"ฟุตบอลโลก 2022" เดินทางมาถึงรอบ 4 ทีมสุดท้าย หรือรอบรองชนะเลิศ หลังจากที่รอบ 8 ทีมเตะครบหมดทุกคู่ไปเรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ ทีมที่ผ่านเข้ารอบมาทั้งหมด ประกอบด้วย
โดยรอบ 4 ทีมสุเท้ายจะเริ่มทำการแข่งขันกันวันที่ 13-14 ธ.ค. 65
สำหรับฟุตบอลโลก 2022 แล้วสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าสิ่งใดก็คือ "ลูกฟุตบอล" ซึ่งถือว่าเป็นอุปกรณ์สำคัญที่นักเตะทั้ง 22 คนในสนามต้องแย่งชิงกัน เพื่อนำไปสู่เป้าหมายคือประตูฝ่ายตรงข้าม
ล่าสุด อาดิดาส (Adidas) ได้เปิดตัวลูกฟุตบอลสำหรับการแข่งขันรอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศโดยใช้ชื่อว่า “อัล ฮิล์ม" (Al Hilm) ที่แปลว่า “ความฝัน” ในภาษาอาหรับ เพื่อให้มีความหมายเชื่อมโยงกับลูกฟุตบอล “อัล ริห์ลา" (Al Rihla) ที่แปลว่า “การเดินทาง” ซึ่งถูกใช้ในการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่มที่ผ่านมา
สำหรับลูกฟุตบอลทั้งสองรุ่นนั้น ถูกออกแบบโดยใช้เทคโนโลยีแบบเดียวกัน เพื่อให้สามารถเคลื่อนที่ในอากาศได้เร็วกว่าลูกฟุตบอลลูกอื่นๆ ที่เคยใช้ในการแข่งขันฟุตบอลโลก พร้อมทั้งรองรับการตอบสนองความเร็วของการแข่งขันในระดับสูงสุด โดยลูกฟุตบอลอัล ฮิล์ม มาพร้อมกับลวดลายกราฟิกที่โดดเด่น ซึ่งเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับการแข่งขันครั้งประวัติศาสตร์อย่างฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย
ลูกฟุตบอลอัล ฮิล์ม ได้รับการออกแบบให้มีพื้นผิวสีทองบนแพทเทิร์นสามเหลี่ยมสะดุดตา โดยดีไซน์ดังกล่าวได้รับแรงบันดาลใจมาจากประกายระยิบระยับของทะเลทรายซึ่งโอบล้อมรอบเมือง สีของถ้วยรางวัลฟุตบอลโลก และลวดลายของธงชาติกาตาร์ และเพิ่มความสมบูรณ์แบบด้วยกราฟิกสีแดงเข้ม เพื่อให้สะท้อนภาพสถาปัตกรรมและธงชาติกาตาร์ได้อย่างลงตัว
ส่วนชื่อ “อัล ฮิล์ม" (Al Hilm) หรือ “The Dream” ในภาษาอังกฤษ ถือเป็นตัวแทนของช่วงเวลาพลบค่ำ ยามเมื่อท้องฟ้าสีแดงบรรจบกับผืนทะเลทราย ซึ่งเป็นเวลาเริ่มต้นที่ความฝันของผู้คนจะถูกทำให้เป็นจริงภายใต้แสงไฟจากลูเซล สเตเดียม สนามแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ
นิค แคร็กส์ (Nick Craggs) ผู้จัดการทั่วไปของอาดิดาส ฟุตบอล ระบุว่า “ลูกฟุตบอลอัล ฮิล์ม คือตัวแทนของแสงสว่างที่เกิดจากการเชื่อมโยงทั้งโลกเข้าด้วยกันผ่านพลังของกีฬาฟุตบอล ช่วงเวลาที่ผู้คนนับล้านจากเกือบทุกประเทศทั่วโลกรวมกันเป็นหนึ่งเดียวเพื่อถ่ายทอดความหลงใหลที่มีต่อเกมกีฬาชนิดนี้ ซึ่งอาดิดาสขออวยพรให้ทุกทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันรอบสุดท้ายโชคดีในการแข่งขันบนเวทีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของกีฬาฟุตบอลนี้”
อาดิดาสได้นำข้อมูลจากผลการทดสอบอย่างละเอียดในห้องทดลองของอาดิดาส อุโมงค์ลม และสนามแข่งขัน มาใช้ในการออกแบบลูกฟุตบอลอัล ฮิล์ม ซึ่งลูกบอลนี้มีชิ้นส่วนและพื้นผิวสัมผัสเช่นเดียวกับลูกฟุตบอลอัล ริห์ลา ที่ได้เปิดตัวไปก่อนหน้า ประกอบด้วย
อย่างไรก็ดี อาดิดาสได้นำความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ไม่เคยปรากฏที่ไหนมาก่อน อย่าง “Connected Ball” มาไว้ในลูกฟุตบอลอัล ฮิล์ม เช่นเดียวกับลูกฟุตบอลอัล ริห์ลา ซึ่งเทคโนโลยีนี้ได้พิสูจน์แล้วว่ามีประโยชน์อย่างยิ่งในการช่วยให้เจ้าหน้าที่จัดการแข่งขันสามารถทำการตัดสินได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้นในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022
จากการรวมข้อมูลตำแหน่งผู้เล่นเข้ากับเทคโนโลยีดังกล่าวจะช่วยให้ทีม Video Assistant Referees หรือ VAR สามารถทำการตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ด้วยการนำข้อมูลการติดตามลูกฟุตบอลที่เซนเซอร์ภายในจับไว้ได้ มารวมกับการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) จึงทำให้เทคโนโลยี Connected Ball สามารถทำหน้าที่แจ้งเตือนการล้ำหน้าอัตโนมัติให้กับทีม VAR ได้อีกด้วย
ลูกฟุตบอล “อัล ฮิล์ม” ยังได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ ด้วยการใช้น้ำหมึกและกาวที่มีส่วนประกอบจากน้ำเป็นหลัก เพราะฉะนั้น ลูกฟุตบอลอัล ฮิล์ม จึงถือเป็นลูกฟุตบอลสำหรับฟุตบอลโลกรอบรองชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศลูกแรกที่ใช้การผลิตในลักษณะนี้