วันที่ 3 ธ.ค.67 นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า มติคณะรัฐมนตรี(ครม.) ล่าสุดวันนี้ เห็นชอบการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอล FIVB Women’s World Championships 2025 หรือ วอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก ตามที่กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา (กก.) เสนอ
ซึ่งสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย ได้นำเรื่องการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอล์ FIVB Women's World Championships 2025 เสนอในที่ประชุมใหญ่สามัญของสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ ครั้งที่ 39 ระหว่างวันที่ 15 - 17 พฤศจิกายน 2567 ณ เมืองปอร์โต้ สาธารณรัฐโปรตุเกส
และจะต้องแจ้งยืนยันการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอล FIVB Women's World Championships 2025 ของประเทศไทยอย่างเป็นทางการไปยังสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ (FIVB) ภายในวันที่ 6 ธันวาคม 2567 และได้กำหนดให้มีพิธีจับฉลากแบ่งสายภายในวันที่ 15 ธันวาคม 2567
นายคารม กล่าวว่า การเป็นเจ้าภาพดังกล่าวสอดคล้องกับคำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567 ที่ระบุว่ารัฐบาลจะเร่งส่งเสริมการท่องเที่ยว ด้วยการสานต่อความสำเร็จในการปรับโครงสร้างการตรวจลงตราทั้งหมดของประเทศเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ขอวีซ่า เช่น กลุ่มผู้เข้าร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติ (MICE) และกลุ่มชาวต่างชาติที่ทำงานทางไกล (Digital Nomad) ซึ่งสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวถึง 1.892 ล้านล้านบาท ในปี 2566
โดยส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ เพิ่มแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น (Man-made Destinations) เช่น สวนน้ำ สวนสนุก ศูนย์การค้า สถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) นำคอนเสิร์ต เทศกาล และการแข่งขันกีฬาระดับโลกมาจัดในประเทศไทย รวมถึงส่งเสริมการท่องเที่ยว เมืองน่าเที่ยว เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวและเม็ดเงินมหาศาลที่จะกระจายลงสู่ผู้ประกอบการภายในประเทศได้อย่างรวดเร็ว
โดยการเป็นเจ้าภาพมีรายละเอียดสรุปได้ ดังนี้
1.กำหนดการแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอล FIVB Women's World Championships 2025 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 สิงหาคม - 7 กันยายน 2568
2. สถานที่จัดการแข่งขัน ณ ประเทศไทย จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดภูเก็ต จังหวัดนครราชสีมา และกรุงเทพมหานคร
3.ผู้เข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 32 ทีม ประกอบด้วย
สำหรับประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1.สร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยสู่สายตาประชาคมโลก ผ่านการถ่ายทอดสดการแข่งขันฯ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวและนักลงทุนนานาชาติ ให้เห็นถึงศักยภาพความพร้อมของประเทศในทุก ๆ ด้าน ทั้งในด้านการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ สังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะสามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศเกิดการหมุนเวียนในระบบ
2.ประเทศไทยจะมีรายได้จากการใช้จ่ายเงินของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางติดตามชมการแข่งขัน มีโอกาสนำเสนอความสวยงามของแหล่งท่องเที่ยวและวัฒนธรรมอันดีงามของประเทศไทย รวมทั้งมีรายได้จากการใช้จ่ายเงินของนักกีฬา เจ้าหน้าที่ ผู้แทนองค์กรกีฬาต่าง ๆ และผู้สังเกตการณ์ ประมาณ 768,300,000 บาท มูลค่าด้านการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียทั่วโลก จากจำนวนผู้เข้าชมโดยรวมประมาณ 1,300,000,000 คน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 5,596,500,000 บาท และก่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจโดยรวมในประเทศประมาณ 2,070,900,000 บาท คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจที่คาดว่าประเทศไทยจะได้รับจากการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาดังกล่าวทั้งสิ้นประมาณ 8,435,700,000 บาท