คาร์ลอส อัลคาราซ (Carlos Alcaraz) นักเทนนิสหนุ่มชาวสเปน ไม่เพียงดับฝันของโนวัค ยอโควิช วัย 36 ปี ที่ไม่เคยพ่ายแพ้ในรอบชิงชนะเลิศวิมเบิลดันเป็นเวลานานถึง 10 ปี ในการแข่งขันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (16 ก.ค.) แต่ชัยชนะครั้งนี้ (3-2 เซ็ต ด้วยสกอร์ 1-6, 7-6(6), 6-1, 3-6 และ 6-4) ยังทำให้ตัวอัลคาราซเอง ซึ่งเป็น มือวางอันดับหนึ่งของโลก กลายเป็น แชมป์วิมเบิลดัน รายการแรกของเขา ทั้งยังเป็นแกรนด์สแลมรายการที่สองในชีวิต หลังจากที่ได้คว้าแชมป์ยูเอสโอเพ่นเมื่อปีที่แล้ว(2565)
นอกจากนี้ อัลคาราซยังสร้างสถิติเป็น แชมป์ชายเดี่ยววิมเบิลดันอายุน้อยที่สุด ในรอบ 37 ปีของประวัติศาสตร์การแข่งขัน โดยในวันที่คว้าชัยชนะนั้น เขามีอายุเพียง 20 ปี รับเงินรางวัลไป 2,350,000 ปอนด์ ส่วนยอโควิช รองแชมป์ (และเป็นนักเทนนิสชายเดี่ยวมือวางอันดับสองของโลก) รับเงินรางวัลไปทั้งสิ้น 1,175,000 ปอนด์
ก่อนไปทำความรู้จักกับ “อัลคาราซ” กันให้มากขึ้น เรามาดูกันว่า ผลงานที่เป็นชัยชนะครั้งล่าสุดของเขา ได้สร้างความเสียหายในแง่สถิติให้กับโนวัค ยอโควิช ผู้พ่ายแพ้อย่างไรบ้าง
อัลคาราซเป็นผู้ดับฝันของยอโควิช เพราะการพ่ายแพ้ครั้งนี้ทำให้ตัวเลขแชมป์แกรนด์สแลมของเขา (ยอโควิช) ยังคงหยุดอยู่ที่ 23 รายการ แม้ยังคงมากที่สุด แต่ก็มากกว่าสถิติของราฟาเอล นาดาล คู่ปรับตัวฉกาจอีกคนจากสเปน เพียงแค่รายการเดียวเท่านั้น
นอกจากนี้ ยังถือเป็นการดับฝันของยอโควิชที่ต้องการสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักเทนนิสชายคนแรกที่คว้าแชมป์แกรนด์สแลม 4 รายการได้ครบในปีเดียวกัน หลังจากที่เขาคว้าแชมป์ออสเตรเลียนโอเพ่น 2023 และเฟรนช์โอเพ่น 2023 มาแล้วก่อนหน้านี้ (การแข่งขันวิมเบิลดัน 2023 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ถือเป็นการแข่งขันเทนนิสแกรนด์สแลมที่ 3 ของปี)
ประวัติและผลงานของคาร์ลอส อัลคาราซ
คาร์ลอส อัลคาราซ เกิดเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2003 (พ.ศ.2546) ที่เมืองเอล พาลมาร์ จังหวัดเมอร์เซีย ประเทศสเปน บิดาคือนายคาร์ลอส อัลคาราซ กอนซาเลซ เป็นผู้อำนวยการสถาบันฝึกสอนเทนนิส ต่อมาเมื่ออายุ 15 ปี อัลคาราซได้พบกับโค้ชของเขา คือ ฮวน คาร์ลอส เฟร์เรโร่ อดีตนักเทนนิสชื่อดัง ผู้ที่เจียระไนให้เพชรแท้อย่างอัลคาราซเปล่งประกายเฉิดฉาย
