ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 ยังคงเป็นประเด็นที่ประชาชนให้คสวามสนใจ ทั้งที่เป็นแฟนฟุตบอล และที่ไม่ใช่แฟนฟุตบอล เนื่องจากจะต้องมีการใช้งบประมาณจำนวนมหาศาลในการซื้อลิทสิทธิ์ โดยมีการเชื่อมโยงไปถึงการนำงบจากหลายภาคส่วนเข้ามาช่วยในการซื้อลิขสิทธิ์ครั้งนี้
เมื่อวานนี้ (15 พ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงความคืบหน้าซื้อลิขสิทธิ์ "ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022" รอบสุดท้าย ว่ามีการหารือและสอบถามกันในที่ประชุม ครม.อยู่ในขั้นตอนการเจรจาอยู่ เพราะราคาสูงขึ้นกว่าก่อนมาก
ส่วนพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ตอบข้อซักถามว่าคนไทยจะได้ดูบอลโลกหรือไม่ว่า ไม่รู้ ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าสรุปได้ความชัดเจนแล้วหรือยัง พล.อ.ประวิตรกล่าว ว่ายัง ต้องให้การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ไปคุย ผู้สื่อข่าวถามต่อว่ายังขาดเงินอีกเยอะหรือไม่ที่จะไปซื้อลิขสิทธิ์ รองนายกฯ กล่าวย้ำว่าไม่รู้
อย่างไรก็ดี รายงานข่าวจากที่ประชุมครม.ระบุว่า ในที่ประชุมพูดถึงการหาทางออกเรื่องค่าใช้จ่ายซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก โดยช่วงหนึ่งพล.อ.ประวิตรกล่าวว่า รับรองว่าเราได้ดูแน่ แต่อาจจะช้าไปสักวันหนึ่ง เพราะทางโน้นจะขายลิขสิทธิ์ 30 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเราก็ยังพอไหว
แต่ขณะนี้ นายหน้า สปอนเซอร์กำลังเจรจากันอยู่ อยู่ระหว่างต่อรอง ซึ่งทางโน้นยังไม่ยอมลดราคาเลย ได้ดูนะได้ดูแน่แต่อาจจะไม่ครบทุกคู่
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีจะใช้งบกลางไปซื้อลิขสิทธิ์ว่าในอดีตเคยมี แต่ข้อเท็จจริงมันไม่ควร เนื่องจากต้นทุนงบประมาณสูง ยังมีภัยธรรมชาติหลายอย่าง ยังคาดการณ์ไม่ได้ว่าอีก 11 เดือนข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น
ทั้งนี้เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าใช้เงินกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่าต้องไปชั่งน้ำหนักมีเหตุผลสมควรหรือไม่ที่จะนำเงินไปจ่าย เพราะงบอาจมีรายจ่ายอื่นที่จำเป็นมากกว่า
และที่จะถ่ายทอดสดเพราะต้องการสนองคนที่อยากจะดู แต่จะคุ้มหรือไม่หากคุ้ม ไม่ว่ากัน ถ้าราคาไม่แพงก็คุ้ม แต่ 1,600 ล้านบาทแพงไปหน่อย ยิ่งได้ยินว่าบางประเทศทำได้ถูกกว่านี้
ส่วนข้อซักถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่อาจยืมงบประมาณบางส่วนจากที่ประชุมครม. แล้ว มาใช้คืนหลังได้ค่าสปอนเซอร์ รองนายกฯ กล่าวว่าเป็นไปได้ กล่าวคือยืมแล้วนำมาคืนส่วนจะยืมจากตรงไหนนั้น มันมีอยู่ แต่ไม่ควรเป็นงบกลาง