ค่าไฟหน่วยละกี่บาท รอบบิลพ.ค.-ส.ค. จ่ายเท่าไหร่พร้อมมาตรการช่วย

06 พ.ค. 2566 | 11:06 น.
อัปเดตล่าสุด :06 พ.ค. 2566 | 11:06 น.
2.9 k

ค่าไฟหน่วยละกี่บาท รอบบิลพ.ค.-ส.ค. จ่ายเท่าไหร่พร้อมมาตรการช่วย ฐานเศรษฐกิจรวบรวมไว้่ให้แล้ว หลังที่ประชุม กกพ. เคาะราคาเรียบร้อย ขณะที่ ครม. มีมติอนุมัติงบกลางช่วยดูแลค่าไฟแพง

ค่าไฟหน่วยละกี่บาท เป็นคำถามที่รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนัก กกพ.) จะสรุปตัวเลขค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ หรือค่าเอฟที (FT) งวดเดือน พ.ค.-ส.ค.เรียบร้อยแล้ว และมีการประกาศค่าไฟอย่างเป็นทางการ

อย่างไรก็ดี ยังมีส่วนที่รัฐบาลพยายามช่วยเหลือค่าไฟประชาชนเพิ่มเติมจากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) 

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของ "ฐานเศรษฐกิจ" เพื่อไขข้อสงสัยในเรื่อง "ค่าไฟ" พบว่า

ล่าสุดนายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ. ได้ระบุชัดแล้วว่า ที่ประชุม กกพ.มีมติปรับลดค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ(เอฟที) งวดใหม่ลงมาอยู่ที่ 91.19 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้ค่าไฟเฉลี่ยที่เรียกเก็บกับประชาชนสำหรับงวดเดือนพ.ค.-ส.ค.2566 ลดลง 7 สตางค์ต่อหน่วย

จากเดิมที่มีมติ 4.77 บาทต่อหน่วย เป็น 4.70 บาทต่อหน่วย ซึ่งถือเป็นการลดลง 2 สตางค์ต่อหน่วย จากงวดปัจจุบันสำหรับเดือนม.ค.-เม.ย.2566 อยู่ที่ 4.72 บาทต่หน่วย ตามที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เสนอ 

โดยไม่มีการเปิดรับฟังความคิดเห็นอีกครั้ง เนื่องจากสมมติฐานที่ใช้ในการคำนวณสูตรค่าเอฟทีไม่เปลี่ยนแปลงไปจากการพิจารณาก่อนหน้านี้ที่ กกพ.ได้เปิดให้สาธารณะชนแสดงความคิดเห็นไปแล้ว 

ค่าไฟหน่วยละกี่บาท รอบบิลพ.ค.-ส.ค. จ่ายเท่าไหร่พร้อมมาตรการช่วย

อย่างไรก็ตาม ที่ประชุม ครม.ยังได้มีการเห็นชอบการใช้จ่ายงบกลางจำนวน 10,464 ล้านบาท เพื่อใช้ในการดำเนินมาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากค่าไฟแพง โดยให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าผ่าน 2 มาตรการเดิมที่เคยผ่านการเห็นชอบจากครม.ครั้งก่อน

หลังจากผ่านการเห็นชอบจากครม. แล้วสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จะเสนอมติให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. พิจารณาตามกฎหมายต่อไป 

สำหรับมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าทั้ง 2 มาตรการ แบ่งเป็น 

  • มาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้ากลุ่มเปราะบาง โดยต่ออายุมาตรการเดิมออกไป 4 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม – สิงหาคม 2566 รวม 18.32 ล้านราย วงเงินลดลงจากเดิม 7,602 ล้านบาท เหลือ 6,954 ล้านบาท หลังจากกกพ. มีการลดค่าไฟฟ้า งวดเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2566 อยู่ที่ 7 สตางค์ต่อหน่วย
  • มาตรการเร่งด่วนช่วยเหลือประชาชนที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 500 หน่วย โดยจะให้ส่วนลดค่าไฟฟ้า 150 บาทต่อราย เฉพาะบิลเดือนพฤษภาคม 2566 รวม 23.4 ล้านคน ใช้งบกลาง 3,510 ล้านบาท

มาตรการลดค่าไฟฟ้ากลุ่มเปราะบาง

มาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าของกลุ่มเปราะบาง 4 เดือน ในงวดเดือนพฤษภาคม - สิงหาคม 2566 โดยกำหนดให้เป็นส่วนลดค่าไฟฟ้าก่อนการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มมีรายละเอียดการช่วยเหลือแยกเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้

  • ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าระหว่าง 1-150 หน่วยต่อเดือน ให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าจำนวน 92.04 สตางค์ต่อหน่วย โดยมีผลต่างค่าไฟฟ้า ตามสูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (ค่า Ft) เรียกเก็บและส่วนลด 1.39 สตางค์ต่อหน่วย 
  • ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าระหว่าง 151-300 หน่วยต่อเดือน ให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าจำนวน 67.04 สตางค์ต่อหน่วย โดยมีผลต่างค่าไฟฟ้าตามสูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (ค่า Ft) เรียกเก็บและส่วนลด 26.39 สตางค์ต่อหน่วย) 

มาตรการช่วยค่าไฟฟ้าเร่งด่วน

มาตรการช่วยเหลือประชาชนระยะเร่งด่วน เป็นมาตรการช่วยเหลือประชาชนในส่วนของค่าไฟฟ้า ซึ่งได้รับผลกระทบจากต้นทุนราคาเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้น และสภาพภูมิอากาศของประเทศไทยที่สูงกว่า 40 องศาเซลเซียส ในหลายพื้นที่ของประเทศ ส่งผลให้เกิดความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 6% มีรูปแบบการช่วยเหลือ ประกอบด้วย

  • ให้ส่วนลดแก่ผู้ใช้ฟ้าบ้านอยู่อาศัยในพื้นที่ของการไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้า และผู้ใช้ไฟฟ้าในพื้นที่บริการของกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ 
  • วงเงินช่วยเหลือจำนวน 150 บาทต่อราย กำหนดให้เป็นส่วนลดค่าไฟฟ้าก่อนการคำนวนภาษีมูลค่าเพิ่ม ในรอบบิลเดือนพฤษภาคม 2566 ซึ่งเป็นช่วงเดือนที่มีสถิติความต้องการไฟฟ้าสูงสุดของประเทศและจะเริ่มลดลงในเดือนมิถุนายน นี้
  • เป็นผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้า ไม่เกิน  500 หน่วยต่อเดือน