thansettakij
กรมที่ดินแจงข้อเท็จจริง การออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน พื้นที่ต้นน้ำลำธาร

กรมที่ดินแจงข้อเท็จจริง การออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน พื้นที่ต้นน้ำลำธาร

28 มี.ค. 2568 | 23:51 น.

กรมที่ดินชี้แจงข้อเท็จจริง กรณี การออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน ในพื้นที่ต้นน้ำลำธาร (WATERSHED AREA) นิคมสร้างตนเองลำตะคอง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา

 

ตามที่นายธีรัจชัย พันธุมาศ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาชน ได้มีหนังสือถึงอธิบดีกรมที่ดินขอให้ตรวจสอบโฉนดที่ดินจำนวน 4 ฉบับ ว่าเป็นการออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินในพื้นที่ต้นน้ำลำธาร (WATERSHED AREA) นิคมสร้างตนเองลำตะคอง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา

ธีรัจชัย พันธุมาศ ยื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมที่ดิน ธีรัจชัย พันธุมาศ ยื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมที่ดิน

จึงเป็นที่ดินที่คณะรัฐมนตรีสงวนไวเพื่อรักษาทรัพยากรธรรมชาติหรือเพื่อประโยชนสาธารณะอย่างอื่น ตามข้อ 14 (5) แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 43 (พ.ศ. 2537) ซึ่งออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 กรมที่ดินขอชี้แจงความเป็นมา ดังนี้

พื้นที่  นิคมสร้างตนเองลำตะคองตั้งอยู่ในพื้นที่ ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่25 พฤษภาคม 2514 อนุมัติพื้นที่ป่าไม้ถาวร"ป่าปากช่อง-หมูสี"เนื้อที่ประมาณ444.268 ตารางกิโลเมตรและ"ป่าโครงการรถไฟมวกเหล็ก-สีคิ้ว" เนื้อที่ประมาณ2.400  ตารางกิโลเมตร 

เนื้อที่ประมาณ 280,000 ไร่ ให้เป็นพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำตะคองเพื่อจัดที่ดินทำกินให้ราษฎรผู้ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างเขื่อนลำตะคอง โดยกำหนดพื้นที่ WATERSHED AREA จำนวน 3 แปลง รวมเนื้อที่ประมาณ 107,085 ไร่

เมื่อกรมประชาสงเคราะห์ได้เข้าดำเนินการจัดที่ดินให้แก่ราษฎรพบว่า มีราษฎรเข้าครอบครองทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ส่วนกลาง 20 % เต็มพื้นที่แล้วในส่วนของพื้นที่ต้นน้ำลำธารพบว่ามีราษฎรเข้าครอบครองทำประโยชน์เป็นจำนวนมาก

คณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติจึงได้ประชุมและมีมติเพื่อแก้ไขปัญหาการจัดที่ดินทำกินให้แก่ราษฎรโดยในช่วงปี พ.ศ. 2525 -พ.ศ. 2527 ได้มีมติให้นำที่ดินที่ราษฎรเข้าครอบครองและอยู่อาศัยแล้วมาจัดสรรให้แก่ราษฎรอยู่อาศัยและทำกินโดยไม่ให้กรรมสิทธิ์

จนกระทั่งในการประชุมคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ ครั้งที่ 4/2537 เมื่อวันที่ 7ตุลาคม 2537 คณะกรรมการฯ ได้มีมติอนุมัติให้ออก น.ค. 3 ให้แก่ราษฎร และให้กันพื้นที่ต้นน้ำลำธาร (WATERSHED AREA) รวมเนื้อที่ประมาณ 33,965 ไร่ เพื่อปลูกป่าตามโครงการปลูกป่าทดแทนและอนุรักษ์ดินและน้ำ

นิคมสร้างตนเองลำตะคองได้ดำเนินการออก น.ค. 3 ในพื้นที่ต้นน้ำลำธารให้กับสมาชิกนิคมฯ และกรมที่ดินก็ได้ดำเนินการออกโฉนดที่ดินและ น.ส. 3 ก. สืบเนื่องจาก น.ค. 3 ในพื้นที่ต้นน้ำลำธารจำแนกเป็นโฉนดที่ดินจำนวน 8,738 แปลง เนื้อที่ประมาณ 39,061 ไร่ และ น.ส. 3 ก. จำนวน 1,427 แปลง เนื้อที่ประมาณ 13,118 ไร่ รวมทั้งสิ้น 10,165 แปลง เนื้อที่ประมาณ 52,179 ไร่ ไม่ได้ออกโฉนดที่ดินในบริเวณที่ถูกอภิปรายแต่เพียงพื้นที่เดียวแต่อย่างใด

พื้นที่ต้นน้ำลำธาร (WATERSHED AREA) ในนิคมสร้างตนเองลำตะคองนั้นไม่ได้เป็นพื้นที่หวงห้ามเด็ดขาด เมื่อคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติได้ซึ่งเป็นผู้กำหนดนโยบายเกี่ยวกับที่ดินในขณะนั้นมีมติให้จัดที่ดินและออก น.ค. 3 ให้กับสมาชิกนิคมฯ ได้ สมาชิกที่ได้รับ น.ค. 3 ก็สามารถนำมาเป็นหลักฐานในการออกโฉนดที่ดินหรือ น.ส. 3 ก. ตามมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติจัดที่ดินเพื่อการครองชีพ พ.ศ. 2511

โดยมีผู้ปกครองนิคมฯ ร่วมทำการรังวัดและยืนยันความถูกต้องของ น.ค. 3 ด้วย การออก น.ค. 3 ในพื้นที่ต้นน้ำลำธารของนิคมสร้างตนเองลำตะคอง เป็นไปตามนโยบายการบริหารจัดการที่ดินในขณะนั้น ทั้งนี้ พื้นที่บริเวณดังกล่าวจะเป็นที่ดินหวงห้ามตามมติ ค.ร.ม. ตามนัยข้อ 14 (5) แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 43 (พ.ศ. 2537)

ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 หรือไม่ เนื่องจากประเด็นดังกล่าวมีผลกระทบต่อประชาชนที่ได้รับจัดที่ดินเป็นวงกว้าง กรมที่ดินจึงได้ส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) ซึ่งกำกับดูแลนโยบายที่ดินดำเนินการตามอำนาจหน้าที่แล้ว