อียู ห้ามขายรถยนต์ใหม่ที่ใช้น้ำมันในปี 2035 ลดก๊าซเรือนกระจก

10 พ.ค. 2566 | 12:14 น.
อัปเดตล่าสุด :10 พ.ค. 2566 | 12:27 น.

หลายชาติหาทางแก้ปัญหาก๊าซเรือนกระจกการใช้รถยนต์ สหภาพยุโรป ห้ามขายรถยนต์ใหม่ที่ใช้น้ำมันในปี 2035 ฟังข้อมูลสำคัญจาก องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก ถึงการแก้ปัญหาบนเวทีโลก

ปัจจุบันกระแสของโลกกำลังหันมาให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม และหลีกเลี่ยงการทำลายสิ่งแวดล้มเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะการสร้าง "ก๊าซเรือนกระจก" ในภาคของการขนส่ง และอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งในขณะนี้เริ่มเห็นข้อกำหนดของประเทศต่าง ๆ เกี่ยวกับการสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้า หรือ รถยนต์ EV เพิ่มมากขึ้น

อียู ห้ามขายรถใหม่ใช้น้ำมัน

ล่าสุดมีข้อมูลจาก องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ TGO ระบุข้อมูลว่า ขณะนี้ฝ่ายนิติบัญญัติในสหภาพยุโรปลงมติเพื่อห้ามการขายรถยนต์ใหม่ และรถตู้ใหม่ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงภายในปี ค.ศ. 2035 โดยกำหนดให้รถยนต์ใหม่ทั้งหมดในยุโรปต้องเป็นรถยนต์ไฟฟ้า หรือรถยนต์ EV

ด้าน ยาน ฮุยเตมา (Jan Huitema) สมาชิกรัฐสภายุโรปจากเนเธอร์แลนด์ ระบุว่า เป้าหมายเหล่านี้สร้างความชัดเจนให้กับอุตสาหกรรมรถยนต์และกระตุ้นนวัตกรรมและการลงทุนสำหรับผู้ผลิตรถยนต์ และมาตรการนี้จะช่วยให้ผู้บริโภคประหยัดเงินค่าเชื้อเพลิง แม้ว่าปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้าจะมีราคาแพงกว่ารุ่นทั่วไป แต่ราคาก็ลดลง และคาดว่าภายในปีค.ศ. 2035 จะสามารถลดการแข่งขันด้านต้นทุนได้

ขณะที่ ความเคลื่อนไหวของกลุ่มสมาชิก 27 ประเทศเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการจัดการการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ก่อให้เกิดปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจากการขนส่ง ภาคส่วนนี้คิดเป็น 37% ของการปล่อยคาร์บอนทั่วโลก 

โดยจากข้อมูลของ International Energy Agency ระบุข้อมูลที่น่าสนใจว่า รถยนต์เป็นแหล่งปล่อยมลพิษที่ใหญ่ที่สุดของภาคการขนส่ง ก่อนหน้านี้ อียู ยังได้ตั้งข้อกำหนดว่ารถยนต์ที่มีการจดทะเบียนใหม่จะต้องปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ต่ำกว่าปีค.ศ. 2021 ถึง 55% และรถตู้ใหม่จะต้องลดการปล่อย CO2 ลงครึ่งหนึ่งภายในปีค.ศ. 2030

 

การลดก๊าซเรือนกระจกของรถยนต์ EV

หลายชาติสนับสนุนใช้รถ EV

อย่างไรก็ดีภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ในยุโรปและสหรัฐอเมริกาให้การสนับสนุนมากขึ้นในการเลิกใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง การเลิกใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในนั้นคาดว่าจะช่วยปรับปรุงคุณภาพอากาศได้อย่างมาก 

งานวิจัยหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่าการเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าช่วยลดมลพิษทางอากาศที่ก่อให้เกิดการเจ็บป่วยในระบบทางเดินหายใจ แม้ว่าไฟฟ้าที่ใช้ขับเคลื่อนรถยนต์จะผลิตจากเชื้อเพลิงฟอสซิลก็ตาม ในทางทฤษฎี กฎหมายใหม่ไม่จำเป็นต้องใช้เฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า เนื่องจากเชื้อเพลิงที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ อย่างเช่น ไฮโดรเจนสีเขียว ซึ่งเป็นไฮโดรเจนที่เกิดจากการแยกน้ำโดยใช้ไฟฟ้าที่ผลิตขึ้นอย่างสะอาดก็มีคุณสมบัติเช่นเดียวกัน

สำหรับ สหรัฐฯ ยังไม่ได้กำหนดวันที่เจาะจงสำหรับการห้ามขายรถยนต์ใหม่ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง แต่ได้กำหนดมาตรฐานการประหยัดเชื้อเพลิงที่เข้มงวดมากขึ้นในช่วงที่เหลือของทศวรรษนี้ และฝ่ายบริหารของประธานาธิบดี โจ ไบเดน และสภาคองเกรสได้อนุมัติเงินอุดหนุนจำนวนมากสำหรับการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำถึงปานกลางในพระราชบัญญัติลดอัตราเงินเฟ้อปีค.ศ. 2022 

 

ภาพประกอบข่าว อียู ห้ามขายรถยนต์ใหม่ที่ใช้น้ำมันในปี 2035

จับตาประเทศไทยดันแพ็คเกจ EV

ส่วนของประเทศไทยเองนั้น ล่าสุด รัฐบาลได้ผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิต EV และชิ้นส่วนที่สำคัญของภูมิภาค โดยได้จัดทำแพ็คเกจการส่งเสริมรถยนต์ EV ของรัฐบาล หลังจากผ่านการเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ได้นำเสนอเข้าสู่การประชุมของคณะรัฐมนตรี (ครม.)

ทั้งนี้ตามแผนแพ็คเกจการส่งเสริมรถยนต์ EV ประกอบด้วย 4 มาตรการหลัก ดังนี้ 

  • มาตรการสนับสนุนอุตสาหกรรมการผลิตแบตเตอรี่สำหรับยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า
  • มาตรการสนับสนุน การใช้ยานยนต์ไฟฟ้าประเภทรถยนต์และรถจักรยานยนต์ (EV3) 
  • มาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ประเภทรถยนต์ ระยะที่ 2 (EV3.5) 
  • มาตรการเปลี่ยนผ่านไปสู่อุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ที่ขับเคลื่อน ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า

ล่าสุด นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ระบุว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จัดทรายละเอียดโดยเฉพาะมติที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ เสนอไปยังทางสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เพื่อขอความเห็นหน่วยงานต่าง ๆ แล้ว จากนั้นจึงจับรรจุเป็นวาระเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม. พิจารณาต่อไป