ลิโอเนล เมสซี่ ได้รับรางวัลบัลลงดอร์สมัยที่ 8 โดยเป็นรางวัลที่มอบให้แก่นักฟุตบอลที่มีผลงานยอดเยี่ยมที่สุดในรอบปี มอบโดยนิตยสารข่าวฝรั่งเศส ฟร็องส์ฟุตโบล และปีล่าสุด (2023) ก็ตกเป็นของเมสซี่
ทั้งนี้ อาดิดาจึงได้ทำแหวนทองคำ 14K คอลเลกชัน Championship จำนวน 8 วง โดยที่แหวนแต่ละวงมีดีไซน์ที่แตกต่างกันเพื่อบอกเล่าเรื่องราวแห่งชัยชนะสู่เส้นทางการคว้ารางวัลบัลลงดอร์ในแต่ละสมัย
ซึ่งอาดิดาสได้วางแผนเปิดประมูลแหวนคอลเลกชันดังกล่าวในช่วงปลายปีนี้ เพื่อนำรายได้มอบให้แก่องค์กรการกุศลที่ถูกคัดเลือกโดยเมสซี่และอาดิดาสต่อไป
สำหรับแหวนทั้ง 8 วงในคอลเลกชัน Championship นั้น จะเป็นเรื่องราวความสำเร็จของลิโอเนล เมสซี่ สู่การเป็นนักเตะที่ดีที่สุดตลอดกาลของโลกถูกถ่ายทอดทุกรายละเอียดลงไปอย่างประณีตบนแหวนแต่ละวง ประกอบด้วย
2009 – El Beso
- แหวนที่บอกเล่าเรื่องราวการคว้ารางวัลบัลลงดอร์ครั้งแรกของเมสซี่ พร้อมช็อตจูบรองเท้าฉลองชัยชนะรอบชิงชนะเลิศแชมเปียนส์ลีกในตำนานเมื่อปี 2009 ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่รองเท้า adidas F50i ของเขาหลุดออกในจังหวะกระโดดโหม่งครั้งที่สองของการทำประตูที่สอง และทำให้สโมสรบาร์เซโลนาสามารถคว้าชัยชนะในการแข่งขันกับสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดที่สนามสตาดิโอ โอลิมปิโกได้สำเร็จ ทั้งนี้ บนตัวเรือนแหวนได้มีการประดับคำว่า Lionel Messi, Champions League Final และ Stadio Olimpico ล้อมรอบภาพ พร้อมกับการสลักคำว่า ‘El Beso’ และ #10 หมายเลขประจำตัวของเมสซี่บริเวณด้านข้างตัวเรือน
2015 - La Cuarta Champions League
- แหวนวงนี้สื่อถึงชัยชนะของการแข่งขันลีกยุโรปที่นักเตะทุกคนใฝ่ฝัน โดยมีการสลักถ้วยรางวัล 4 ถ้วยที่ด้านหน้าของตัวเรือนเพื่อสื่อถึงชัยชนะ 4 ครั้งในแชมเปียนส์ลีกที่เมสซี่คว้ามาให้สโมสรบาร์เซโลนา และยังมีการสลักเลขโรมันของทั้ง 4 ปี ได้แก่ 2006, 2009, 2011 และ 2015 พร้อมคำว่า ‘Campeón’ ที่ด้านข้างของตัวเรือนเพื่อสื่อถึงการเป็นผู้ชนะตัวจริงของเมสซี่
2019 - 6th European Golden Boot award
- แหวนวงนี้ถูกสลักด้วยลวดลายรองเท้าฟุตบอลอาดิดาสจำนวน 6 คู่ บริเวณด้านหน้า ล้อมรอบด้วยลูกฟุตบอล 6 ลูก และคำว่า ‘IIIIII Bota de Oro Europea’ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองให้กับเมสซี่ในการคว้ารางวัลรองเท้าทองคำยุโรป (European Golden Boot award) เป็นสมัยที่ 6 ในปี 2019 นอกจากนี้ยังมีการสลักเลขแต่ละปีที่ได้รับรางวัลไว้ที่บริเวณขอบด้านบน ตลอดจนการสลักจำนวนประตูในลีกที่ทำได้ของแต่ละฤดูกาลที่ได้รับรางวัลที่บริเวณด้านข้างของตัวเรือน
2021 - The First International Trophy
- แหวนวงนี้แสดงถึงความสำเร็จของเมสซี่ในการคว้าแชมป์โคปาอเมริกาในปี 2021 ในแมทช์ระหว่างอาร์เจนตินาและบราซิล โดยด้านหน้าของตัวเรือนประดับด้วย El Sol de Mayo - the May Sun สัญลักษณ์พระอาทิตย์ประจำชาติอาร์เจนตินา บนรูปทวีปอเมริกาใต้ ล้อมรอบด้วยชื่อเล่นของทีมชาติ ‘La Albiceleste’ ซึ่งแปลว่าสีขาวสลับฟ้าในภาษาสเปน นอกจากนี้ วันแห่งชัยชนะ 10th July 2021 ยังถูกสลักไว้เป็นเลขโรมันที่ขอบของตัวเรือน ขณะที่ด้านข้างมีคำว่า ‘Campeón sudamericano’ ซึ่งหมายถึงแชมป์อเมริกาใต้ในภาษาสเปน รวมถึงสัญลักษณ์การจับมือจากตราประจำชาติที่ถูกสลักไว้เพื่อแสดงถึงความสามัคคีของทีมในการร่วมมือกันคว้าแชมป์โคปาอเมริกาสมัยที่ 15 กลับมายังบ้านเกิด ซึ่งถือเป็นชัยชนะครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1993
2023 - World Cup Winner
- แหวนวงนี้ประดับด้วยดาวสามดวงที่ด้านหน้า สื่อถึงการที่เมสซี่เป็นแรงบันดาลใจให้กับอาร์เจนตินาในการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยที่ 3 ณ ประเทศการ์ตา ในปี 2022 และยังส่งผลให้คว้ารางวัลบัลลงดอร์ในปี 2023 จากผลการโหวตให้เขาเป็นนักเตะที่ดีที่สุดประจำทัวร์นาเมนต์ โดยแหวงวงนี้ยังได้มีการสลักคำว่า ‘Campeón del Mundo 2022’ ซึ่งหมายถึงแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ในภาษาสเปน ล้อมรอบดาวสามดวง พร้อมด้วยสัญลักษณ์คนชูถ้วยบริเวณสองข้างของตัวเรือน ซึ่งมาจากสัญลักษณ์คนยกโลกบนถ้วยฟุตบอลโลก
นอกจากนี้ อาดิดาสยังได้จัดทำรองเท้าฟุตบอล X Crazyfast.1 Messi “El Ocho” pack ซึ่งมีการปรับโฉมมาจากรองเท้า X Crazyfast รุ่นซิกเนเจอร์ของเมสซี่ โดยเป็นโทนสีใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสีทองของถ้วยรางวัลบัลลงดอร์ พร้อมด้วยลวดลายลูกฟุตบอล 8 ลูก ซึ่งสื่อถึงการที่เมสซี่ได้รับการโหวตให้เป็นนักเตะที่ดีที่สุดของโลกในแต่ละปี แทรกด้วยลายแพะสีทองที่อยู่บริเวณเชือกรองเท้า ตลอดจนลายพิมพ์นูนประโยค ‘El Mejor Del Mundo’ ซึ่งแปลว่ายอดเยี่ยมที่สุดในโลก ที่ถูกตกแต่งบริเวณด้านนอกของรองเท้าไว้อย่างสง่างาม