เปิดวิธีเลือกแผง "โซลาร์เซลล์" ก่อนติดตั้ง มีกี่แบบ เช็คเลยที่นี่

02 ก.พ. 2566 | 11:38 น.
อัปเดตล่าสุด :02 ก.พ. 2566 | 11:38 น.

เปิดวิธีเลือกแผง "โซลาร์เซลล์" ก่อนติดตั้ง มีกี่แบบ เช็คเลยที่นี่มีคำตอบ ฐานเศรษฐกิจรวบรวมข้อมูลทั้งหมดไว้ให้แล้ว บ้านแบบไหนเหมาะกับรูปแบบใด

โซลาร์เซลล์เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการประหยัดค่าใช้จ่ายทางด้านค่าไฟ ที่ประชาชนเริ่มให้ความสนใจกันมากขึ้น แต่ประเด็นสำคัญก็คือการติดตั้งควรจะต้องเลือกแแบบไหนเพื่อความเหมาะสม

เนื่องจากค่าไฟในปัจจุบันมีอัตราที่ค่อนจข้างสูง ล่าสุดบ้านอยู่อาศัยต้องจ่ายอยู่ที่ประมาณ 4.72 บาทต่อหน่วย และมีแนวโน้มที่จะปรับเพิ่มขึ้นอีก

ทั้งนี้ "ฐานเศรษฐกิจ" จะพาไปทำความรู้จักกับแผงโซลาร์เซลล์ประเภทต่างๆ ก่อนที่จะตัดสินใจติดตั้ง 


แผงโซลาร์เซลล์ 

แผงโซลาร์เซลล์ หรือ Photovoltaics (PV) คือ การนำโซลาร์เซลล์ จำนวนหลายเซลล์มาต่อวงจรรวมกันเป็นแผงขนาดใหญ่ เพื่อให้สามารถผลิตและจ่ายกระแสไฟฟ้าได้มากยิ่งขึ้น โดยไฟฟ้าที่ได้นั้นจะเป็นไฟฟ้ากระแสตรง DC (Direct Current) 

แต่เนื่องจากอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้งานภายในบ้านของไทยส่วนใหญ่เป็นไฟฟ้ากระแสสลับ AC (Alternating Current) ดังนั้น ก่อนใช้งานจึงต้องนำมาแปลงไฟเสียก่อน โดยต่อเข้ากับเครื่องแปลงไฟ หรือที่เรียกว่า อินเวอร์เตอร์ (Inverter) 

ปัจจุบันแผงโซลาร์เซลล์กว่า 90% ทำมาจากผลึกซิลิคอน (Crystalline Silicon) ซึ่งอยู่ในรูปแบบที่แตกต่างกันไป โดยซิลิคอนที่มีความบริสุทธิ์มากจะมีโมเลกุลจัดเรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบ ทำให้มีคุณสมบัติในการเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์ไปเป็นพลังงานไฟฟ้าได้มากกว่า 

อย่างไรก็ดี ประสิทธิภาพของแผงโซลาร์เซลล์อาจไม่ใช่สิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึง แต่เป็นเรื่องของคุณภาพสินค้า ความน่าเชื่อถือของผู้ผลิต ความสวยงามที่คู่ควรกับบ้าน และความคุ้มค่าในการลงทุน
 

รูปแบบของแผงโซลาร์เซลล์

ปัจจุบันแผงโซลาร์เซลล์ที่นิยมใช้งานมีอยู่ 3 ชนิดหลัก ๆ ไประกอบด้วย 

โมโนคริสตัลไลน์ (Mono Crystalline Silicon Solar Cell)

