วิธีคิด ปั้น“สินธร วิลเลจ”เมืองลักชัวรี กลางธรรมชาติ ยก "หลังสวน"โตยั่งยืน

19 ก.พ. 2568 | 06:33 น.
อัปเดตล่าสุด :19 ก.พ. 2568 | 08:04 น.

วิธีคิด "สืบพงษ์ เกียรติวิศาลชัย" สยามสินธร ปั้น“สินธร วิลเลจ” เมืองลักชัวรี กลางธรรมชาติ ยกระดับ ย่านหลังสวนโตยั่งยืน ยกระดับมาตรฐานประเทศให้ “อยู่แล้วดี -อายุยืน-มีความสุข” อากาศดี มีสวนร่มรื่น ระบบรักษาความปลอดภัยขั้นสุด ปัจจุบันดันราคาที่ดินทะลุ4ล้านบาทต่อตร.ว.

ท่ามกลางความเจริญของเมืองที่เต็มไปด้วยตึกสูงใหญ่และความพลุกพล่านของผู้คน ในย่านศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพมหานคร แต่สำหรับ “หลังสวน -ชิดลม” แล้ว กลับมั่งคั่งไปด้วยความเงียบสงบ สภาพแวดล้อมดี รายล้อมด้วยพื้นที่สีเขียว ซึ่งขึ้นชื่อเป็นย่านอยู่อาศัยระดับไฮเอนด์ที่นับวันจะหาได้ยากยิ่งด้วยลักษณะทางกายภาพที่ได้เปรียบใกล้สวนลุมพินี  ปอดขนาดใหญ่ของคนเมือง รวมถึงสถานที่สำคัญหลายแห่งอย่างสถานทูตสหรัฐอเมริกา โรงแรมหรู แหล่งช้อปปิ้งชั้นนำเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก

เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท สินธร เคมปินสกี้ฯ

 

 “สินธร วิลเลจ” เมืองมิกซ์ยูส ลักชัวรีขนาดใหญ่ เนื้อที่ 42 ไร่ มูลค่า 3 หมื่นล้านบาท ตั้งอยู่กลางใจหลังสวน ชิดลม บนที่ดิน “ลิสโฮลด์” สำนักทรัพย์สินพระมหากษัตริย์  ภายใต้ การดำเนินโครงการของบริษัท สยามสินธร จำกัด มีแนวความคิดหลักพัฒนา บนความตั้งใจเพื่อมอบคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้อยู่อาศัยได้อย่างยั่งยืน  เห็นได้ชัด จากช่วงสถานการณ์โควิด-19 เป็นช่วงลูกค้าตอบรับที่ดีมาจนถึงปัจจุบัน โรงแรมส่วนใหญ่ต่างชาติเข้าพักมากถึง  95% ราคาต่อคืน 13,500 บาท ไม่ใช่โชคช่วยแต่นี่คือความจริง ที่ลูกค้ายอมควักกระเป๋าจ่าย เช่นเดียวกับคอนโดมิเนียมที่ผู้อยู่อาศัยและนักลงทุนล้วนมาจากยอดพีระมิด นักธุรกิจชั้นนำระดับประเทศ เศรษฐีของเมืองไทย กว่า90% เช่าระยะยาว 30 ปีและ 60 ปี สะท้อนได้ถึงความเป็นมืออาชีพอย่างแท้จริง

 ที่น่าสนใจ “สยามสินธร” นับเป็น ผู้ปลุกปั้น โครงการมิกซ์ยูส บนที่ดินลิสโฮลด์ รายแรกในไทย จากที่ดินชุมชนหลังสวน สู่ แลนด์มาร์กสำคัญ จุดประกาย ให้ทั้งย่านกลายเป็นสวรรค์การอยู่อาศัย ทำเลสุดไพร์มผลักดันราคาที่ดินทั้งย่านทะยานไปที่ 4ล้านบาทต่อตารางวา จากการเข้ามาลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของดีเวลลอปเปอร์ชั้นนำ ต่อยอดความเจริญที่ “สยามสินธร” วางรากฐานไว้ และเติบโตไปพร้อมกันทั้งย่าน

สืบพงษ์ เกียรติวิศาลชัย

 ย้อนไป12ปี กับความมุ่งมั่น ผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างยาวนานของ “สยามสินธร” ในที่สุดได้ประสบความสำเร็จอย่างสูงและได้รับการยกย่องให้เป็นต้นแบบการพัฒนาเมืองที่หลายองค์กร สถาบันการศึกษาชั้นนำระดับโลก รวมถึงนักลงทุนแถวหน้าของเมืองไทยต่างตบเท้าเข้ามาศึกษาเยี่ยมชมโครงการ จากจุดเด่นของการสร้างเมือง ให้สร้างผลตอบแทนที่มั่งคั่งยั่งยืน

