ลุ้นคลัง ชงแพ็กเกจกระตุ้นอสังหาฯชุดใหญ่ - ต่ออายุลดโอน-จดจำนองบ้าน-คอนโด

04 พ.ย. 2567 | 04:24 น.
648

3สมาคมอสังหาฯ  ลุ้น กระทรวงการคลัง อัดฉีดแพ็กเกจ มาตรการกระตุ้นตลาดอสังหาฯชุดใหญ่ -ต่ออายุ มาตรการลดค่าโอน-จดจำนองบ้าน-คอนโด ดันเข้าครม.5พ.ย. ขณะ มาตรการLTV -ผ่อนปรนปล่อยกู้ "พิชัย ชุณหวชิร" รองนายกฯและรมว.คลัง รับข้อเสนอเอกชนเพื่อนำไปหารืออีกครั้ง

  ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ช่วงโค้งสุดท้ายของปี2567  ยังคงซบเซาอย่างต่อเนื่อง ผู้ประกอบการต่างจัดกิจกรรมโปรโมชันส่งเสริมการตลาดอย่างต่อเนื่อง รับอานิสงส์ ธนาคารลดดอกเบี้ย รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล

มาตรการกระตุ้นอสังหาฯ

 โดยเฉพาะ มาตรการลดหย่อยค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง สำหรับที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน7ล้านบาท ที่ช่วยจูงใจ คนมีกำลังซื้อ กลุ่มนักลงทุนซื้อบ้านและคอนโดมิเนียมมากขึ้น ขณะเดียวกัน มาตรการดังกล่าวกำลังจะหมดอายุลง (31 ธันวาคม2567)  ซึ่ง3 สมาคมอสังหาริมทรัพย์ คาดว่า รัฐบาลแพทองธาร โดยกระทรวงการคลัง เร่งรัดผลักดัน ต่ออายุ มาตรการลดหย่อยค่าโอนและจดจำนองที่อยู่อาศัยออกไป  

ขณะเดียวกัน ยังมีแพ็กเกจกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ ล็อตใหญ่อีกหลายรายการที่กระทรวงการคลังทยอยออกมาเพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันอังคารที่5พฤศจิกายนนี้  

อย่างมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่าน ภาคอสังหาริมทรัพย์ ของรัฐบาลประสบความสำเร็จ และได้รับผลตอบรับจากประชาชน ล่าสุดเตรียมเสนอ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ออกมาตรการ “ซื้อ-แต่ง-ซ่อม-สร้าง” กระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์วงเงิน 55,000 ล้านบาท

เอกชนมั่นใจรัฐบาลเร่งออกแพ็กเกจกระตุ้นอสังหาฯ

โดยแยกออกเป็น 2โครงการ ได้ แก่  1.สินเชื่อซื้อ-สร้าง วงเงิน50,000ล้านบาท ดอกเบี้ยพิเศษ 5 ปี วงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท เพื่อซื้อที่ดินพร้อมอาคาร หรือคอนโดมิเนียม ปลูกสร้างบ้าน หรือซื้อที่ดินพร้อมปลูกบ้าน และสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อใช้ในการอยู่อาศัย  2. ซ่อม -แต่ง วงเงิน  5,000 ล้านบาท สินเชื่อ ดอกเบี้ยพิเศษ 3 ปี วงเงินกู้ไม่เกิน 1 แสนบาท เป็นสินเชื่อเพิ่มเพื่อต่อเติมหรือซ่อมแซมบ้าน หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวข้องกับที่อยู่อาศัย

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า นอกจาก สินเชื่อ“ซื้อ-แต่ง-ซ่อม-สร้าง”แล้ว อนาคตยังมีโครงการใหญ่ที่จะนำมาพัฒนากระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ชุด ใหญ่ขณะรายละเอียดยังรอสรุปอีกครั้ง  

  ส่วนโครงการสินเชื่อบ้านสำหรับกลุ่มแรงงานจำนวนหลายสิบล้านคนกำหนดอัตราดอกเบี้ยต่ำโดยร่วมมือกับกระทรวงแรงงาน วงเงิน10000ล้านทาท รวมถึงมาตรการต่ออายุ ลดค่าโอน และจดจำนอง เหลือรายการละ 0.01% การพูดคุยรอหารือร่วมกัน คาดว่า วันอังคารที่ 5 พฤศจิกายนนี้

  ส่วน การผ่อนปรนมาตรการLTV  (Loan to Value Ratio )  หรือ อัตราส่วนที่ธนาคารสามารถให้สินเชื่อได้ เมื่อเทียบกับราคาบ้านที่ซื้อ ที่ภาคเอกชนเสนอ และการผ่อนปรนการปล่อยสอนเชื่อ   

ซึ่ง นายพิชัย รับข้อเสนอไปและรับปากจะนำไปพูดคุยกันอีกครั้ง

นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์สะท้อนว่า ท่ามกลางตลอดอสังหาริมทรัพย์ยังไม่ฟื้นตัว ต้องการให้ ธนาคารแห่งประเทศไทย ลดดอกเบี้ยลงอีกครั้งรวมถึง การอัดฉีดมาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชุดใหญ่แบบจีน ซึ่งมีการปลดล็อกมาตรการLTV และลดดอกเบี้ย ปล่อยสินเชื่อสำหรับกลุ่มที่มีกำลังซื้อจริงเป็นต้น