พื้นที่คลังสินค้า-นิคม ปี 68 เตรียมรับแรงหนุนต่างชาติ อีคอมเมิร์ซโต
ธุรกิจคลังสินค้าให้เช่า-นิคมอุตสาหกรรมยังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของภาคอสังหาริมทรัพย์ไทยในปี 2568 โดยได้แรงหนุนจากการกระจายฐานการผลิตในภูมิภาคอาเซียน การขยายตัวของอีคอมเมิร์ซ และการลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า
แผนกวิจัยและการสื่อสาร คอลลิเออร์ส ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดคลังสินค้าให้เช่าและนิคมอุตสาหกรรมในปี 2567 ได้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยมียอดเช่าสัญญาใหม่กว่า 350,000 ตารางเมตร ครอบคลุมกลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซ คอนซูเมอร์ และศูนย์กระจายสินค้า ผู้พัฒนารายใหญ่สามารถปล่อยเช่าพื้นที่ได้ตามเป้าหมายและมีการปรับเพิ่มเป้าหมายใหม่ เนื่องจากความต้องการพื้นที่คลังสินค้าคุณภาพสูงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน การซื้อขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีที่ผ่านมา มีการซื้อขายรวมกว่า 6,071 ไร่ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 50.12% โดยพื้นที่ในเขตอีอีซี (Eastern Economic Corridor) เป็นจุดหมายปลายทางหลักของการลงทุนต่างชาติ กว่า 90% ของการซื้อขายที่ดินเกิดขึ้นในพื้นที่นี้
แผนกวิจัยและการสื่อสาร คอลลิเออร์ส ประเทศไทย ยังคาดการณ์ว่าปี 2568 การลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมจะยังคงได้รับแรงหนุนจากการตั้งฐานการผลิตใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และซัพพลายเชนที่เกี่ยวข้อง เช่น ชิ้นส่วนยานยนต์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นต่อศักยภาพของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการผลิตในภูมิภาค
สำหรับคลังสินค้าและโรงงานสำเร็จรูป (Built-to-Suit) และ Warehouse Farm มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับอานิสงส์จากความต้องการพื้นที่สำหรับภาคการส่งออกในอุตสาหกรรมอาหาร อุปกรณ์ทางการแพทย์ และบรรจุภัณฑ์
ทั้งนี้ การเติบโตของธุรกิจคลังสินค้าและนิคมอุตสาหกรรมในปีหน้า ยังสอดคล้องกับการขยายตัวของมูลค่าการอนุมัติส่งเสริมการลงทุน ซึ่งแผนกวิจัยและการสื่อสาร คอลลิเออร์ส ประเทศไทย คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในปี 2568 ตามการสนับสนุนด้านนโยบายเศรษฐกิจและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญในเขตอีอีซี
ซึ่งประเทศไทยจะยังคงรักษาจุดยืนในฐานะศูนย์กลางการผลิตและโลจิสติกส์ในภูมิภาคอาเซียน ด้วยปัจจัยสนับสนุนทั้งด้านนโยบาย การสนับสนุนจากรัฐบาล และความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ ทำให้ธุรกิจคลังสินค้าให้เช่าและนิคมอุตสาหกรรมยังคงเป็นดาวเด่นที่สำคัญของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีหน้าและต่อไปในอนาคต