โครงการสินธร วิลเลจ

โดยนำความต้องการของผู้บริโภคเป็นตัวตั้ง อ่านความต้องการของผู้อยู่อาศัย มุ่งเน้นสิ่งอำนวยความสะดวก ระบบรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุดเทียบเท่ากับสนามบิน และโครงข่ายรถไฟฟ้า พื้นที่สีเขียวเชื่อมต่อกับปอดขนาดใหญ่ภายนอกเป็นเนื้อเดียวแบบไร้รอยต่อ  นี่คือการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนเมืองที่น่าจับตา

            นายสืบพงษ์ เกียรติวิศาลชัย รองกรรมการผู้จัดการ บริษท สยามสินธร จำกัด ให้สัมภาษณ์ ถึงโครงการสินธร วิลเลจ และเดอะ เรสซิเดนซ์ แอท สินธร เคมปินสกี้ฯว่าภาพรวมทั้งโครงการผ่านจุดคุ้มทุนและอยู่ในช่วงเก็บเกี่ยวรายได้กำไรระยะยาว

นอกจากโรงแรมแล้วยังประกอบด้วยคอนโดมิเนียมลักชัวรีจำนวน 5 อาคารเพียง 543 ยูนิตบนที่ดิน 40ไร่ ให้พื้นที่ว่างระหว่างอาคารเปิดรับลมธรรมชาติ  การลงทุนเปิดพื้นที่สวนกว่า 3 ไร่ และยังมีสวนขนาดเล็กโปร่งโล่งสบาย  เชื่อมโยงถึงกัน นี่คือจุดแข็งของการให้ความสำคัญเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้อยู่อาศัยอย่างยั่งยืน ปัจจุบันจำนวนหน่วยเหลืออยู่เพียง46 ยูนิต ในโครงการ เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท สินธร เคมปินสกี้ฯ มีเป้าหมายปิดการขายทั้งหมดภายในปีนี้

สวนขนาดใหญ่ภายในโครงการสินธร วิลเลจ

 โดยคอนโดมิเนียมห้องที่เหลือมีขนาด 2 ห้องนอน ขนาด 140 -160 ตารางเมตร ราคา 40 ล้านบาท  ขณะเพนท์เฮ้าส์ ขายหมดไปก่อนที่อาคารจะเสร็จ โดยห้องขนาด 500 ตารางเมตรห้องแรกขายใน ราคาราคา 150 ล้านบาท หรือตารางเมตรละ 3.5 แสนบาทระยะเวลาเช่า 30 ปี และมีลูกบ้านทดลองตั้งราคาขายที่ตารางเมตรละ 1 ล้านบาท เพื่อสร้างผลตอบแทน  อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับโครงการที่เกิดใหม่ สามารถตั้งราคาขายที่ใกล้เคียงและขายได้ มองว่าโครงการมีศักยภาพที่ดีเยี่ยม

ภายในโครงการสินธร วิลเลจ

การขายส่วนใหญ่เป็นลักษณะลูกค้าบอกต่อ และการขยายครอบครัว อย่างไรก็ตาม เม็ดเงินที่ลงทุนไป 3 หมื่นล้านบาทจะมีมูลค่ามหาศาลเพียงเปลี่ยนกรอบความคิด ปัจจุบันต่างชาติมองว่า กรุงเทพมหานคร คุณภาพชีวิตดีกว่าสิงคโปร์และฮ่องกง โดยเฉพาะสินธร วิลเลจที่บริหารจัดการซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา มีจริยธรรม มีบริษัทลูก ทางด้านช่างและการบริการคอยอำนวยความสะดวก  นอกจากความปลอดภัยและสภาพแวดล้อม เหนือสิ่งอื่นใด ชื่อเสียงต้องมาก่อน 

 นายสืบพงษ์ยํ้าวิธีคิดการพัฒนาโครงการนี้ว่าต้องการยกระดับมาตรฐานประเทศให้ “อยู่แล้วดี -อายุยืน-มีความสุข” นั่นหมายถึงอากาศดี มีสวนร่มรื่นจำนวนมาก โดยพื้นฐานคนอยากมีสวน มีลมพัดผ่าน เรื่องการวางผังอาคาร เวลาแก้ปัญหาไม่แก้ยากจนเกินไป ถ้าเริ่มแก้ปัญหายากขึ้นเรื่อยๆแสดงว่า กำลังทำผิดวิธีและถ้าอยากให้มีลมก็สร้างอาคารให้มันน้อยอยากให้มีสวนก็พัฒนาสวนให้มากขึ้น ซึ่งบริษัทเน้นการพัฒนาให้ตึกหลวม ช่วยถ่ายเทอากาศดี เพื่อลดความแออัดของเมือง   

