ทั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของงาน Thailand-Japan Sustainable Business Forum 2025 ที่จัดโดยองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) สำนักงานกรุงเทพฯ ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และสำนักงานคณะกรรมการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)
โครงการนี้ ได้รับทุนสนับสนุนจาก METI Global South Grant Program โดย METI หรือ กระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมของประเทศญี่ปุ่น (Ministry of Economy,Trade and Industry) เป็นผู้ให้ทุนหลักและออกค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ของโครงการ
โครงการ Microalgae CCUS มีวัตถุประสงค์หลักในการทดสอบแนวคิดการตรึงคาร์บอนไดออกไซด์ด้วยการเพาะเลี้ยงจุลสาหร่าย พร้อมนำชีวมวลที่ได้ไปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ โดยมุ่งสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนสีเขียวตามแนวคิด BCG (Bio-Circular-Green Economy) ซึ่งเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลไทย
แผนการดำเนินงานของโครงการนี้ เริ่มต้นด้วยการศึกษาความเป็นไปได้ในช่วงกรกฎาคม-ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา ขั้นต่อไปจะเป็นการทดสอบการเพาะเลี้ยงและทดสอบความเป็นไปได้เชิงพาณิชย์จนถึงธันวาคม 2568 ก่อนที่จะมีการประเมินการขยายขนาดตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป โดยค่าใช้จ่ายของโครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากโปรแกรมทุน METI Global South ปี 2568 ซึ่งเป็นการแสดงถึงความสำคัญของโครงการในระดับนานาชาติ
"Microalgae CCUS" ถือว่ามีความสำคัญต่อการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทย เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีในการลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศ ซึ่งโครงการนี้มีความพิเศษตรงที่ใช้จุลสาหร่ายในการดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการแยกคาร์บอนแบบดั้งเดิมที่มีต้นทุนสูง ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกเท่านั้น แต่ยังสามารถนำชีวมวลจากจุลสาหร่ายไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง เช่น เชื้อเพลิงชีวภาพ ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ อาหารสัตว์ และเครื่องสำอาง สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม
นอกจากการช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โครงการนี้ยังมีเป้าหมายในการผลิตส่วนผสมใหม่จากชีวมวลสำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพของคนไทย สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน รวมถึงการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี CCUS ในภูมิภาคนี้ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของไทยในการเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจยั่งยืนของอาเซียน เสริมความแข็งแกร่งให้กับนโยบาย BCG Economy และการมุ่งสู่เป้าหมาย Carbon Neutrality ในระยะยาวอีกด้วย
ทั้งนี้ Algal Bio จากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งที่มีความเชี่ยวชาญด้านจุลสาหร่ายโดยเฉพาะ ก่อตั้งขึ้นในปี 2561 โดยพัฒนาองค์ความรู้จากงานวิจัยกว่า 20 ปีที่มหาวิทยาลัยโตเกียว และครอบครองคลังสายพันธุ์จุลสาหร่ายถึง 100 สายพันธุ์ 1,260 สายพันธุ์ย่อย พร้อมด้วยประสบการณ์และความรู้เกี่ยวกับวิธีการเพาะเลี้ยงที่เหมาะสม
Algal Bio เคยประสบความสำเร็จในการดำเนินโครงการทดสอบแนวคิด CCUS ในญี่ปุ่นระหว่างปี 2565-2567 ร่วมกับบริษัทไฟฟ้าคันไซ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก NEDO องค์กรพัฒนาพลังงานใหม่และเทคโนโลยีอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น และนำประสบการณ์ดังกล่าวมาต่อยอดในประเทศไทย
ขณะที่โรงไฟฟ้าบีแอลซีพี เป็นหนึ่งในผู้ผลิตพลังงานชั้นนำของไทย ที่กำลังเดินหน้าโครงการลดคาร์บอนหลายรูปแบบ เพื่อตอบสนองต่อเป้าหมาย Carbon Neutrality ทั้งโครงการเผาไหม้ร่วมด้วยแอมโมเนียและชีวมวล โครงการดักจับและใช้ประโยชน์คาร์บอน (CCU) รวมถึงโครงการดักจับและกักเก็บคาร์บอน (CCS)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง