ดูชัดๆ “แล็ปท็อป5G-พับได้”เครื่องแรกของโลก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในงานงานจัดแสดงผลิตภัณฑ์ด้านเทคโนโลยีและอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค หรือ CES 2020 (Consumer Electronics Show) เลอโนโวเดินหน้านำเสนอนวัตกรรมที่ เพื่อเปลี่ยนโลกโดยใช้เทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการดำเนินชีวิตและการทำงาน ในยุคที่มีการเชื่อมต่ออยู่ตลอดเวลาอย่างในปัจจุบัน โดยเทคโนโลยีที่เลอโนโวนำมาจัดแสดงในปีนี้ไม่เพียงแค่ฉลาดขึ้น แต่ยังทั้งเร็วขึ้น และพับได้มากขึ้นกว่าเดิม

โดยใหม่ที่เลอโนโว นำเข้ามาเสนอในงาน  ประกอบด้วย การเปิดตัวคอมพิวเตอร์เครื่องแรกของโลกจากเลอโนโวแบบ 5G ซึ่งเหนือกว่าการใช้งานบนโทรศัพท์มือถือ เลอโนโว Yoga 5G คือแล็ปท็อปพกพาง่าย แบบ 2 อิน 1 ที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Qualcomm® Snapdragon® 8cx 5G Compute Platform ซึ่งให้ความรวดเร็วในการเชื่อมต่อแบบ 5G ที่เร็วกว่า 4G ถึง 10 เท่า บางเบาเพียง 1.3 กิโลกรัม บนหน้าจอสัมผัสขนาด 14 นิ้วแบบ Full HD IPS ความสว่าง 400 nits.  เลอโนโว Yoga 5G จะพร้อมวางจำหน่ายในประเทศสหรัฐอเมริกา ช่วงฤดูใบไม้ผลิ ปี 2020 ที่ราคาเริ่มต้น1,499 เหรียญสหรัฐ

โดย 5G ยังคงถูกกล่าวถึงอย่างต่อเนื่องในฐานะเทคโนโลยีเปลี่ยนโลกที่สำคัญสำหรับการสร้างเมืองอัจฉริยะ (Smart Cities) สาธารณูปโภคอัจฉริยะ (Smart Infrastructure) และระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ (Smart IoT) 

นอกจากนี้เลอโนโว ThinkPad X1 Fold คือคอมพิวเตอร์เครื่องแรกของโลกที่สามารถพับจอได้และใช้งานได้จริงบนจอภาพแบบ OLED ออกแบบเพื่อการทำงาน Mobile Computing ที่สมบูรณ์แบบในดีไซน์ที่คุณคาดไม่ถึง เมื่อวางแบบเรียบ ตัวเครื่องมีขนาด 13.3 นิ้ว น้ำหนักเบาเพราะผลิตจากวัสดุอัลลอยและคาร์บอนไฟเบอร์ แต่ให้ความหรูหราด้วยวัสดุหนังที่เป็นปลอกครอบด้านหลังตัวเครื่อง แข็งแรงและผ่านการทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานในแบบคอมพิวเตอร์ตระกูล ThinkPad  เต็มประสิทธิภาพด้วยพลังโปรเซสเซอร์จาก Intel Core และ Intel Hybrid Technology เครื่องที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 จะพร้อมจำหน่ายในเดือนพฤษภาคม 2020 ในส่วนของระบบปฏิบัติการ Windows 10X นั้นจะพร้อมจำหน่ายภายหลัง ตัวเครื่องรองรับเทคโนโลยี 5G  ราคาวางจำหน่ายของ ThinkPad X1 Fold ที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10  เริ่มต้นที่ 2,499 เหรียญสหรัฐ โดยจะวางจำหน่ายในประเทศสหรัฐอเมริกา ในเดือนพฤษภาคม 2020

