วันนี้ 1 กุมภาพันธ์ 2566 จากกรณีที่ คณะรัฐมนตรี หรือ ครม. มีมติเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2548 ที่ให้กรมศุลกากรดำเนินการจัดตั้งระบบการเชื่อมโยงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ณ จุดเดียวของประเทศ เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลหน่วยงานภาครัฐและภาคธุรกิจด้านการนำเข้า ส่งออก นำผ่าน และโลจิสติกส์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการสามารถทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างกันและกับหน่วยงานภาครัฐได้สะดวก ปลอดภัย และเกิดการใช้ข้อมูลร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2561 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ก่อนจะควบรวมกับ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เป็นองค์กรผู้ให้บริการระบบ NSW หรือ NSW Operator ของประเทศ
ล่าสุด พันเอก สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เปิดเผยว่า NT ได้ต่อยอดการพัฒนาระบบ NSW ให้เชื่อมโยงกับหน่วยงานต่างๆ มากขึ้นและเพิ่มประเภทข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่แลกเปลี่ยนกันผ่านระบบ โดยปัจจุบันระบบ NSW ให้บริการเชื่อมโยงข้อมูลทั้งแบบ G2G, B2G และ B2B มากกว่า 10 ล้านเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ต่อเดือน จำนวนผู้ประกอบการกว่า 15,000 ราย หน่วยงานภาครัฐ 34 หน่วยงาน และหน่วยงานต่างประเทศผ่านการเชื่อมต่อกับ ASEAN Single Window หรือ ASW
พันเอก สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ NT เปิดเผยว่า ภายหลังจาก NT ได้ร่วมกับกรมศุลกากร และหน่วยงานต่างๆ พัฒนาระบบ NSW ใหม่ต่อยอดจากระบบเดิมที่พัฒนาโดยกรมศุลกากร และได้ทดลองให้บริการมากว่า 1 ปี ปัจจุบัน NT มีความพร้อมในการเปิดให้บริการ NSW เต็มรูปแบบเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ลดการใช้กระดาษ และลดขั้นตอนการติดต่อระหว่างหน่วยงาน หรือการขออนุญาตจากหน่วยงานภาครัฐ โดยระบบ NSW ใหม่มีประสิทธิภาพสูง และรองรับรูปแบบธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ใหม่เพิ่มขึ้น เช่น คำขอใบอนุญาตยางพารา เอกสารใบรับรองสุขอนามัยพืชหรือ e-Phyto Certificate ใบขนสินค้าอาเซียน ACDD (ASEAN Customs Declaration Document) และหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าอาเซียนแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ATIGA e-Form D เป็นต้น โดย NT มีแผนที่จะขยายการเชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานต่างๆ ให้สามารถรองรับรูปแบบธุรกรรมได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการยกระดับความง่ายในการประกอบธุรกิจ และสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐในการดำเนินการตามพระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2565
“NT ได้ต่อยอดการพัฒนาระบบ NSW ให้เชื่อมโยงกับหน่วยงานต่างๆ มากขึ้นและเพิ่มประเภทข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่แลกเปลี่ยนกันผ่านระบบ โดยปัจจุบันระบบ NSW ให้บริการเชื่อมโยงข้อมูลทั้งแบบ G2G, B2G และ B2B มากกว่า 10 ล้านเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ต่อเดือน จำนวนผู้ประกอบการกว่า 15,000 ราย หน่วยงานภาครัฐ 34 หน่วยงาน และหน่วยงานต่างประเทศผ่านการเชื่อมต่อกับ ASEAN Single Window หรือ ASW”
ด้านนายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ รองอธิบดีกรมศุลกากร รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี เปิดเผยว่า กรมศุลกากร มอบหมายให้ NT เข้ามาพัฒนาระบบ National Single Window หรือ NSW ร่วมกับกรมศุลกากร ในฐานะ NSW Operator เนื่องจากเล็งเห็นในศักยภาพที่จะสามารถพัฒนาระบบ NSW จากเดิมที่กรมศุลกากรได้ออกแบบมาแล้วให้ดียิ่งขึ้น และตลอดระยะเวลา 1 ปี ที่มีการทดลองใช้บริการระบบ NSW เต็มรูปแบบ พบว่าระบบดังกล่าว สามารถเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงการทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศให้สามารถบริการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เกี่ยวกับการนำเข้า ส่งออก นำผ่านจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนได้อย่างราบรื่นและขยายฐานข้อมูลเพิ่มขึ้นจากเดิมเป็นอย่างมาก