CPN ทุ่ม 2,000 ล้าน พลิก “Market Place” คอมมูนิตี้มอลล์โฉมใหม่ 15 สาขา

หลังจากการเปิดตัว มาร์เช่ ทองหล่อ โครงการมิกซ์ยูสซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี ในปีนี้ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือCPN ยังให้ความสำคัญกับในการพัฒนา Community Mall เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายมากยิ่งขึ้นในปัจจุบัน

นายวุฒิเกียรติ เตชะมงคลาภิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการและหัวหน้าธุรกิจคอมมูนิตี้มอลล์ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)หรือ CPN  เผยว่า ด้วยโมเดลใหม่ของ “Market Place” ที่จะตอบโจทย์ลูกค้าได้ในเชิงลึกมากขึ้น

ไม่ว่าจะเป็นทั้งแหล่งช้อปปิ้ง สถานที่พักผ่อน และศูนย์รวมไลฟ์สไตล์ที่ครบครัน โดยในอีก 5 ปีข้างหน้า เซ็นทรัลพัฒนาวางแผนที่จะลงทุน 2,000 ล้านบาท ในการปรับปรุงและพัฒนา Market Place ทั้งหมด 15 โครงการทั่วกรุงเทพฯ รวมถึงพัทยา

อาทิ มาร์เก็ตเพลส เจ อเวนิว, มาร์เก็ตเพลส ลา วิลล่า, มาร์เก็ตเพลส นางลิ้นจี่, มาร์เก็ตเพลส พหลโยธิน, มาร์เก็ตเพลส กรุงเทพกรีฑา, มาร์เก็ตเพลส ประชาอุทิศ, มาร์เก็ตเพลส เกษตร-นวมินทร์ เป็นต้น และเตรียมขยายต่อเนื่องอย่างน้อยปีละ 1 แห่ง

โดย "Market Place เทพรักษ์" จะเป็นสาขาแรกที่นำร่องเปิดตัว โดยผสานการเป็น Community Mall กับ Urban Fresh Market เพื่อรองรับการขยายตัวของที่อยู่อาศัยในโซนกรุงเทพฯ ตอนเหนือ

“บริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญกับในการพัฒนา Community Mall ไม่น้อยไปกว่าห้างสรรพสินค้า ดังนั้นเราจึงไม่ใช่ Shopping Center แต่เรากำลังเสนอสินค้าที่แตกต่างกันออกไป”

นางสาวสุรางค์ จิรัฐิติกาลโชติ ผู้อำนวยการโครงการ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า ทำเลเทพรักษ์เป็นการเติบโตของที่อยู่อาศัยสูง มีโครงการที่อยู่อาศัยรวมกว่า 174,000 ยูนิต มีอัตราการเพิ่มจำนวนประชากร 2.4% ต่อปี จำนวนประชากรราว 400,000 คน จึงทำให้เล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจจากความต้องการของคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่

Market Place เทพรักษ์ จึงได้รับการออกแบบเป็นศูนย์กลางของย่านเทพรักษ์-วัชรพล ด้วยพื้นที่กว่า 5,800 ตารางเมตร รองรับร้านค้ากว่า 60 ร้านค้า และพื้นที่ Urban Fresh Market ขนาด 1,500 ตารางเมตร ซึ่งมีทั้งร้านอาหาร ร้านค้าชื่อดัง และ Street Food

นอกจากนี้ยังมีพื้นที่รองรับกิจกรรมหลากหลายไลฟ์สไตล เช่น Kid Playground พื้นที่ Pet-Friendly และพื้นที่ Health & Beauty รวมถึงพื้นที่จัดงานอีเวนต์ที่เหมาะกับกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย

เซ็นทรัลพัฒนายังเน้นกลยุทธ์ด้าน “Sustainable Community” ด้วยการใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและประหยัดพลังงาน เช่น การใช้ Solar Cell และไฟ LED รวมถึงการส่งเสริมการจัดการขยะ การร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ในการลด Food Waste และการติดตั้งจุดชาร์จรถ EV

นายวุฒิเกียรติ ยังกล่าวอีกว่า การรีแบรนด์ในครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่ได้ธุรกิจคอมมูนิตี้มอลล์มาอยู๋ในพอร์ตโฟลิโอของเซ็นทรัลพัฒนา ซึ่งแต่ละสาขาจะมีรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป โดยปรับให้มีความยืดหยุ่นตามเทรนด์และความต้องการที่ต่างกันของคนในคอมมูนิตี้บนแต่ละทำเลศักยภาพ 

ทั้งนี้ บริษัทได้ตั้งเป้าการเติบโตจากการรีแบรนด์ในครั้งนี้ 10-15% โดยดึงดูดกลุ่มลูกค้าด้วยร้านค้าและบริการใหม่ ๆ และยังมองการเติบโตในมุมของรายได้จากคอมมูนิตี้มอลล์เฉลี่ยที่ 3-5% ซึ่งถ้าหากได้รับผลตอบรับดีและมีโอกาสในพื้นที่ใหม่ ก็พร้อมที่จะขยายการลงทุนธุรกิจคอมมูนิตี้มอลล์ในรูปแบบใหม่นี้ต่อไป