นายบิล บาร์เน็ตต์ กรรมการผู้จัดการจาก C9 Hotelworks กล่าวว่า ตลาดเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ของกรุงเทพฯ เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ 6.2% ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา
ปัจจุบันกรุงเทพฯ มี 21,509 ยูนิตจาก 120 โครงการ และมีแผนเพิ่มอีก 2,319 ยูนิต จาก 11 โครงการใหม่ในอดีต ความต้องการเช่าระยะยาวในสุขุมวิทส่วนใหญ่เป็นชาวญี่ปุ่นที่มาทำงานในไทย
แต่เนื่องจาก บริษัทต่าง ๆ ลดงบประมาณที่พักสำหรับชาวต่างชาติ ทำให้ ตลาดเปลี่ยนไปสู่การเช่าระยะกลางและระยะสั้น
วันนี้กลุ่มผู้เช่าหลักเป็นนักเดินทางระยะสั้น (น้อยกว่า 1 เดือน) ส่วนใหญ่มาจาก จีน ญี่ปุ่น เกาหลี อินเดีย และยุโรป ซึ่งเลือกเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์แทนโรงแรม เพราะต้องการพื้นที่ที่กว้างขึ้นและสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ครัวขนาดเล็ก และก็เครื่องซักผ้า
จากข้อมูลล่าสุด ตลาดเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ของกรุงเทพฯ กระจุกตัวอยู่ใน 2 ทำเลหลักย่านสุขุมวิท ได้แก่ Middle Sukhumvit (พร้อมพงษ์-เอกมัย) ซึ่งมี 8,129 ยูนิตจาก 48 โครงการ ถือเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุด Lower Sukhumvit (อโศก-เพลินจิต) มี 4,135 ยูนิตจาก 26 โครงการ
โดยทั้ง 2 ทำเลได้รับความนิยมสูง เนื่องจาก เดินทางสะดวก ใกล้รถไฟฟ้า มีร้านอาหาร แหล่งบันเทิง โรงพยาบาลระดับโลก และโรงเรียนนานาชาติ
หากพิจารณาตามระดับของที่พัก Upscale Serviced Apartments มีสัดส่วนมากที่สุดถึง 34% หรือ 7,344 ยูนิต มี 4,688 ยูนิต Luxury มี 3,651 ยูนิต ในย่านสยามและราชดำริ
ในแง่ของผู้ให้บริการรายใหญ่ The Ascott Limited ถือครองตลาดมากที่สุด ด้วย 4,117 ยูนิต ตามมาด้วย Centre Point, Chatrium และ Marriott
จากแนวโน้มนี้ จะเห็นได้ว่าตลาดเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ยังคงเติบโต โดยมีการพัฒนาโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง
ตลาดเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ของกรุงเทพฯ กำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมี 2,319 ยูนิตจาก 11 โครงการ
โดยกว่า 50% ของอุปทานใหม่กระจุกตัวที่ สุขุมวิทตอนใต้ เน้นไปที่ โครงการมิกซ์ยูสและการพัฒนาแบบไฮบริด
แนวโน้มนี้ จะสะท้อนให้เห็นถึง ความเชื่อมั่นของนักลงทุน ในตลาดที่ยังคงเติบโต โดยเน้น ทำเลศักยภาพและความยืดหยุ่นของการเข้าพัก