โออาร์ชี้ตลาด สปป.ลาวสดใส ลุยทุ่มงบขยายปั๊ม-Non oil

02 ส.ค. 2567 | 16:34 น.
อัปเดตล่าสุด :02 ส.ค. 2567 | 16:35 น.

โออาร์ รุกขยาย PTT Station สปป.ลาวต่อเนื่อง ทุ่มงบ 88 ล้าน ลุยตั้งสถานีบริการสู่เป้า 71 แห่ง ในปี 73 พร้อมปรับปรุงคลังน้ำมัน คาเฟ่ อเมซอนเพิ่มเป็น 110 สาขาปีนี้ ขยายร้านสะดวกซื้อจิฟฟี่ ดันยอดขายน้ำมันเครื่องพีทีที ลูบริแคนทส์ เป็น 5 ล้านลิตร สร้างเรกคอร์ดใหม่ให้กับโออาร์

นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือโออาร์ (OR) เปิดเผยถึงการลงทุนใน สปป.ลาว ว่า สปป.ลาวยังเป็นประเทศที่โออาร์สามารถหารายได้จากการพัฒนาธุรกิจด้านส่งออกกาแฟกลับเข้ามาในไทยได้ แม้ในเวลานี้ สปป.ลาวจะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ เมื่อเทียบกับวิกฤตในประเทศอื่นบางประเทศที่อาจจะไม่สามารถทำรายได้ส่วนอื่นเข้ามาได้แบบนี้

ทั้งนี้ ในฐานะที่เคยทำเทรดดิ้งมาก่อน มองว่าแต่ละประเทศอาจจะมีปัจจัยแตกต่างกัน แต่จุดสำคัญของการตัดสินใจลงทุน ต้องมองให้รอบด้านใน 4-5 เรื่อง ที่สำคัญคือศักยภาพของประเทศ ซึ่ง สปป.ลาวเป็นทำเลที่มีศักยภาพสูง แม้อาจจะไม่สูงเท่ากับกัมพูชาที่โออาร์ ให้เป็นฐาน Global แห่งที่ 2 แต่ สปป.ลาวก็มีความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจที่ดีกับจีน ทำให้มีการขยายการลงทุนของจีนเข้ามาจำนวนมาก ซึ่งจะเป็นโอกาสของโออาร์ด้วย

นอกจากนี้ ประเด็นสำคัญคือ ใน สปป.ลาว โออาร์ ไม่มีคู่แข่งค้าน้ำมันที่เป็นทุนไทยรายอื่นเลย ส่วนคู่แข่งด้านพลังงานจากจีนก็คงไม่เข้ามาแข่ง เพราะกว่าจะขนส่งมาก็มีต้นทุนที่สูง ซึ่งการที่ธุรกิจของ OR อยู่ใน สปป.ลาวได้ยาวนานกว่า 20-30 ปี มีธุรกิจที่เป็นจุดแข็งที่ทำรายได้ต่อเนื่อง สิ่งสำคัญที่ตอนนี้คือ ทำอย่างไรที่ให้แบรนด์โออาร์เป็นแบรนด์ที่รัก (แบรนด์เลิฟ) ของคนลาว เพื่อสร้างการเติบโตในอนาคต

โออาร์ชี้ตลาด สปป.ลาวสดใส ลุยทุ่มงบขยายปั๊ม-Non oil

สำหรับภาพรวมตลาดน้ำมันใน สปป.ลาวนั้น ปัจจุบันมีความต้องการใช้น้ำมันปีละ 140 ล้านลิตร PTTLAO ครองสัดส่วนอยู่ 20 ล้านลิตร ติดในกลุ่มท็อป 5 ร่วมกับแบรนด์อื่นทั้งหน่วยงานรัฐวิสาหกิจของ สปป.ลาว แบรนด์ท้องถิ่น และแบรนด์ต่างชาติอื่น โดยปี 2567 นี้คาดว่าการขายน้ำมันผ่านสถานีบริการน้ำมันพีทีที สเตชั่น และร้านคาเฟ่ อเมซอนที่ สปป.ลาวจะเติบโตขึ้น 4% เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่งผลให้รายได้จากการขายเติบโตขึ้น ตามปริมาณการขยายสาขาทั้งธุรกิจน้ำมันและนอนออยล์ (Non Oil) ซึ่งวางแผนขยายสถานีบริการน้ำมัน PTT Station ในปีนี้เพิ่มอีก 7 แห่ง รวมเป็น 63 แห่ง จากปัจจุบันมีอยู่ 56 แห่ง ในจำนวนนี้เป็น COCO 17 แห่ง ที่เหลืออีก 39 แห่งเป็น DODO และมีแผนขยายเป็น 71 แห่งในปี 2573 เนื่องจาก สปป.ลาวเป็นตลาดที่มีศักยภาพ แม้จะมีประชากรเพียง 7.5 ล้านคน แต่การเข้ามาของทุนจีน ทำให้ตลาดนี้มีการใช้น้ำมันสูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม การขยายสถานีบริการจะทำควบคู่กับธุรกิจคลังน้ำมัน ซึ่งปัจจุบันกักเก็บได้ 7.8 ล้านลิตร มีความสามารถในการสำรองน้ำมันได้นานถึง 10 วัน ซึ่งธุรกิจดังกล่าวนี้จะเน้นเรื่องการลงทุนเพื่อปรับปรุงคุณภาพมาตรฐานเหมือนเมืองไทย ต้องดูแลเพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับ สปป.ลาว ทำให้ไม่เกิดการขาดแคลน
 