ทำจากผลึกซิลิคอนเชิงเดี่ยวที่มีคุณภาพและมีความบริสุทธิ์สูง สังเกตอย่างง่าย คือ ลักษณะของเซลล์เป็นรูปสี่เหลี่ยมที่ลบมุมทั้งสี่ออก โดยนำมาวางเรียงต่อกันเพื่อให้การใช้งานมีประสิทธิภาพสูงสุด มีสีเข้มที่ดูสวยงาม และสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้สูงกว่าแผงโซลาร์เซลล์ชนิดอื่น แม้อยู่ในภาวะแสงแดดน้อยก็ตาม มีอายุการใช้งานยาวนานถึง 25 ปีขึ้นไป เเต่ก็ต้องแลกมาด้วยราคาที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับแผงโซลาร์เซลล์ชนิดอื่น โดยในปัจจุบันยังมีแผงโซลาร์เซลล์ เกรดพรีเมี่ยม ซึ่งมีสีดำล้วน ดีไซน์เรียบเท่ช่วยส่งเสริมให้บ้านดูสวยงามมีสไตล์ให้เลือกใช้


พอลิคริสตัลไลน์ (Poly Crystalline Silicon Solar Cell)

ทำมาจากผลึกซิลิคอนเหมือนแผงโซลาร์เซลล์เเบบโมโนคริสตัลไลน์ แต่มีขั้นตอนการผลิตแตกต่างกัน โดยนำซิลิคอนเหลวมาเทใส่พิมพ์ที่เป็นสี่เหลี่ยม จากนั้นจึงตัดแบ่งให้เป็นแผ่นบางทำให้เซลล์แต่ละเซลล์เป็นรูปสี่เหลี่ยมต่อกัน โดยไม่มีการตัดมุมบริเวณขอบของช่องสี่เหลี่ยม และใช้ปริมาณซิลิคอนในการผลิตน้อยกว่า ซึ่งแผงจะเป็นสีน้ำเงินแต่ไม่เข้มมาก มีประสิทธิภาพในการผลิตกระแสไฟฟ้าได้ดี แต่น้อยกว่าแผงแบบโมโนคริสตัลไลน์ ยกเว้นการใช้งานในที่อุณหภูมิสูง แผงแบบพอลิคริสตัลไลน์จะผลิตกระแสไฟฟ้าได้ดีกว่าแผงแบบโมโนคริสตัลไลน์เล็กน้อย จึงมีราคาถูกกว่า มีอายุการใช้งานประมาณ 20-25 ปี
 

โซลาร์เซลล์แบบฟิล์มบาง หรืออะมอร์ฟัสโซลาร์เซลล์ (Amorphous Solar Cell)

หนึ่งในหลายชนิดของแผงโซลาร์เซลล์แบบฟิล์มบาง (Thin Film Solar Cell) โดยเกิดจากการนำสารที่มีคุณสมบัติในการเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์ไปเป็นพลังงานไฟฟ้ามาฉาบเป็นชั้นฟิล์มบางซ้อนกันหลายชั้น ดังนั้น บางครั้งจึงถูกเรียกว่า ฟิล์มบาง ซึ่งเป็นแผงโซลาร์เซลล์ที่มีราคาถูกที่สุด การผลิตกระแสไฟฟ้า และอายุการใช้งานมีน้อยกว่าแผงชนิดอื่น

เทคนิคการเลือกซื้อแผงโซลาร์เซลล์

แผงโซลาร์เซลล์ได้รับการพัฒนาคุณภาพให้ดียิ่งขึ้น จึงคุ้มค่าเเละใช้ทุนในการติดตั้งน้อยลง เเต่การเลือกซื้อจะต้องคุ้มค่าคุ้มราคามากที่สุด 

