คลังไร้ข้อสรุป ตอบโต้ “ทรัมป์” เตรียมขึ้นภาษีศุลกากรต่างตอบแทน

หลังจากการรับตำแหน่งของโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐยุค “ทรัมป์ 2.0” ล่าสุด สหรัฐเตรียมบังคับใช้นโยบายภาษีศุลกากรต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) หรือภาษีเท่าเทียมกับประเทศคู่ค้าทั่วโลก ในวันที่ 2 เมษายน 2568 ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องจับตาว่า จะส่งผลกระทบต่อไทยอย่างไร เนื่องจากประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่พึ่งพาสหรัฐเป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 

โดยนายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีที่สหรัฐ ประกาศจะเก็บภาษีศุลกากรต่างตอบแทน 2 เม.ย.นี้ ว่า กระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยงานที่ดูแลเรื่องดังกล่าว โดยสหรัฐเก็บภาษีศุลกากรก็จริง แต่เพื่อกีดกันทางการค้า ดังนั้น การเตรียมการรับมือ และลดผลกระทบนั้น กระทรวงพาณิชย์น่าจะรู้ดีที่สุด

ด้านแหล่งข่าวจากกรมศุลกากร กล่าวว่า แนวทางในการรับมือกรณีดังกล่าวนั้น ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน โดยกรมศุลกากรเป็นหน่วยงานปฏิบัติตามนโยบาย แต่หน่วยงานที่เป็นผู้คิดวิธีการรับมือ หรือในเชิงวิชาการจะเป็นสำนักงานเศรผาฐกิจการคลัง (สศค.) ต้องดูว่าส่วนใดมีความเหมาะสมด้วย ซึ่งขณะนี้สหรัฐก็ยังไม่ได้มีความชัดเจนว่าจะปรับขึ้นภาษีดังกล่าวประเทศใด หรือมีรายละเอียดชัดเจนอย่างไรบ้าง

อย่างไรก็ตาม หากถามว่าถ้าสหรัฐปรับขึ้นภาษีตามที่เป็นข่าวจริง จะสามารถดำเนินการอย่างไรได้บ้าง ซึ่งก็ทำไม่ได้ เพราะขณะนี้สหรัฐผ่อนปรนภาษีนำเข้าให้เราฝ่ายเดียว และประเทศไทยไม่สามารถปรับขึ้นภาษีนำเข้าจากสหรัฐได้ เนื่องจากประเทศไทยไม่มีพันธสัญญาเสรีการค้า (FTA) ร่วมกัน 

“บางสินค้าที่สหรัฐ เก็บภาษีนำเข้าจากไทยอัตราต่ำ อาจจะมีบางสินค้าเหล่านั้นที่ได้รับผลกระทบ โดยเราจะต้องเตรียมการในส่วนของผู้ประกอบการ เข้าใจว่ากระทรวงการต่างประเทศก็อยู่ระหว่างเจรจาอยู่ ซึ่งอธิบดีกรมศุลกากรก็มีนโยบายให้ศึกษาเรื่องนี้ แต่การปรับขึ้นภาษีนั้นขัดหลักสากลของศุลกากร“