"กกพ." เปิดฟังความเห็นหลักเกณฑ์ “ค่าไฟฟ้าสีเขียว” หนุนผู้ส่งออก

22 ก.พ. 2566 | 14:46 น.
อัปเดตล่าสุด :22 ก.พ. 2566 | 14:46 น.

"กกพ." เปิดฟังความเห็นหลักเกณฑ์ “ค่าไฟฟ้าสีเขียว” หนุนผู้ส่งออก มุ่งลดอุปสรรคในการปฏิบัติตามเงื่อนไขภาษีคาร์บอนข้ามแดน ข้อกีดกันทางการค้า พร้อมดูดการลงทุนจากต่างประเทศ

นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยว่า กกพ. มีมติให้เปิดรับฟังความความคิดเห็น (ร่าง) หลักเกณฑ์ การกำหนดอัตราค่าบริการไฟฟ้าสีเขียว (Utility Green Tariff หรือ UGT) 

ทั้งนี้ มุ่งหวังว่าจะช่วยลดอุปสรรคในการปฏิบัติตามเงื่อนไขภาษีคาร์บอนข้ามแดน ข้อกีดกันทางการค้าที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเป็นการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ และยังเป็นมาตรการที่สำคัญในการเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการไทยในระยะยาว 

นอกจากนี้ในการดำเนินการดังกล่าวยังสนับสนุนการปฏิบัติตามพันธกรณีประชุมสมัชชาประเทศภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (United Nations Framework Convention on Climate Change Conference of the Parties: UNFCCC COP) ที่ไทยเป็นสมาชิก และได้ร่วมแสดงเจตนารมย์สนับสนุนการมุ่งสู่เป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกเพื่อจำกัดอุณหภูมิของโลกไม่ให้เพิ่มขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียส 
 

“หลักเกณฑ์การกำหนดค่าบริการ UGT เป็นไปตามที่ กพช. เห็นชอบให้ กกพ. ไปศึกษาและกำหนดแนวทางการจัดทำอัตราค่าบริการไฟฟ้าสีเขียว (Utility Green Tariff) ในโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้าขายปลีก โดยมุ่งหวังว่าจะเป็นการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้กับผู้ส่งออกภาคเอกชน เพิ่มศักยภาพทางการค้าระหว่างประเทศของไทยที่ต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับกฎกติกาด้านการค้าสมัยใหม่ที่ให้ความสำคัญด้านพลังงาน และสิ่งแวดล้อม” 

กกพ. เปิดรับฟังความเห็นหลักเกณฑ์ค่าไฟฟ้าสีเขียวหนุนผู้ส่งออกไทย สำหรับร่างหลักเกณฑ์ดังกล่าวได้มีการออกแบบ และวางแนวทางในการให้การไฟฟ้าเสนออัตราค่าบริการไฟฟ้าสีเขียวในสองรูปแบบคือ แบบที่ผู้ใช้ไฟฟ้าไม่ต้องการเจาะจงแหล่งที่มาของไฟฟ้า (UGT1) และแบบที่ผู้ใช้ไฟฟ้าต้องการเจาะจงแหล่งที่มาของไฟฟ้า (UGT2) โดยเป็นการให้บริการไฟฟ้าพลังงานสะอาดจากโรงไฟฟ้าที่มีอยู่เดิมในระบบและที่มีแผนจะพัฒนาใหม่เพิ่มเติมในระยะต่อไป รวมทั้งมีกลไกในการรับรองการส่งไฟฟ้าพลังงานสะอาดจากเชื้อเพลิงประเภทต่างๆ เพื่อให้ผู้ใช้ไฟฟ้าสามารถนำไปเคลมการใช้พลังงานสะอาดตามกติกาสากลได้ 

นายคมกฤช กล่าวต่อไปว่า หลักเกณฑ์ค่าบริการไฟฟ้าสีเขียวทั้งสองรูปแบบ เป็นดังนี้

  • UGT1 (ไม่เจาะจงที่มา) เป็นการให้บริการเกี่ยวกับใบรับรองการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy Certificate: REC) ของโรงไฟฟ้าเดิมที่รัฐมีกรรมสิทธิ์มาให้บริการร่วมกับการให้บริการพลังงานไฟฟ้า และเป็นการให้บริการในลักษณะที่ผู้ใช้ไฟฟ้าไม่ต้องเจาะจงแหล่งที่มาของไฟฟ้าและ REC ในการขอรับบริการ จึงเป็นอัตราค่าบริการส่วนเพิ่ม (Premium) เพิ่มเติมจากอัตราค่าไฟฟ้าตามบิลค่าไฟปกติโดยผู้ใช้ไฟฟ้าสามารถสมัครขอรับบริการในปริมาณต่ำกว่า 1 REC ได้ (1 REC = 1,000 หน่วย) และมีระยะเวลาการขอรับบริการสั้น (0-1 ปี)

    

  • UGT2 (เจาะจงที่มา) เป็นการเปิดให้ผู้ใช้ไฟฟ้าที่มีการใช้ไฟมากและต้องการขับเคลื่อนการเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนในระบบไฟฟ้าเข้ามารับภาระการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนใหม่โดยมีสัญญาการรับบริการนาน (10-25 ปี) และมีการออกแบบโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้าใหม่ เนื่องจากมีการซื้อพลังงานไฟฟ้าพร้อม REC จากแหล่งพลังงานแบบเจาะจงที่มาในระยะยาว เข้ามาแทนพลังงานไฟฟ้าเดิม และมีการให้บริการที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม

ส่วนเงื่อนไข ความเหมาะสมในแต่ละแนวทางจะมีผลดี และความแตกต่างกันไปตามความต้องการของผู้ใช้ไฟฟ้า โดย UGT1 จะเหมาะสมกับผู้ใช้ไฟฟ้าที่มีการใช้ไฟฟ้าไม่มากและไม่ต้องการผูกพันสัญญาระยะยาว รวมถึงกลุ่มที่ต้องการไฟฟ้าสีเขียวน้อยกว่าปริมาณการใช้ไฟฟ้าทั้งหมด โดยไม่ต้องการเจาะจงผู้ผลิตไฟฟ้า สำหรับ UGT2 จะเหมาะกับผู้ใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่ต้องการพัฒนาโรงไฟฟ้าสะอาดใหม่โดยทำสัญญาระยะยาวที่จะใช้ไฟฟ้าจากแหล่งไฟฟ้านั้น 100%

อย่างไรก็ตาม สำนักงาน กกพ. จะเปิดรับฟังความคิดเห็นร่างหลักเกณฑ์ฯ ฉบับดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 7 มีนาคม 2566 ก่อนที่รวบรวมความคิดเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาเห็นชอบหลักเกณฑ์การกำหนดอัตราค่าบริการไฟฟ้าสีเขียวทั้งสองรูปแบบภายในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้

นอกจากนี้ จะมีการสัมมนาชี้แจงและรับฟังความคิดเห็นผ่านระบบการประชุมออนไลน์อีกช่องทางหนึ่ง