อัลคาราซ คว้าแชมป์แกรนด์สแลมแรกในชีวิตได้สำเร็จในปีที่ผ่านมา (2565) ขณะที่เขาอายุเพียง 19 ปีและเป็นมือวางอันดับสามของโลก ด้วยการเอาชนะ รุด คาสเปอร์ จากเดนมาร์ก 3-1 เซ็ต 6-4 2-6 7-6 (7-1) และ 6-3 ในการแข่งขันศึกยูเอส โอเพ่น รอบชิงชนะเลิศ ซึ่งทำให้เขาสร้างสถิติให้ตัวเอง กลายเป็นนักเทนนิสชาย “อายุน้อยที่สุด” ที่สามารถก้าวขึ้นครองมือ 1 ของโลกได้สำเร็จ
โดยเจ้าของสถิติเดิมเป็นของเลย์ตัน ฮิววิตต์ นักหวดออสเตรเลีย ที่เคยขึ้นเป็นนักเทนนิสชายเดี่ยวมือ 1 ของโลกในวัย 20 ปี 268 วันเมื่อปี 2001 (พ.ศ.2544)
ไม่เพียงเท่านั้น การคว้าแชมป์ยูเอส โอเพ่น 2022 ของอัลคาราซ ยังทำให้เขาเป็นนักเทนนิสอายุน้อยที่สุดที่สามารถคว้าแชมป์แกรนด์สแลมต่อจาก ราฟาเอล นาดาล รุ่นพี่ร่วมชาติที่เคยคว้าแชมป์ เฟร้นช์ โอเพ่น เมื่อปี 2005
“มันเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมมาก นี่คือการแข่งขันรอบชิงฯ เพื่อแชมป์แกรนด์สแลม เป็นการต่อสู้เพื่อขึ้นสู่ตำแหน่งมือ 1 ของโลก มันคือทุกอย่างที่ผมเคยฝันถึงตั้งแต่เด็กๆ” อัลคาราซ กล่าวไว้ในครั้งนั้น
ทะยานจากอันดับ 55 ของโลกสู่อันดับหนึ่ง ภายในปีเดียว
ย้อนไปในการแข่งขันยูเอส โอเพ่น 2021 ขณะนั้น อัลคาราซ ยังเป็นแค่นักเทนนิสมืออันดับ 55 ของโลก แต่ก็เริ่มทำผลงานระดับเมเจอร์ได้ดีขึ้นเรื่อยๆจนน่าจับตา นับตั้งแต่การเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศรายการนั้น ตามมาด้วยในปี 2022 เขาเข้าถึงรอบ 3 ของศึกออสเตรเลี่ยน โอเพ่น รวมทั้งรอบรองชนะเลิศเฟร้นช์ โอเพ่น และรอบที่ 4 ของศึกวิมเบิลดันในปีนั้น
ผ่านมา 1 ปีอีกหน คราวนี้เขาคว้าแชมป์เมเจอร์แรกได้ และกลายเป็นนักเทนนิสมือ 1 ของโลก ซึ่งถือเป็น นักเทนนิสชาวสเปนคนที่ 4 ที่ก้าวขึ้นมาเป็นมือท็อปของโลกได้สำเร็จ ต่อจาก
ทั้งนี้ ในประวัติศาสตร์ก่อนถึงสถิติของอัลคาราซ เคยมีนักเทนนิสแค่ 3 คน ที่สามารถก้าวกระโดดจากมือ 4 ขึ้นไปที่มือ 1 ของโลกคือ คาร์ลอส โมย่า (15 มีนาคม 1999) อังเดร อากัสซี่ (5 กรกฎาคม 1999) และพีท แซมพราส (11 กันยายน 2000) นอกจากนั้น อัลคาราซ ซึ่งเป็นนักเทนนิสคนที่ 28 ที่ขึ้นครองมือสูงสุดของโลกได้สำเร็จ จะเป็น 1 ใน 6 นักเทนนิสที่ยังเล่นอยู่ และเคยสัมผัสตำแหน่งมือ 1 ของโลกร่วมกับ โนวัค โยโควิช, โรเจอร์ เฟเดอเรอร์, ราฟาเอล นาดาล, แอนดี มาร์รีย์ และ ดานิล เมดเวเดฟ
ความที่สามารถขึ้นถึงอันดับท็อปของโลกด้วยวัยหนุ่ม 19-20 ปี อัลคาราซ ไม่เพียงเป็นนักเทนนิสมือ 1 ที่มีอายุน้อยที่สุด แต่ยังกลายเป็น ดาวรุ่งที่เขียนประวัติศาสตร์มากมายให้กับวงการเทนนิสชาย