"ม.มหิดล-Tufts University" รุกวิจัยการเข้าถึงโปรตีนจากสัตว์

05 ก.ค. 2566 | 08:28 น.
อัปเดตล่าสุด :05 ก.ค. 2566 | 08:28 น.

"ม.มหิดล-Tufts University" รุกวิจัยการเข้าถึงโปรตีนจากสัตว์ โภชนาการเด็กทั่วโลก ระบุเด็กในประเทศที่มีรายได้น้อย พบการเข้าถึงแหล่งโปรตีนจากสัตว์ได้น้อยกว่าเด็กในประเทศที่มีรายได้สูง

รศ.ดร.นพวรรณ เปียซื่อ รองคณบดีฝ่ายส่งเสริมสุขภาพ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับ “Tufts University” สหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2533-2561 ศึกษาวิจัยเด็กใน 185 ประเทศ ครอบคลุม 93% ของจำนวนเด็กทั่วโลก เกี่ยวกับ “การเข้าถึงแหล่งโปรตีนจากสัตว์” ซึ่งส่งผลอย่างยิ่งต่อพัฒนาการและการเจริญเติบโตของเด็ก

ทั้งนี้ โดยพบเฉลี่ย 1.9 หน่วยบริโภค (170 กรัม) หรือประมาณ 12 ช้อนโต๊ะต่อวัน ในเด็กทั่วโลก 

สำหรับเด็กในประเทศที่มีรายได้น้อย พบการเข้าถึงแหล่งโปรตีนจากสัตว์ได้น้อยกว่าเด็กในประเทศที่มีรายได้สูง

ขณะที่ในส่วนของประเทศไทยพบว่า เด็กไทยในเมืองเข้าถึงแหล่งโปรตีนจากสัตว์ได้มากกว่าเด็กไทยในชนบท ซึ่งหมายถึงโอกาสในการเกิดโรคในกลุ่ม NCDs (โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง) เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วยจากภาวะทุพโภชนาการ ที่ไม่ได้มีความหมายเฉพาะการขาดสารอาหาร 

แต่รวมถึงการมีภาวะโภชนาการเกินอีกด้วย และที่น่าเป็นห่วง คือ พบเด็กไทยอ้วนเพิ่มขึ้นตามอัตราซึ่งสอดคล้องกับอุบัติการณ์เด็กอ้วนทั่วโลก

อย่างไรก็ดี ทีมวิจัยคาดหวังให้เกือบ 3 ทศวรรษที่ผ่านมาจากการทุ่มเทศึกษาติดตามการเข้าถึงแหล่งโปรตีนจากสัตว์ในเด็กทั่วโลก ซึ่งต่อมาได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับ Top 1% ของโลก 

อย่างไรก็ตาม NatureFood ได้มีการขยายผลสู่การกำหนดนโยบายเพื่อแก้วิกฤตที่แตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ทั่วโลก โดยได้มองไปถึงการเสริมด้วยโปรตีนทางเลือก ซึ่งได้แก่ แหล่งโปรตีนจากพืช (Plant Based Protein) ในพื้นที่โลกที่ขาดแคลน
 

นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้ทั่วโลกหันมาบริโภคโปรตีนจากสัตว์โดยคำนึงถึงสุขภาพสิ่งแวดล้อม เพื่อรักษาความสมดุลให้กับโลก และมุ่งสู่การบรรลุเป้าหมายเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนแห่งสหประชาชาติต่อไป

"เนื้อ นม ไข่ ฯลฯ ล้วนเป็นแหล่งโปรตีนจากสัตว์ที่สำคัญ ซึ่งเด็กในแต่ละพื้นที่ทั่วโลกมีการเข้าถึงแหล่งโปรตีนจากสัตว์ที่แตกต่างกันส่งผลต่อภาวะโภชนาการที่แตกต่างกันไปด้วย"