ควบรวม TRUE-DTAC : เอกสารผลศึกษา SCF หลุด ระบุชัดประชาชนชนเสียประโยชน์

17 ต.ค. 2565 | 10:41 น.
อัปเดตล่าสุด :17 ต.ค. 2565 | 19:21 น.
1.1 k

เอกสารผลศึกษา SCF : ควบรวมธุรกิจ “TRUE-DTAC” หลุด สรุป 5 ข้อ ผลศึกษาระบุชัดกรณี 2 ค่ายมือถือ รวมธุรกิจระหว่างกันประชาชนชนสูญเสียผลประโยชน์

วันนี้  17 ตุลาคม 2565 นางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสภาของผู้บริโภค (สภาผู้บริโภค หรือ สอบ.) ได้โพสต์เฟสบุ๊คส่วนตัวว่า  ด่วน !!! เอกสารหลุด  รายงานการศึกษาที่ กสทช. จ้างบริษัทที่ปรึกษาต่างประเทศ SCF Associates Ltd. ด้วยงบประมาณสิบล้านบาท ในเรื่องผลกระทบของการควบรวมค่ายมือถือทรู-ดีแทค ที่มีต่อสังคมไทยทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม โอกาสการแข่งขันในอุตสาหกรรมนี้ และสิทธิการเข้าถึงบริการของสังคม ทำให้เห็นหายนะที่สังคมไทยจะต้องเผชิญหน้า หาก กสทช. มีมติอนุญาตให้เกิดการควบรวม ที่ทำให้สามค่ายมือถือยักษ์ เหลือสองค่าย (ทรู+ดีแทค และ เอไอเอส) ซึ่งสรุปโดยสาระสำคัญมีดังนี้

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

1. พื้นที่คนจน พื้นที่ห่างไกล ที่ที่ไม่สร้างผลกำไรจะไม่มีโครงข่าย หรือบริการใหม่ๆ เข้าไปถึง ซึ่งแปลว่า “คนจน คนชายขอบจะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง” โดนละเมิดสิทธิ์การเข้าถึงบริการคลื่นความถี่ที่ประชาชนเป็นเจ้าของ

2. ในขณะที่กลุ่มรายได้สูง กลุ่มชุมชนเมืองที่จะสร้างกำไรสูงสุดให้สองค่ายที่เหลือในตลาด จะได้รับบริการโดยเฉพาะระบบ 5 จี อย่างเต็มประสิทธิภาพ กลุ่มคนรายได้ปานกลางและคนจนเมืองต้องจ่ายค่าบริการที่สูงเกินความจำเป็น กับเทคโนโลยี่ทันสมัย

3. การควบรวมที่มีเหลือสองค่าย หรือ duopoly จะไม่เกิดการแข่งขัน และกลายเป็นระบบร่วมมือกัน หรือ "ฮั้ว" ไปในที่สุด ทั้งนี้เพื่อลดต้นทุนในโครงข่ายสำหรับการให้บริการใหม่ๆ และ ลดการแข่งขันกันเอง

4. การเข้าสู่ระบบสองค่ายหรือ duopoly จะทำให้เศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศล้าหลัง ตามหลังประเทศฟิลิปปินส์ ที่ขณะนี้รั้งท้ายในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน

5. จะต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่าสิบปีถึงจะสามารถพลิกฟื้นระบบตลาดสองค่ายนี้ กลับเป็นตลาดที่มีการแข่งขัน หรือเกิดคู่แข่งหน้าใหม่ในตลาด

 

TRUE-DTAC

อย่างไรก็ตาม สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ได้กำหนดวาระประชุมพิเศษควบรวม “TRUE-DTAC” ในวันที่ 20 ตุลาคม 2565 เพื่อสรุปผลควบรวมธุรกิจอย่างเป็นทางการ