เอไอเอส ชูแนวคิด”คบเด็กสร้างชาติ” ดันคนรุ่นใหม่เดินหน้าองค์กรโปร่งใส

06 ก.ย. 2564 | 17:40 น.
อัปเดตล่าสุด :07 ก.ย. 2564 | 00:50 น.

เอไอเอส ประกาศพลังต่อต้านคอร์รัปชัน พร้อมผลักดันคนรุ่นใหม่ สร้างการมีส่วนร่วมของบุคลากรแบบบูรณาการ เดินหน้าเป้าหมายองค์กรโปร่งใส วันต่อต้านคอร์รัปชัน 2564

เนื่องในวันต่อต้านคอร์รัปชัน 2564 เอไอเอสในฐานะสมาชิกที่ดีของสังคมไทย รวมถึงเป็นองค์กรที่มุ่งเน้นการนำโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีเพื่อสร้างการเติบโตของภาคส่วนต่างๆ ในมิติต่างๆ ทั้งภาคเศรษฐกิจ สังคม และประเทศชาติ ครั้งนี้ เอไอเอสขอเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนสังคมผ่านการทำงานขององค์กรด้วยความโปร่งใส ตามหลักธรรมาภิบาล เนื่องในวันต่อต้านคอร์รัปชัน 2564 ที่จัดขึ้นโดยองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย)  ซึ่งในปีนี้ได้หยิบแนวคิด “คบเด็กสร้างชาติ” มาเป็นแนวทางหลักของกิจกรรม ทำให้ในปีนี้เอไอเอสจะเน้นสร้างการมีส่วนร่วมของพนักงานบุคลากรกว่า 12,000 คน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ให้เป็นกำลังสำคัญในการระดมพลังเพื่อสร้างจิตสำนึกที่ดีในการต่อต้าน คอร์รัปชั่นและส่งต่อไปยังผู้มีส่วนได้เสียกับองค์กร ทั้งลูกค้า พันธมิตร สังคม และประเทศชาติต่อไป

นางสาวกานติมา เลอเลิศยุติธรรม หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านทรัพยากรบุคคล กลุ่มบริษัท AIS และ อินทัช กล่าวว่า “วันนี้ชาวเอไอเอส ทั้งผู้บริหารและพนักงาน ขอร่วมประกาศพลังต่อต้านคอร์รัปชันเนื่องในวันต่อต้านคอร์รัปชัน 2564 ที่เอไอเอสได้เน้นย้ำเรื่องความโปร่งใสและการทำงานตามหลัก ธรรมาภิบาลมาโดยตลอด โดยในปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “คบเด็กสร้างชาติ” ซึ่งสอดคล้องกับนโนบายหลักของเราที่พร้อมผลักดันคนรุ่นใหม่และชาวเอไอเอสกว่า 12,000 คนให้มีส่วนร่วมในการสร้างองค์กรโปร่งใส ผ่านกิจกรรมต่างๆ และเครื่องมือเทคโนโลยี ที่จะมาเป็นกำลังเสริมในการต่อต้านคอร์รัปชันที่สร้างสรรค์และแปลกใหม่”

 

 

“สำหรับการแสดงพลังต่อต้านคอร์รัปชัน เอไอเอส ได้ดำเนินการมาโดยตลอด เรามุ่งเน้นไปที่การสร้างองค์ความรู้ ความเข้าใจ เพื่อให้เกิดจิตสำนึกที่ดีต่อการสร้างความสุจริตในการทำงานอย่างเป็นรูปธรรม จนกลายเป็นค่านิยมในการปฏิบัติหน้าที่ของชาวเอไอเอสต่อทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งลูกค้า พาร์ทเนอร์ หน่วยงานต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกด้วยความซื่อสัตย์สุจริต สะท้อนหลักคิดขององค์กรในภาพใหญ่ที่ต้องการสร้างการเติบโตให้กับประเทศด้วยความรับผิดชอบด้วยการสมาชิกที่ดีของสังคม” นางสาวกานติมา กล่าวทิ้งท้าย