สงครามค้าออนไลน์ ‘สหรัฐฯ-จีน’ร้อนฉ่า ‘อีเบย์’ เร่งเสริมสินค้าไทย

สงครามการค้าออนไลน์สหรัฐฯ-จีน ระอุ ยักษ์มาร์เก็ตเพลสมะกันเดินหน้ารุกตลาดไทย ล่าสุด “อีเบย์” เร่งปูพรมเสริมทักษะการขาย ปั้นเอสเอ็มอีส่งสินค้าขายทั่วโลก พร้อมชูเทคโนโลยีช่วยบริหารจัดการร้านค้าอำนวยความสะดวกแก่ผู้ค้าปลีกออนไลน์

มูลค่าการส่งออกไทยปี 2561 มีมูลค่าประมาณ 8.1 ล้านล้านบาท โดยไทยเป็นศูนย์กลางการส่งออกสินค้าหลายประเภทของภูมิภาคอาเซียน สินค้าไทยเป็นที่ยอมรับเรื่องคุณภาพและเป็นที่ต้องการในตลาดโลก ทำให้ตกเป็นเป้าหมายของอี-มาร์เก็ตเพลสระดับโลก เข้ามาหาสรรหาสินค้าไทยเข้าไปวางขายผ่านแพลตฟอร์มตัวเอง 2-3 ปีที่แล้ว อี-มาร์เก็ตเพลส จีน นำโดย “อาลีบาบา” มีการเซ็น สัญญารัฐบาล สนับสนุนเอสเอ็มอี ขายสินค้าบนอาลีบาบาไปยังตลาดโลก มาปีนี้อี-มาร์เก็ตเพลสจากฝั่งอเมริกา ทั้ง อเมซอน และอีเบย์ ต่างประกาศสนับสนุนเอสเอ็มอี ทั้งเสริมทักษะขายสินค้าและสนับสนุนเทคโนโลยีช่วยจัด การหน้าร้าน ทำให้สงครามการค้าบนโลกออนไลน์ระหว่างอีมาร์ เก็ตเพลสจีน และสหรัฐฯ ปะทุขึ้น

นางเจนนี หุย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อีเบย์ประจำ ภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ฮ่องกง และไต้หวัน เปิดเผยว่า อีเบย์มีจำนวนผู้ซื้อทั่วโลกกว่า 180 ล้านคน ใน 190 ประเทศทั่วโลกและมีรายได้จากการซื้อขายนอกสหรัฐอเมริกาคิดเป็น 60% ของรายได้ทั้งหมด โดยในปี 2561 อีเบย์มียอดขายกว่า 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่การค้าปลีกส่งออกข้ามประเทศ (Cross Border Trade: CBT) มีการเติบโตที่สูงกว่าอัตราการเติบโตของอี-คอมเมิร์ซทั่วโลกกว่าเท่าตัว โดยคาดการณ์ว่าในปี 2565 ส่วนแบ่งตลาดอี-คอมเมิร์ซทั่วโลกทั้งหมดจะสูงถึง 20% และเอเชีย-แปซิฟิกจะขึ้นแท่นเป็นภูมิภาคที่มีการค้าปลีกข้ามประเทศใหญ่ที่สุดในตลาดอี-คอมเมิร์ซทั้งด้านการนำเข้าและส่งออก ซึ่งงานวิจัยจากกูเกิล เทมาเสกเผยว่าตลาดอี-คอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีมูลค่ารวม 23.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และคาดว่าจะเติบโตได้ถึง 102 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2568

“อีเบย์เล็งเห็นถึงศักยภาพของการค้าปลีกส่งออก ของผู้ประกอบการไทย และสินค้าไทยได้รับการยอมรับในตลาดโลกว่าเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ มีดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ โดยสินค้ายอดนิยม 5 กลุ่มหลักของไทย ได้แก่ จิวเวลรี, สินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม, สินค้าตกแต่งบ้าน, ของ สะสม และชิ้นส่วนยานยนต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้ากลุ่มจิวเวลรี ที่มีความต้องการซื้อสูงจากลูกค้าทั่วโลก ทั้งนี้สินค้ากว่า 50% ของผู้ค้า ในไทยมีการส่งออกไปยังสหรัฐ อเมริกามากที่สุด ตามมาด้วย
สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย เยอรมนี และรัสเซีย ขณะที่พฤติกรรมผู้ซื้อบนอีเบย์นั้นมีความคาดหวังไม่ ต่างกับการซื้อแบบออฟไลน์ ซึ่งต้องการการดูแลและบริการหลังการขายรวมถึงการขนส่งที่รวดเร็ว โดยตลาด ที่เติบโตสูงที่สุดนั้นคือ ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ขณะที่ประเทศไทยมีการเติบโตอยู่ในท็อป 3 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”

สำหรับกลยุทธ์การสร้างการเติบโตในตลาด CBT นั้นอีเบย์ให้ความสำคัญในเรื่องการขนส่ง (Logistics), ระบบการชำระเงิน (Payment), ความเชื่อมั่นและความปลอดภัย (Trust & Safety) ซึ่งอีเบย์ ได้มีแผนการดำเนินงานระยะยาวช่วง 2-3 ปี คือ โครงการฝึกอบรมผู้ขายเพื่อปั้นทักษะการค้าปลีกออนไลน์ ให้ผู้ขายสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการพัฒนาทักษะให้ผู้ขายสามารถเพิ่มยอดขายได้ดียิ่งขึ้น มีโค้ชให้คำปรึกษาในการทำธุรกิจ ช่วยวางแผนในการทำธุรกิจ นอกจากนี้ยังสนับสนุนทางด้านเทคโนโลยีให้มีการใช้แอพพลิเคชันเพื่อช่วยในการจัดการร้านค้าอีเบย์สโตร์ (eBay Stores)

ขณะที่ก่อนหน้านี้ อเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง อี-มาร์เก็ตเพลสสัญชาติอเมริกัน หนึ่งในหน่วยธุรกิจ (Business Unit) ของ อเมซอนก็ได้เข้ามารุกตลาดเอสเอ็มอีไทยโดยได้จัดตั้งทีมในไทย เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการขายสินค้ารวมถึงมีการให้ความรู้จากทีมงาน ด้วยการชูจุดขายที่ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถขายสินค้าได้แบบวันสต็อปเซอร์วิส ทั้งการขายสินค้าและการจัดส่ง ตั้งเป้าที่จะทำความเข้าใจตลาดในประเทศไทย เพื่อทำให้ผู้ประกอบการไทยสามารถทำตลาดและขายสินค้าในสหรัฐอเมริกาได้ ซึ่งสินค้าของไทยที่คาดว่าจะทำตลาดได้ดีมีอยู่ 5 หมวดหมู่ คือ เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย, ตกแต่งบ้าน, สินค้าสัตว์เลี้ยง, เครื่องกีฬา และของเล่น 

หน้า 11 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3483 ระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน - 3 กรกฎาคม 2562