การแข่งขันระหว่าง "ฟุตบอลทีมชาติเวียดนาม" และ "ทีมชาติไทย" ถือเป็นหนึ่งในคู่ปรับที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์วงการกีฬาของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียน ไม่เพียงแต่จะดึงดูดความสนใจจากแฟนบอลของทั้งสองประเทศ แต่ยังได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนในภูมิภาคและทั่วโลกอีกด้วย
ในปีนี้ การพบกันระหว่างทั้งสองทีมในฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน ( ASEAN Mitsubishi Electric Cup™ 2024) หรือ อาเซียนคัพ รอบชิงชนะเลิศถือเป็นอีกหนึ่งบทสำคัญในตำนานของการแข่งขันนี้
ตั้งแต่การรวมประเทศเวียดนามในปี 1975 ทีมฟุตบอลของทั้งสองชาติได้พบกันในหลายโอกาสและสร้างประวัติศาสตร์อันน่าจดจำไว้อย่างมากมาย ตั้งแต่ช่วงแรกเริ่มของการแข่งขันในซีเกมส์ จนถึงการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก และรายการสำคัญในระดับอาเซียน
บทความนี้จะพาผู้อ่านย้อนรอยไปยังเหตุการณ์สำคัญในอดีตของการแข่งขันอันดุเดือดระหว่างสองชาติที่เปรียบเสมือนยักษ์ใหญ่ของวงการฟุตบอลอาเซียน
การแข่งขันระหว่างไทยและเวียดนามเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการใน ซีเกมส์ 1995 ซึ่งจัดขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย ถือเป็นช่วงเวลา 20 ปีหลังจากการรวมประเทศเวียดนาม ทั้งสองทีมพบกันครั้งแรกในรอบแบ่งกลุ่ม โดยทีมชาติไทยเอาชนะเวียดนามไปได้ 3-1
และเมื่อทั้งสองทีมพบกันอีกครั้งในรอบชิงเหรียญทอง ไทยยังคงโชว์ฟอร์มเหนือกว่า โดยเอาชนะไปได้ถึง 4-0 โดย "ตะวัน ศรีปาน" และ "เนติพงษ์ ศรีทองอินทร์" ทำคนละสองประตู
จากนั้น ในปี 1996 ซึ่งเป็นปีที่มีการจัดการแข่งขัน ASEAN Championship ครั้งแรก ทั้งสองทีมพบกันในรอบรองชนะเลิศอีกครั้ง "เนติพงษ์ ศรีทองอินทร์" ยังคงเป็นตัวอันตรายสำหรับเวียดนาม โดยยิงสองประตูช่วยให้ไทยชนะไป 4-2 และคว้าแชมป์รายการนี้เป็นครั้งแรก
สองปีต่อมา เวียดนามสามารถล้างแค้นไทยได้สำเร็จในรอบรองชนะเลิศที่จัดขึ้นในฮานอย ท่ามกลางผู้ชม 23,000 คน เหงียน ฮอง ซน นักเตะที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดของเวียดนาม ยิงประตูสำคัญช่วยให้ทีมเอาชนะไทยไป 3-0 และผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ
เข้าสู่ทศวรรษ 2000 ความเป็นคู่ปรับระหว่างไทยและเวียดนามยิ่งเข้มข้นขึ้น โดยเฉพาะในเวทีการแข่งขัน ASEAN Championship
การแข่งขันที่โดดเด่นในช่วงนี้เริ่มต้นจากรอบรองชนะเลิศปี 2002 ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ไทยสามารถเอาชนะเวียดนามไปได้อย่างขาดลอย 4-0 จากนั้นในปี 2007 ทั้งสองทีมพบกันอีกครั้งในรอบรองชนะเลิศ โดยไทยชนะเวียดนามด้วยผลรวม 2-0 แม้ว่าการแข่งขันในกรุงเทพฯ จะเสมอ 0-0 ก็ตาม
แต่เหตุการณ์ที่เป็นที่จดจำที่สุดในช่วงนี้คือการแข่งขัน รอบชิงชนะเลิศ ASEAN Championship 2008 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองทีมพบกันในรอบชิง เวียดนามสามารถสร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการเอาชนะไทย 2-1 ในการแข่งขันเลกแรกที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ก่อนเสมอ 1-1 ในเลกที่สองที่ฮานอย โดยเล กง วินห์ ยิงประตูตีเสมอในนาทีที่ 94 ช่วยให้เวียดนามคว้าแชมป์ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ด้วยผลรวม 3-2
ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ไทยสามารถสร้างความได้เปรียบเหนือเวียดนามในหลายการแข่งขัน โดยเฉพาะในเวที ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ปี 2018 และ 2022 แม้ว่าในปี 2022 เวียดนามจะสามารถเข้าสู่รอบสามได้เป็นครั้งแรก แต่การแข่งขันกับไทยทั้งสองนัดกลับจบลงด้วยผลเสมอ 0-0
ในปี 2020 ทั้งสองทีมกลับมาพบกันอีกครั้งในรอบรองชนะเลิศของ ASEAN Championship โดยชนาธิป สรงกระสินธ์ ทำสองประตูช่วยให้ไทยชนะ 2-0 ในเลกแรกและผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ
การแข่งขันในปีนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญอีกครั้งสำหรับทั้งสองชาติ โดยทั้งเวียดนามและไทยต่างมีโค้ชและผู้เล่นใหม่ที่พร้อมจะสร้างบทใหม่ของความเป็นคู่ปรับนี้ นัดชิงแชมป์สองเลก
ศึกฟุตบอลแห่งความภาคภูมิใจระหว่าง ทีมชาติไทย และ ทีมชาติเวียดนาม จะเปิดฉากอีกครั้งในวันที่ 5 มกราคม 2568 เวลา 20.00 น.
การแข่งขันครั้งนี้จะเป็นการเจอกันครั้งที่ 20 ของสองทีม ไทยชนะ 9 นัด เวียดนามชนะ 2 นัด เสมอ 8 นัด ประตูรวม ไทย 25 ประตู เวียดนาม 11 ประตู
โดยผลงานล่าสุดเมื่อวันที่ 2 มกราคม 2568 เวียดนาม ชนะ ไทย 2-1 ในรอบชิงชนะเลิศอาเซียนคัพ 2024 นัดแรก และก่อนหน้านั้น 10 กันยายน 2024 ทีมชาติไทยบุกเอาชนะเวียดนาม 2-1 ที่ฮานอย
การแข่งขันในวันที่ 5 มกราคมนี้ไม่ใช่เพียงการต่อสู้เพื่อชัยชนะ แต่ยังเป็นการพิสูจน์ความเหนือชั้นของสองทีมฟุตบอลที่เป็นคู่ปรับตลอดกาลในอาเซียน ไทยจะรักษาสถิติอันแข็งแกร่งไว้ได้ หรือเวียดนามจะสร้างเซอร์ไพรส์ในแมตช์สำคัญนี้
ที่มาข้อมูล : aseanutdfc.com