เลือกแผงโซลาร์เซลล์ให้เหมาะกับงาน

แผงโซลาร์เซลล์แบบคริสตัลไลน์ที่เหมาะกับการติดตั้งบนหลังคาของบ้านพักอาศัย แบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่ Mono Crystalline และ Poly Crystalline โดยทั้งสองชนิดจะมีคุณภาพไม่แตกต่างกันมาก แต่เมื่อเทียบกำลังวัตต์ที่เท่ากัน แผงโซลาร์เซลล์แบบ Mono Crystalline จะมีขนาดเล็กกว่า เหมาะกับสถานที่ติดตั้งที่มีพื้นที่จำกัดอย่าง หลังคาบ้าน แต่ถ้าต้องการประหยัดงบในกระเป๋า สามารถเลือกใช้แผงโซลาร์เซลล์แบบ Poly Crystalline เเทนได้ เพราะมีราคาถูกกว่าประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ต้องการนำแผงโซลาร์เซลล์ไปใช้งานโดยตรงกับปั๊มน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ ควรเลือกแผงโซลาร์เซลล์ที่มีกำลังวัตต์มากกว่าเท่าตัว เพราะการสตาร์ทปั๊มน้ำในช่วงแรกจะต้องใช้กระแสไฟมากพอสมควร 

ส่วนผู้ที่ใช้ร่วมกับแบตเตอรี่ควรเลือกแผงโซลาร์เซลล์ที่มีกำลังวัตต์มากกว่าอุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างน้อย 20% เพื่อเป็นการถนอมแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้น

การติดตั้งที่กลมกลืนกับอาคารอย่างสวยงาม 

การเลือกแผงโซลาร์เซลล์ที่ออกแบบมาให้ติดตั้งตามรูปทรงหลังคาได้ จะทำให้ดูกลมกลืนกับตัวบ้าน อีกทั้งการเลือกแผงชนิดสีดำล้วน ดีไซน์เรียบ และมีวิธีการติดตั้งให้กลมกลืนกับเส้นกระเบื้องหลังคา จะทำให้บ้านยังคงดูสวยงามทันสมัย

ความน่าเชื่อถือของผู้ผลิต

แผงโซลาร์เซลล์จะติดอยู่กับบ้านไปอีกหลายสิบปี การรับประกันและความน่าเชื่อถือของผู้ผลิตจึงทำให้มั่นใจว่าบริษัทผู้ผลิตและผู้ให้บริการจะยังคงอยู่ตลอดการรับประกันสินค้า สินค้าที่ได้มีคุณภาพมาตรฐาน และมีทีมงานคอยดูแลตลอดอายุการใช้งาน 

กำลังวัตต์ของแผงโซลาร์เซลล์ที่ผลิตได้

ก่อนเลือกแผงโซลาร์เซลล์มาใช้งาน ต้องรู้ก่อนว่าต้องการผลิตกระแสไฟฟ้ามากน้อยเพียงใด และต้องใช้ขนาดกำลังวัตต์เท่าใดจึงจะเหมาะสม เพื่อนำข้อมูลเหล่านี้ไปคำนวณและออกแบบระบบให้ถูกต้อง และถ้ามองเรื่องความคุ้มค่าอาจเปรียบเทียบแผงโซลาร์เซลล์จากราคาบาทต่อวัตต์ว่าสูงหรือต่ำ โดยแผงโซลาร์เซลล์มีหลายขนาดให้เลือกตั้งแต่ 10-300 วัตต์ขึ้นไป สำหรับอายุการใช้งานโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 20-25 ปี 

แต่เมื่อเวลาผ่านไปประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าก็จะลดลง แผงโซลาร์เซลล์ที่ได้มาตรฐานเมื่อเวลาผ่านไป 10 ปี ประสิทธิภาพของแผงโซลาร์เซลล์จะลดลงเหลือประมาณ 90% และ 25 ปี จะลดลงเหลือประมาณ 80% 

นอกจากนี้ควรเลือกขนาดกำลังวัตต์ ให้เหมาะกับการใช้งานในรูปแบบต่างๆ เช่น  โซลาร์เซลล์ขนาด 225 วัตต์ขึ้นไป ใช้กับปั๊มน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ โซลาร์เซลล์ขนาด 10-20 วัตต์ ใช้เป็นไฟส่องสว่างทางเดินในบ้านหรือในสวน เป็นต้น