การพัฒนา โครงการสินธร วิลเลจ ได้ใช้ซัพพลายเออร์คนไทยทั้งหมดทั้งสถานิกวิศวกรฯลฯ  ต้องการให้พวกเขามีพอร์ตงาน แต่งานก่อสร้างต้องบริษัทโอบายาชิ แม้ต้นทุนจะสูง  โดยเน้นยํ้าว่า เวลาพัฒนา โครงการ ได้พิจารณาจากลูกค้าเป็นหลักและมองเรื่องของความยั่งยืน หลังจากนั้นจะดูโปรแกรมที่จะดำเนินการซึ่งที่ผ่านมาบริษัทพัฒนาไปแล้วโดยทำอย่างไรให้เน้นคุณภาพ เน้นให้ลูกค้าอยู่ แล้วไม่มีปัญหาแก้ Pain Point ให้กับลูกค้าเป็นหลักก่อนและทางธุรกิจตามมา

หากนำธุรกิจตั้ง ตัวธุรกิจจะเป็นตัวบล็อก ความคิดสร้างสรรค์หลายอย่างแต่ถ้าเรานำปัญหาของลูกค้าเป็นตัวตั้ง หลังจากนั้นถ้าธุรกิจมันไปไม่ได้ค่อยพิจารณาปรับจูน และ นี่คือความแตกต่างโดยบริษัทจะลงในรายละเอียดเป็นสำคัญ ความได้เปรียบทำเองทุกกระบวนการและขายเอง ดังนั้นจะทราบว่าอะไรเหมาะอะไรไม่เหมาะ วิธีนี้จะได้ของดี  และอยู่กับมันได้ เราเน้นความยั่งยืน

สวนสวยภายในโครงการ

โรงแรมจะเป็นตัวทำเงินในระยะยาว ดังนั้นที่เหลือทั้งหมดเป็นสวน วิธีคิดแค่นี้ เพราะ เรามองระยะยาว ถ้าเรามองระยะสั้นก็จะ บอกว่ากำไรยังน้อยอยู่เลย ทำคอนโดมิเนียมเพิ่ม สวนเล็กลงหน่อย สุดท้ายความพิเศษก็จะหายไป

เมื่อถามถึงความท้าทาย นายสืบพงษ์ มองว่า 12 ปี สนุกที่ได้ทำอะไร ที่มันเป็น

โปรเจ็กต์ที่มีความภูมิใจในระยะยาว เพราะไม่ใช่แค่ขายแล้วจบไปแต่ได้เห็นพัฒนาการสังคมเปลี่ยนไปย่านมันดีขึ้นการใช้ชีวิตดีขึ้น และที่ภาคภูมิใจเวลาที่ต่างชาติมาเมืองไทยต้องพามาแวะโครงการ สินธร วิลเลจ โดยให้เหตุผลว่าต้องการเห็นโครงการดีๆ ในกรุงเทพ มหานคร

เราภูมิใจว่า การพัฒนาโครงการ เปรียบเสมือนไปโอลิมปิกและได้รับการยอมรับ จากประเทศหรือคนที่อยู่ในระดับ โกลบอลสเกลจุดนี้สำคัญอย่างที่บอก ไม่ต้องการแข่งซีเกมส์ ไม่อยากแข่งเอเชียนเกมส์ แต่ อยากพัฒนาไปโอลิมปิก และไปด้วยคนไทย 100%

นายสืบพงษ์ทิ้งท้ายว่า เมื่อทำโครงการนี้ ประสบความสำเร็จ ผ่านจุดคุ้มทุน “สยามสินธร”  มีแผนขยับพัฒนาโครงการ มิกซ์ยูสใหม่ บนที่ดินสิสโฮลด์ และเป็นทำเลที่ดีเยี่ยมต้องรอติดตาม 

อย่างไรก็ตามการทำโปรเจ็กต์หากมีเงินทำเป็นเรื่องที่ดี ในทางกลับกันหากมีเงินในระดับที่จำกัด แต่ทำระดับดีมากและสามารถเลี้ยงตัวเองได้  มองว่ามัน “เท่”กว่า!!!

 

หน้า20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจปีที่ 44  ฉบับที่ 4,072 วันที่ 20 - 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568