ด้านงบลงทุนใน สสป. ลาวปีนี้ของ OR จะใช้งบฯลงทุนไม่มากนัก โดยส่วนใหญ่ยังคงเป็นงบปรับปรุงคลังน้ำมันประมาณ 40 ล้านบาท ขณะที่การขยายสถานีบริการน้ำมัน เป็นการลงทุนโดยดีลเลอร์ ส่วนการขยายร้านคาเฟ่ อเมซอน จะใช้ประมาณ 18 ล้านบาท และจะมีการลงทุนร้านสะดวกซื้อ เงินลงทุนประมาณ 30 ล้านบาท อย่างไรก็ดี บริษัทมองเห็นโอกาสจากการขยายตัวของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานใน สปป.ลาว ส่งผลให้กลุ่มสินค้ายางมะตอย น้ำมันเตามีโอกาสเติบโตมาก โดยเฉพาะกับกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม ซึ่งโออาร์กำลังเร่งทำการตลาดสินค้านี้ให้มากขึ้น

โออาร์ชี้ตลาด สปป.ลาวสดใส ลุยทุ่มงบขยายปั๊ม-Non oil

ขณะที่ Non oil ในส่วนร้านคาเฟ่ อเมซอน จะลงทุนเพิ่มเป็น 110 สาขาในปี 2567 จากปัจจุบันอยู่ที่ 94 สาขา และเพิ่มเป็น 150 สาขาภายในปี 2573 โดยร้านคาเฟ่ฯนี้นับได้ว่าเป็นแฟรนไชส์กาแฟที่ครองตลาดอันดับ 1 นอกจากนี้ ยังได้พัฒนาการบริการธุรกิจ Lifestyle สถานีบริการน้ำมันให้เป็นไลฟ์สเตชั่นที่หลากหลาย ทั้งร้านสะดวกซื้อและร้านอาหารข้าวเปียกปู โดยมีทั้งการขยายสาขาทั้งศูนย์บริการยานยนต์ฟิต ออโต้ (FIT Auto) และฟิต เอ็กซ์เพรส (FIT Express) รวม 9 สาขา
 
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจที่มองเห็นโอกาสการเติบโตดีคือ ธุรกิจน้ำมันเครื่องพีทีที ลูบริแคนทส์ (PTT Lubricants) จะมีการขายเพิ่มขึ้นจาก 4.2 ล้านลิตรในปี 2566 เป็น 5 ล้านลิตรในปี 2567 ซึ่งเป็นการสร้างเรกคอร์ดใหม่ให้กับโออาร์ ซึ่งน้ำมันเครื่องจะนำเข้าจากไทย 100% โดยขยายไปในส่วนของยานยนต์ เช่น รถบรรทุกที่มาเชื่อมผ่านเส้นทางรถไฟจีน-ลาว และเครื่องจักรกลทางการเกษตร
 
นายดิษทัต กล่าวอีกว่า โอกาสในธุรกิจพลังงานสะอาด อย่างสถานีชาร์จไฟฟ้าอีวี สเตชั่น พลัส (EV Station PluZ) เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงระบบขนส่งแบบไร้รอยต่อ (Seamless Mobility) ซึ่งปี 2567 จะเพิ่มอีก 7 สถานี จากปีก่อนที่มี 5 สถานี และจะขยายเป็น 6 สถานีในปี 2568 ส่วนร้านสะดวกซื้อนั้น ปัจจุบันมี PTTRM ที่เข้ามาบริหารร้านจิฟฟี่มีจำนวน 35 สาขา แต่ขณะนี้กำลังเตรียมดึงพันธมิตรร้านเซเว่นอีเลฟเว่นเข้ามาเปิดบริการสาขาแรกที่สามแยกสะหวันเซโน สะหวันนะเขต ในวันที่ 7 สิงหาคม 2567 จากนั้นจะขยายสาขาต่อไปอีกปีละ 5 สาขา