นายปิยบุตร จารุเพ็ญ กรรมการผู้จัดการ บีไอจี เปิดเผยว่า บริษัทได้ดำเนินการพัฒนาและนำนวัตกรรมออกซิเจนคาร์บอนต่ำ (Low-Carbon Oxygen) มาใช้ในกระบวนการผลิตเยื่อกระดาษให้กับบริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) เป็นรายแรกของอุตสาหกรรมกระดาษในไทย
ทั้งนี้ บีไอจีมุ่งมั่นพัฒนาโซลูชันด้านก๊าซอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยกระบวนการผลิตก๊าซของบีไอจีได้รับการรับรองจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. ว่ามีส่วนช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อย่างมีนัยสำคัญ
ส่งผลให้ก๊าซอุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำจากบีไอจี เช่น ออกซิเจน ไนโตรเจน และไฮโดรเจน สามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมให้กับภาคอุตสาหกรรม อีกทั้งยังเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในตลาดโลกได้อีกด้วย
สำหรับดั๊บเบิ้ล เอ ถือเป็นผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมกระดาษไทยรายแรก ที่นำนวัตกรรมออกซิเจนคาร์บอนต่ำ (Low-Carbon Oxygen) ของบีไอจี เข้ามาใช้ในกระบวนการผลิตเยื่อกระดาษเป็นรายแรกของอุตสาหกรรมกระดาษไทย สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การนำออกซิเจนคาร์บอนต่ำมาใช้ในกระบวนการผลิตเยื่อกระดาษมีส่วนสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
สอดคล้องกับนโยบายการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนของบริษัท ซึ่งมุ่งเน้นการดูแลใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม โดยเฉพาะการไปสู่เป้าหมาย Net Zero ด้วยการนำก๊าซ Low-Carbon Oxygen มาใช้เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากซัพพลายเชน
นอกจากนี้ บริษัทยังสนับสนุนให้ประเทศไทยมุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) โดยในปี 2566 บริษัทได้บรรลุความสำเร็จในเป้าหมายระยะสั้นไปได้เร็วกว่าและดีกว่าที่ตั้งไว้ โดยสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกถึง 48% จากปีฐานที่ประเมินไว้ และเป้าหมายต่อไปคือการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2583 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 ซึ่งเร็วกว่าเป้าหมายของประเทศที่กำหนดไว้ในปี 2608
ข่าวที่เกี่ยวข้อง