ขณะที่เส้นแบ่งระหว่างการใช้งานแล็ปท็อป และสมาร์ทโฟนเริ่มบางลงเรื่อย ๆ และการทำงานแบบมัลติทาสก์จากหลาย ๆ อุปกรณ์ก็เป็นวิถีการทำงานของแรงงานรุ่นใหม่ เลอโนโวจึงเปิดตัว ThinkBook Plus เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้แก่ผู้ใช้งาน โดย ThinkBook Plus มาพร้อมนวัตกรรมหน้าจอ e-ink ขนาด 10.8 นิ้วบนฝาพับด้านที่เป็นมอนิเตอร์ ซึ่งสามารถใช้วาดภาพประกอบ และจดบันทึกได้ด้วย Precision Pen ปากกาสัมผัสมากประโยชน์ อีกทั้งยังแสดงการแจ้งเตือนได้ด้วยเมื่อปิดฝาพับ ประมวลผลรวดเร็วเต็มประสิทธิภาพด้วยซีพียู 10th Gen Intel Core และระบบปฏิบัติการ Windows 10 ไดร์ฟ SSD ที่สามารถเพิ่มหน่วยความจำ Intel® Optane™ ได้ หน้าจอหลักภายในเครื่องขนาด 13.3 นิ้วแบบ FHD แล็ปท็อป ThinkBook Plus มีทั้งคุณสมบัติและฟังก์ชั่นที่เป็นนวัตกรรมล่าสุด ช่วยยกระดับประสิทธิภาพการทำงานมัลติทาสก์ ตอบโจทย์การทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ  ThinkBook Plus จะวางจำหน่ายในประเทศสหรัฐอเมริกาในเดือน มีนาคม 2563 ในราคาเริ่มต้นที่ 1,199 เหรียญสหรัฐ

นอกจากนี้ยังมี   Lenovo IdeaPad Duet Chromebook ออกแบบมาสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการใช้งานแอพพลิเคชัน มัลติมีเดียเพื่อความบันเทิง หรือมองหาความคล่องตัวในการทำงานในขณะเดินทาง โดย Lenovo IdeaPad Duet Chromebook ถือเป็นโครมบุ๊กที่บางและเบาที่สุดในโลก เครื่องมาพร้อมแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานสูงถึง 10 ชั่วโมง และสามารถใช้งานร่วมกับ USI stylus ปากกาสไตลัสใช้งานง่าย เพื่อการเขียนที่ลื่นไหล ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Chrome  OS โดยรองรับโปรแกรม Microsoft Office® โปรแกรมป้องกันไวรัสและมีระบบ Google Assistant™ ในตัว เครื่องมาพร้อมหน้าจอ IPS Full HD ขนาด 10.1 นิ้ว ขอบบาง ความสว่าง 400  nits และมีขอบเขตของสี (color gamut) ที่ 70% นอกจากนี้ยังเป็นโครมบุ๊ก 2-in-1 ที่สามารถถอดฝาพับด้านที่เป็นมอนิเตอร์ออกจากฝาพับด้านที่เป็นคีย์บอร์ดได้อย่างสมบูรณ์แบบ IdeaPad Duet Chromebook จะวางจำหน่ายในประเทศสหรัฐอเมริกาในเดือน พฤษภาคม 2563 ในราคาเริ่มต้นที่ 279.99 เหรียญสหรัฐ

และจากความสำเร็จของนาฬิกาอัจฉริยะ Lenovo Smart Clock และหน้าจออัจฉริยะ Lenovo Smart Display เลอโนโวจึงตอกย้ำความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฮม ด้วยการเปิดตัว Lenovo Smart Frame กรอบรูปอัจฉริยะขนาดใหญ่ 21.5 นิ้ว ปรับมุมรับภาพได้ 90 องศา ที่มีผิวด้านนอกแบบขัดเงา และหน้าจอแบบด้านเคลือบสารป้องกันแสงสะท้อน ทำให้สามารถดูภาพได้อย่างชัดเจนคมชัด ทั้งในแนวตั้งและแนวนอน ไม่ว่าจะตั้งค่าความสว่างไว้เท่าไหร่หรือมองดู ณ ช่วงเวลาใดของวัน เซ็นเซอร์โทนสีของกรอบรูปจะปรับความสว่างของภาพให้สอดคล้องกับแสงในห้อง มอบประสบการณ์การดูที่เป็นธรรมชาติและสวยงาม เหมาะสำหรับวางตั้งไว้ในห้องใดก็ได้ของบ้าน ช่วยรื้อฟื้นและแบ่งปันความทรงจำอันอบอุ่น ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถใช้มือควบคุม เพื่อให้กรอบรูปเล่น หรือหยุดสไลด์รูปภาพหรือวีดีโอชั่วคราวได้