iPhone 14 เปิดจองแล้ว!! ชวนเจาะลึกรายได้ Apple ประเทศไทย

หลังจากงานเปิดตัว iPhone 14 ไปเมื่อค่ำของวันที่ 7 กันยายน ล่าสุดเว็บไซต์ Apple อัปเดตหน้าเว็บเปิดให้คนไทยได้จองพร้อมกับประเทศชั้นนำทั่วโลก โดยเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Apple ระบุว่า ลูกค้าสามารถสั่งซื้อล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน 2565 เวลา 19‍.‍00 น. เป็นต้นไป และเริ่มเริ่มวางจำหน่ายจริง 16 กันยายน 2565

 

Creden Data ชวนวิเคราะห์รายได้ Apple ประเทศไทย และดูข้อมูลเชิงลึกของ บริษัท แอปเปิ้ล เซาท์ เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด โดยได้มีการเปลี่ยนแปลงชื่อบริษัทวันที่ 14 มิ.ย. 2550 จากชื่อเดิม แอปเปิ้ล คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด

- วันเดือนปีที่จดทะเบียน วันที่ 3 ส.ค. 2542 (23 ปี)

- ทุนจดทะเบียน 30 ล้านบาท

- มูลค่าบริษัท 2,228 ล้านบาท

 

จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (3 สาขา)

สำนักงานใหญ่ : อาคาร ดิออฟฟิศเศส แอท เซ็นทรัลเวิลด์

สาขา 1 : อาคาร ไอคอนสยาม

สาขา 2 : Apple Central World

 

ผลประกอบการย้อนหลัง

ปี 62

- รายได้ 53,662 ล้านบาท

- กำไร 1,074  ล้านบาท

- สินทรัพย์  8,099 ล้านบาท

 

ปี 63

- รายได้ 70,265 ล้านบาท

- กำไร 2,314  ล้านบาท

- สินทรัพย์ 10,641 ล้านบาท

 

ปี 64

- รายได้ 94,254 ล้านบาท

- กำไร 1,624 ล้านบาท

- สินทรัพย์ 12,959 ล้านบาท

จัดอันอันดับบริษัทที่รายได้สูงสุดในไทย

กลุ่มบริษัทร้านขายปลีกคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์

 

1.บริษัท แอปเปิ้ล เซาท์ เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด

 - รายได้ 94,254 ล้านบาท

2.บริษัท แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท จำกัด

- รายได้ 13,951 ล้านบาท

3.บริษัท เจ.ไอ.บี.คอมพิวเตอร์ กรุ๊ป จำกัด

- รายได้ 10,270 ล้านบาท

 

การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ

-จำนวน 28 รายการ

-มูลค่า 1,947,331 บาท

 

ผู้ถือหุ้น

- แอปเปิ้ล อิงค์ (อเมริกา)

 มูลค่าหุ้น 2,228 ล้านบาท

- แอปเปิ้ล ยุโรป, อิ้งค์ (อเมริกา)

 มูลค่าหุ้น  37,146 บาท

- แอปเปิ้ล แปซิฟิค แอลแอลซี (อเมริกา)

 มูลค่าหุ้น  37,146 บาท

 

จากข้อมูลผลประกอบการบริษัทมีรายได้รวมทำสถิติใหม่สูงสุดของบริษัทที่ 94,254 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.14% เมื่อเทียบกับช่วงปีก่อน หากแยกรายได้ตามกลุ่มสินค้าพบว่า ผลิตภัณฑ์แทบทุกชนิดของแอปเปิลมียอดการเติบโต ดูได้จากผลประกอบการย้อนหลังที่มีรายได้เพิ่มขึ้นติดต่อกันกว่า10 ปี โดยในปีนี้ บริษัท แอปเปิ้ล เซาท์ เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด เป็นกลุ่มบริษัทร้านขายปลีกคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์ที่รายได้สูงสุดในไทยอีกด้วย

 

หากเจาะลึกสัดส่วนรายได้ของ Apple ในปีที่ผ่านมาพบว่า

- iPhone คิดเป็น 57.8% (เติบโตขึ้น 9.2%)

- บริการ เช่น AppleCare, Apple Music, Apple TV+, iCloud, App Store คิดเป็น 15.7% (เติบโตขึ้น 23.8%)

- Wearables เช่น AirPods และ Apple Watch คิดเป็น 11.9% (เติบโตขึ้น 13.3%)

- Mac คิดเป็น 8.8% (เติบโตขึ้น 25.1%)

- iPad คิดเป็น 5.8% (ลดลง 14.1%)

 

แม้ iPhone จะเป็นธุรกิจหลักที่ทำรายได้มากที่สุด แต่ธุรกิจส่วนที่มีการเติบโตมากที่สุด คือ “Mac” เพราะ Apple หันมาใช้ชิปที่พัฒนาขึ้นเองแทนชิปเจ้าเก่าอย่าง Intel ทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานสูงขึ้น ทั้งในเรื่องความเร็ว และการประหยัดพลังงาน ทำให้ Mac มีระยะเวลาการทำงานได้นานกว่าชิปเซ็ตรุ่นก่อน

 

อย่างไรก็ตามสินค้าตัวเดียวของ Apple ที่มียอดขายลดลงคือ iPad โดยสาเหตุหลักมาจากปัญหาการขาดแคลนชิป แต่ Apple ก็ได้เลือกหันไปผลิตสินค้าตัวอื่นก่อน เช่น iPhone และ Mac 

.