เปิดโลก "กีฬา Powerlifting" พลังใจไร้ขีดจำกัดในพาราลิมปิกเกมส์

Powerlifting หรือ การยกน้ำหนัก เป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมในหมู่นักกีฬาผู้พิการ โดยเป็นการแข่งขันยกน้ำหนักท่านอนหงายบนม้านั่ง

ซึ่งต้องใช้พละกำลังและความแม่นยำในการยกบาร์เบลขึ้นจากหน้าอก การแข่งขันนี้เปิดโอกาสให้ผู้พิการได้แสดงศักยภาพทางร่างกายและจิตใจ ผ่านการฝึกฝนและแข่งขันอย่างเท่าเทียม

ประเภทของความพิการในกีฬา Powerlifting

สำหรับผู้พิการในกีฬา Powerlifting แบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก ได้แก่:

• ประเภท A1-A4: สำหรับผู้พิการขาขาด
• ประเภท Les Autres: สำหรับผู้พิการขาขาดในลักษณะอื่นๆ
• ประเภท Cerebral Palsy: สำหรับผู้พิการทางสมอง
• ประเภท Spinal Cord Injury: สำหรับผู้พิการไขสันหลัง

การแบ่งรุ่นการแข่งขัน Powerlifting

เพื่อความยุติธรรมในการแข่งขัน มีการแบ่งรุ่นตามน้ำหนักตัวของนักกีฬา ดังนี้:

• ประเภทชาย: แบ่งเป็น 10 รุ่น ตั้งแต่รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 48 กก. ไปจนถึงรุ่นน้ำหนักเกิน 100 กก.
• ประเภทหญิง: แบ่งเป็น 10 รุ่น ตั้งแต่รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 40 กก. ไปจนถึงรุ่นน้ำหนักเกิน 82.5 กก.
• การปรับน้ำหนักตัว

และเพื่อความเป็นธรรม นักกีฬาผู้พิการแต่ละประเภทจะได้รับการปรับเพิ่มน้ำหนักตัวตามระดับความพิการ เช่น:

• ผู้พิการขาขาดเหนือข้อเท้า: เพิ่ม 0.5 กก. ในทุกรุ่นน้ำหนัก
• ผู้พิการขาขาดใต้เข่า: เพิ่ม 1-1.5 กก. ขึ้นอยู่กับรุ่นน้ำหนัก
• ผู้พิการขาขาดเหนือเข่า: เพิ่ม 1.5-2 กก. ขึ้นอยู่กับรุ่นน้ำหนัก
• ผู้พิการขาขาดถึงสะโพก: เพิ่ม 2.5-3 กก. ขึ้นอยู่กับรุ่นน้ำหนัก

กติกาการแข่งขัน Powerlifting

นักกีฬาแต่ละคนมีโอกาสยกน้ำหนัก 3 ครั้ง โดยผู้ที่ยกน้ำหนักได้มากที่สุดจะเป็นผู้ชนะ ทั้งนี้ ต้องปฏิบัติตามกติกาอย่างเคร่งครัด เช่น:

• แขนต้องเหยียดตรง ไม่งอ
• คันเหล็กต้องขึ้นพร้อมกันทั้งสองข้าง
• เหล็กต้องสัมผัสหน้าอกภายใน 3 วินาที
• ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายต้องไม่หลุดออกนอกม้านั่ง

การแข่งขัน Powerlifting สำหรับผู้พิการนี้ ไม่เพียงแต่เป็นการส่งเสริมสุขภาพและความแข็งแรงของร่างกายเท่านั้น แต่ยังเป็น "การสร้างแรงบันดาลใจและความภาคภูมิใจ" ให้กับผู้พิการ ตลอดจนเป็นการสร้างความตระหนักในสังคมถึงความสามารถอันน่าทึ่งของผู้พิการอีกด้วย

 

 

"แบม" กมลพรรณ สร้างชื่อให้ประเทศไทยในพาราลิมปิก 2024

"แบม" กมลพรรณ กระราชเพชร นักกีฬา Powerlifting ยกน้ำหนักหญิงทีมชาติไทย สร้างผลงานอันน่าประทับใจด้วยการคว้าเหรียญทองแดงในการแข่งขันยกน้ำหนักรุ่น 55 กิโลกรัมหญิง ในมหกรรมกีฬาพาราลิมปิก 2024

แม้จะเผชิญกับความท้าทายในการยกครั้งที่สอง แต่ "แบม" ก็แสดงให้เห็นถึงความแกร่งทั้งกายและใจ โดยกลับมาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการยกครั้งสุดท้าย ด้วยน้ำหนัก 108 กิโลกรัม ซึ่งเพียงพอที่จะคว้าเหรียญทองแดงมาครองได้สำเร็จ

ความสำเร็จของ "แบม" ไม่เพียงแต่สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักกีฬาคนพิการและเยาวชนไทยทั่วประเทศ แสดงให้เห็นว่าด้วยความมุ่งมั่นและการฝึกฝนอย่างหนัก ความสำเร็จในระดับโลกไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อม

การแข่งขันครั้งนี้ เหรียญทองตกเป็นของ เรแฮบ อาเหม็ด จากอียิปต์ ด้วยน้ำหนัก 121 กิโลกรัม ตามด้วยเหรียญเงินของ เบสรา ดูมาน จากตุรกี ส่วน "แบม" กมลพรรณ สามารถคว้าเหรียญทองแดงมาครองได้อย่างน่าภาคภูมิใจ

ผลงานอันยอดเยี่ยมของ "แบม" กมลพรรณ ในครั้งนี้ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของวงการกีฬาคนพิการไทย และเป็นแรงผลักดันให้นักกีฬาไทยคนอื่นๆ ก้าวไปสู่ความสำเร็จในเวทีระดับโลกต่อไป

 

ที่มาข้อมูล : paralympicthai.com

ภาพลิขสิทธิ์โดย : Reuters