2 เดือน!! รวบเว็บพนัน 98 ราย เงินหมุนเวียนกว่า 1,900 ล้าน

23 ก.พ. 2564 | 18:54 น.

“พุทธิพงษ์” เผยแค่ 2 เดือน ประสานตำรวจรวบเว็บพนันออนไลน์ ได้ผู้ต้องหาถึง 98 ราย พบเงินหมุนเวียนมากกว่า 1,900 ล้าน เร่งเจ้าหน้าที่รวบรวมหลักฐานจากประชาชนที่แจ้งผ่านเพจ “อาสา จับตา ออนไลน์” ส่งต่อ ศปอส.ตร. กวาดล้างต่อเนื่อง

      เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงเดินหน้าปราบปรามการเล่นพนันออนไลน์ที่ยังพบการลักลอบเปิดและชักชวนให้ประชาชน เยาวชนหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อเข้าไปเล่นจนหมดตัว สร้างความเสียหายแก่ครอบครัวและภาพรวมของประเทศ ซึ่งนโยบายของรัฐบาลโดยพลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รวบรวมหลักฐาน เพื่อติดตามสืบสวนสอบสวนจนนำไปสู่การเข้าจับกุมกวาดล้างนำผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี

นายพุทธิพงษ์   ปุณณกันต์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส)

     โดยนายพุทธิพงษ์   ปุณณกันต์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส) ระบุว่า  ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ในสังกัดที่รับผิดชอบ ทั้งการรับแจ้งจากประชาชน ที่ส่งข้อมูลแจ้งเข้ามาผ่านเพจเฟซบุ๊ค “อาสา จับตา ออนไลน์” กองป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปท.)กระทรวงดิจิทัลฯ ส่งข้อมูลประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) เพื่อเร่งปราบปรามจับกุม และปิดเว็บไซต์ไม่ให้มีการลักลอบเปิดให้เล่นพนันออนไลน์ได้อีก 

       ทั้งนี้จากการรายงานผลการจับกุมคดีลักลอบเปิดเว็บพนันออนไลน์ ในช่วงเดือนมกราคม ถึง 20 กุมภาพันธ์ 2564 พบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเข้าจับกุมและปิดเว็บพนันออนไลน์ ได้ผู้ต้องหา 98 ราย  พบเงินหมุนเวียนมากกว่า 1,900 ล้านบาท ซึ่งจับกุมในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก ชลบุรี ฉะเชิงเทรา และล่าสุดคดีนายเสี่ยโป้ โป้อานนท์ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่ถูกจับกุมเป็นข่าวดังเมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

     “กระทรวงดีอีเอสไม่นิ่งนอนใจ กำชับให้เจ้าหน้าที่เร่งรวบรวมหลักฐานส่งต่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายในการกวาดล้างจับกุมผู้กระทำความผิดมาลงโทษโดยเร็ว เพื่อไม่ปล่อยให้สร้างความเสียหายแก่ประชาชนโดยเฉพาะเยาวชนของชาติไปมากกว่านี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังคงทำงานต่อเนื่องไม่ลดละเพื่อแก้ปัญหาพร้อมทั้งขอขอบคุณที่พี่น้องประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตาและได้แจ้งเข้ามาที่เพจอาสาจับตาออนไลน์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ของเรา กำลังเร่งดำเนินการตรวจสอบตามลำดับและส่งเรื่องต่อไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ดำเนินการจับกุมตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป” นายพุทธิพงษ์กล่าว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :