดด
โดยจะเห็นได้จากข้อมูลของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 8-31 ม.ค. ที่ผ่านมา มีผู้โดยสารเดินทางเข้า-ออกผ่านทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฉลี่ย 138,287 คนต่อวัน หรือฟื้นตัวสูงถึง 317% จากช่วงเวลาเดียวกันในปี 2565
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจำนวนผู้โดยสารจะมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง จนอาจจะทำให้ทั้งปีนี้มีจำนวนเฉลี่ยถึงวันละ 180,000 คน ซึ่งจะช่วยสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจเทคโนโลยีด้านการบริการภายในท่าอากาศยานของบริษัท รวมถึงแอปพลิเคชัน SAWASDEE by AOT ได้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกัน สกาย กรุ๊ป พร้อมจะเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจกลุ่มอื่นๆ อาทิ เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ แพลตฟอร์มดิจิทัล ไปจนถึงการขยายสู่ธุรกิจเทคโนโลยีด้านต่างๆ ในอนาคตที่จะเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งให้กับบริษัทอย่างต่อเนื่อง
“ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เรายังคงรักษาการเติบโตได้อย่างมั่นคงแม้ต้องเผชิญกับ COVID-19 ในปี 2566 นี้ สกาย กรุ๊ปจึงระดมสรรพกำลัง ทั้งด้านเทคโนโลยีและบุคลากรให้พร้อมรับมือกับโอกาสและความท้าทายใหม่ๆ แล้ว เรายังมีแผน Business Expansion ที่จะสร้างความแข็งแกร่งให้องค์กร รองรับการขยายตัวในอนาคต” นายสิทธิเดช กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานปี 2565 (ม.ค.-ธ.ค. 65) บริษัทสามารถทำรายได้ทั้งหมด 2,800 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 209 ล้านบาท เติบโตขึ้น 280% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564 (YoY%) โดยบริษัทสามารถสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดดได้ เนื่องจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั่วโลก และยอดผู้โดยสารเดินทางเข้า-ออกประเทศเฉลี่ย 70,000 คน/วัน ส่งผลให้รายได้จากโครงการที่เกี่ยวเนื่องกับท่าอากาศยาน อาทิ ระบบบริการผู้โดยสารขึ้นเครื่อง (Common Use Passenger Processing System: CUPPS) และโครงการการให้บริการระบบตรวจสอบและคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า (APPS) เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
ทั้งนี้ ณ สิ้นปี 2565 บริษัทได้เข้าทำสัญญาและมีงานที่รอส่งมอบตามสัญญาในอนาคต (Backlog) อยู่ทั้งสิ้นประมาณ 22,200 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยสร้างการเติบโตให้กับสกาย กรุ๊ปอย่างต่อเนื่อง