รัฐบาลประกาศ ปี 2568 ประเทศไทยแบนการนำเข้า “เศษพลาสติก”

21 ก.พ. 2566 | 18:03 น.
อัปเดตล่าสุด :21 ก.พ. 2566 | 22:18 น.

รัฐบาลประกาศ ปี 2568 ประเทศไทยแบนการนำเข้า “เศษพลาสติก” หลังครม. เห็นชอบนโยบายกำกับการนำเข้าเศษพลาสติก หวังปลดล็อกไทยเป็นที่รองรับขยะจากประเทศอื่น

ประเทศไทยพยายามหาทางจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ และ “เศษพลาสติก” นำเข้ามาจากต่างประเทศมาอย่างต่อเนื่อง ตามแผนของกระทรวงอุตสาหกรรมได้กำหนดนโยบายในการปรับลดการนำเข้าเศษพลาสติกจากต่างประเทศ พร้อมจัดทำนโยบายกำกับการนำเข้าเศษพลาสติก โดยกำหนดห้ามนำเข้าเศษพลาสติกตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบนโยบายกำกับการนำเข้าเศษพลาสติก ตามที่ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เสนอ เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและราคาเศษพลาสติกในประเทศ และเพื่อไม่ให้ประเทศไทยเป็นที่รองรับเศษขยะจากประเทศอื่น 

ทั้งนี้ได้มอบหมายให้หน่วยงานต่าง ๆ ทั้ง กรมศุลกากร กรมการค้าต่างประเทศ และกระทรวงอุตสาหกรรม ดำเนินการให้เป็นไปตามนโยบายกำกับการนำเข้าเศษพลาสติกต่อไป

 

ภาพประกอบข่าว รัฐบาลแบนการนำเข้า “เศษพลาสติก”

สาระสำคัญคุมการนำเข้าเศษพลาสติก

1. เมื่อสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2567 เป็นต้นไป ห้ามนำเข้าเศษพลาสติกจากต่างประเทศ โดยให้กระทรวงพาณิชย์ออกประกาศกำหนดให้เศษพลาสติกเป็นสินค้าที่ต้องห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร

2. การนำเข้าเศษพลาสติกในพื้นที่เขตปลอดอากร (ในช่วงปี 2566-2567) โดยอนุญาตเฉพาะโรงงานอุตสาหกรรม 14 แห่งที่กำหนด ได้แก่ โรงงานทั้งหมดที่ใช้เศษพลาสติกเป็นวัตถุดิบในการผลิตเพื่อส่งออกที่ตั้งอยู่ในเขตปลอดอากร โดยให้นำเข้าไม่เกินความสามารถในการผลิตจริง รวม 372,994 ตันต่อปี 

สำหรับระยะเวลาารนำเข้าเศษพลาสติกในพื้นที่เขตปลอดอากรจำนวน 2 ปี แบ่งเป็น

  • ปีที่ 1 (2566) ให้นำเข้าปริมาณ 100% ของความสามารถในการผลิตจริง
  • ปีที่ 2 (2567) ให้นำเข้าปริมาณไม่เกิน 50% ของความสามารถในการผลิตจริง
  • ปีที่ 3 (2568) ห้ามนำเข้าเศษพลาสติกจากต่างประเทศ

โดยการนำเข้าจะต้องมีมาตรการควบคุมดูแลสิ่งแวดล้อมเพื่อมิให้เกิดมลพิษในประเทศ เช่น เศษพลาสติกที่นำเข้าต้องแยกชนิดและไม่ปะปนกัน สามารถนำเข้าสู่กระบวนการผลิตโดยไม่ต้องทำความสะอาด ต้องใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตเพื่อส่งออกเท่านั้น เป็นต้น

 

ภาพประกอบข่าว รัฐบาลแบนการนำเข้า “เศษพลาสติก”

3. การนำเข้าเศษพลาสติกในพื้นที่ทั่วไป (ในช่วงปี 2566-2567) ให้นำเข้าเฉพาะกรณีที่ไม่มีเศษพลาสติกในประเทศหรือมีปริมาณไม่เพียงพอโดยมีหลักเกณฑ์ เช่น ผู้ประกอบกิจการโรงงานต้องแสดงหลักฐานว่ามีความจำเป็นในการนำเข้าและไม่สามารถหาได้ในประเทศ, นำเข้าได้ในปริมาณที่สอดคล้องกับกำลังการผลิต, นำเข้ามาเพื่อเป็นวัตถุดิบเท่านั้น (ไม่รวมถึงการคัดแยกหรือย่อยพลาสติก), สามารถนำเข้าสู่กระบวนการผลิตโดยไม่ต้องทำความสะอาด

รัฐบาลสั่งทำตามแผนใน 2 ปี

ทั้งนี้รัฐบาลเน้นย้ำให้ดำเนินการมาตรการควบคุมในช่วง 2 ปี (ในช่วงปี 2566-2567) คือ มาตรการกำกับการนำเข้าเศษพลาสติก 3 ประเด็น ประกอบด้วย 

  • ควบคุมปริมาณนำเข้าให้สอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมการรีไซเคิลขยะพลาสติกในประเทศ 
  • ป้องกันการลักลอบนำเข้า 
  • ควบคุมการประกอบกิจการพลาสติกไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม 

ทั้งนี้เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดกับทุกฝ่ายจึงให้มีมาตรการลดผลกระทบจากการห้ามนำเข้าเศษพลาสติก 4 ประเด็น ประกอบด้วย 

  • การป้องกันการขาดแคลนเศษพลาสติกบางชนิดที่ใช้เป็นวัตถุดิบในภาคอุตสาหกรรม 
  • การคัดแยกขยะที่เป็นระบบตั้งแต่ต้นทางเพื่อนำไปใช้ในภาคอุตสาหกรรม 
  • งานวิจัยและนวัตกรรมเกี่ยวกับการนำพลาสติกกลับไปใช้ประโยชน์ 
  • การมีกฎหมายเพื่อกำกับดูแลและแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกโดยเฉพาะ