"เอ็กโก กรุ๊ป" จ่อเข้าประมูลไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเพิ่ม 3,600 เมกะวัตต์

16 พ.ค. 2566 | 12:04 น.
อัปเดตล่าสุด :16 พ.ค. 2566 | 12:05 น.

"เอ็กโก กรุ๊ป" จ่อเข้าประมูลไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเพิ่ม 3,600 เมกะวัตต์ ส่วนขยายที่จะเปิดรอบเพิ่มเติม พร้อมร่วมมือกับพันธมิตรศึกษาและพัฒนาการใช้พลังงานทางเลือก เผยกำไรไตรมาสแรกมีกำไรสุทธิ 2,022 ล้านบาท

นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยว่า เอ็กโก กรุ๊ป เตรียมพร้อมเข้าร่วมประมูลโครงการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนแบบ FiT (Feed-in Tariff) 3,600 เมกะวัตต์ ส่วนขยายที่จะเปิดรอบเพิ่มเติม 

รวมถึงร่วมมือกับพันธมิตรศึกษาและพัฒนาการใช้พลังงานทางเลือก เช่น เชื้อเพลิงไฮโดรเจน และเทคโนโลยีการดักจับ การใช้ประโยชน์ และการกักเก็บคาร์บอน (CCUS) และขยายการลงทุนในเทคโนโลยีและนวัตกรรมพลังงานใหม่ผ่านบริษัท อินโนพาวเวอร์

ส่วนในต่างประเทศ เอ็กโก กรุ๊ป มุ่งต่อยอดและแสวงหาโอกาสลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนและโรงไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ ซึ่งมีความจำเป็นสำหรับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานไปสู่พลังงานสะอาด 
 

“เอ็กโก กรุ๊ป มุ่งสร้างความมั่นคงทางพลังงานและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมพลังงานสู่สังคมคาร์บอนต่ำ"  

นายเทพรัตน์ กล่าวอีกว่า เอ็กโก กรู๊ป มองหาโอกาสในการสร้างความเติบโตในธุรกิจไฟฟ้าและพลังงานที่เกี่ยวเนื่องอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางสถานการณ์ความผันผวนของต้นทุนเชื้อเพลิงและสภาพเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวตั้งแต่ปี 2565 จนถึงปัจจุบัน 

เอ็กโก กรุ๊ป จ่อเข้าประมูลไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเพิ่ม 3,600 เมกะวัตต์

โดยในไตรมาส1/66 เอ็กโก กรุ๊ป สามารถปิดดีลโรงไฟฟ้า ไรเซ็ก กำลังผลิต 609 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นการต่อยอดของเอ็กโก กรุ๊ป  ในตลาดไฟฟ้าระดับโลก ต่อเนื่องจากโรงไฟฟ้า ลินเดน โคเจน และโครงการ เอเพ็กซ์ ซึ่งจะนำไปสู่โอกาสในการลงทุนเพิ่มเติมในโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติควบคู่กับโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่มีคุณภาพสูงในตลาดไฟฟ้าของประเทศสหรัฐอเมริกาในอนาคต 

ด้านผลประกอบการไตรมาสที่ 1/66 เอ็กโก กรุ๊ป มีรายได้รวม 15,125 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 ของปี 2565 และมีกำไรสุทธิ 2,022 ล้านบาท ลดลง 51% หรือ 2,093 ล้านบาทเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 

สาเหตุหลักจากโรงไฟฟ้าพาจู อีเอส ในเกาหลีใต้ โรงไฟฟ้าไซยะบุรีและโรงไฟฟ้าน้ำเทิน 2 ใน สปป.ลาว มีปริมาณการขายไฟฟ้าลดลง อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยบวกจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้าเคซอนและซานบัวนาเวนทูรา ในฟิลิปปินส์ 

อย่างไรก็ดี ปัจจุบันเอ็กโก กรุ๊ป มีโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 2 โครงการ ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้า เอ็กโก โคเจนเนอเรชั่น ส่วนขยาย จังหวัดระยอง กำลังผลิต 74 เมกะวัตต์ มีความก้าวหน้าในการก่อสร้างประมาณ 60% คาดว่าจะแล้วเสร็จและเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในไตรมาสที่ 1 ปี 2567 

และโครงการโรงไฟฟ้าหยุนหลินในไต้หวัน กำลังผลิต 640 เมกะวัตต์ จนถึงไตรมาสที่ 1/2566 สามารถจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้แล้วจำนวน 16 ต้น กำลังผลิต 128 เมกะวัตต์ โดยเอ็กโก กรุ๊ป ในฐานะหนึ่งในผู้ถือหุ้นได้เร่งรัดติดตามความก้าวหน้าของโครงการอย่างใกล้ชิด และร่วมปรับแผนการก่อสร้าง เพื่อให้มั่นใจว่าโครงการจะแล้วเสร็จภายในปี 2567