พฤกษา เผยผลงานครึ่งปี ลุยตลาดเฟอร์นิเจอร์ คาดนโยบายหลักอสังหาไม่เปลี่ยน

นายอุเทน โลหชิตพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในครึ่งปีแรกของปี 2567 บริษัทมีรายได้รวม 9,864 ล้านบาท โดยรักษาอัตรากำไรขั้นต้นได้ที่ 33% และยังคงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ด้วยอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อทุนต่ำเพียง 0.39 เท่า

สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นรายได้หลัก บริษัทมียอดโอน 8,310 ล้านบาท และยอดขาย 7,478 ล้านบาท โดยกลุ่มสินค้าประเภทบ้านเดี่ยวมียอดขาย 2,696 ล้านบาท เติบโต 9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ในครึ่งปีแรก และได้เปิดโครงการใหม่ 6 โครงการ มูลค่า 7,509 ล้านบาท และมีแผนเปิดอีก 23 โครงการในครึ่งปีหลัง มูลค่ารวม 19,600 ล้านบาท

โครงการไฮไลท์ที่กำลังจะเปิดใหม่ ได้แก่ เดอะปาล์ม ทวีวัฒนา บ้านเดี่ยวหรู 120 ตารางวา และ เดอะ ปาล์ม เรสซิเดนเซส พัฒนาการ ซึ่งได้รับการรับรอง Tree Certified Home ช่วยประหยัดพลังงานได้กว่า 50% และเน้นการดูแลสุขภาพอย่างครบวงจร

บริษัทยังมียอดขายรอโอน (Backlog) มูลค่าประมาณ 4,900 ล้านบาท คิดเป็น 65% ที่คาดว่าจะโอนได้ในปีนี้ และมีสินค้าที่ยังเปิดขายอยู่มูลค่ารวม 62,577 ล้านบาท สามารถรองรับการเติบโตได้ถึง 2.5 ปี

นอกจากนี้ บริษัทได้มีการปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อต่อยอดธุรกิจก่อสร้างและธุรกิจพรีคาสท์ โดยธุรกิจก่อสร้างภายใต้ชื่อ "อินโน โฮม คอนสตรัคชั่น" ปัจจุบันมียอดรอรับรู้รายได้ราว 2,800 ล้านบาท ส่วนธุรกิจพรีคาสท์ภายใต้ชื่อ "อินโน พรีคาสท์" มียอดรอรับรู้รายได้ราว 4,300 ล้านบาท

และล่าสุด บริษัทได้เปิดตัว "Wizlah TH" (วิซลาห์ ทีเอช) อีมาร์เก็ตเพลสสำหรับการตกแต่งภายในแบบครบวงจร โดยร่วมทุนกับ "ซันเรย์ กรุ๊ป" จากสิงคโปร์ นำเสนอแอปพลิเคชัน ที่ใช้เทคโนโลยี AI, AR และ 3D ในการจำลองการตกแต่งภายในแบบสามมิติ

พร้อมบริการออกแบบและติดตั้งเฟอร์นิเจอร์แบบ Built-in และ Fit-in ที่ลูกค้าสามารถ customize ขนาดให้พอดีกับพื้นที่ที่ต้องการติดตั้ง

รวมถึง วิซลาห์ ทีเอช ยังเป็นตัวกลางในการรวบรวมผลงานออกแบบของสถาปยิก นักออกแบบอินทีเรียร์ดีไซเนอร์ และภูมิสถาปนิกเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อที่ลูกค้าสามารถเข้ามาหาไอเดีย แรงบันดาลใจในการแต่งบ้าน และทำให้การแต่งบ้านเป็นเรื่องง่ายขึ้น พร้อมกับได้แนะนำแอปพลิเคชันนี้ไปยังกลุ่มลูกบ้านของพฤกษาอีกเช่นกัน

ด้านธุรกิจเฮลแคร์ มีการเติบโตในทุกมิติ โดยทำรายได้ในครึ่งปีแรก 1,013 ล้านบาท เติบโต 19% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน ทั้งนี้ วิมุตยังเดินหน้าลงทุนกว่า 1,500 ล้านบาท เตรียมเปิดโรงพยาบาลเฉพาะทาง 1 แห่ง โรงพยาบาลดูและผู้สูงวัย 2 แห่ง และศูนย์ดูแลผู้สูงวัยอีก 3 แห่ง

ทั้งนี้ นายอุเทน ได้กล่าวถึง ผลกระทบของภาคอสังหาริมทรัพย์ จากการเปลี่ยนผ่านของรัฐบาล คาดการณ์ว่า ทิศทางนโยบายที่จะนำมาใช้กระตุ้นอสังหาฯ หลักที่เคยประกาศไว้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง

และถ้าหากเป็นเช่นนั้น คาดว่ารัฐบาลชุดนี้จะมีการดำเนินการได้เร็วกว่าชุดก่อน เนื่องจากรัฐบาลชุดก่อนมีความล่าช้าในการแบ่งงบประมาณ แต่รัฐบาลชุดใหม่มีงบประมาณให้ได้พร้อมใช้ จึงคาดว่าความคืบหน้าในการนำงบประมาณมากระตุ้นเศรษฐกิจจะได้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้น และจะส่งผลดีต่อภาคประชาชนและภาคเอกชน 

ทั้งนี้ ภาคธุรกิจก็ยังคงมีทิศทางกลยุทธ์ของตัวเองที่จะต้องดำเนินงานต่อไป สำหรับครึ่งปีหลัง บริษัทได้มีการประเมินไว้ว่าจะมีโอกาสในการลดดอกเบี้ย ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ผลประกอบการครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรก

หรือหากแบงก์ชาติยืนยันที่จะไม่ลดดอกเบี้ย พฤกษา มีการเตรียมรับมือโดยร่วมมือกับธนาคาร ซึ่งได้เริ่มดำเนินการบางส่วนแล้วในช่วงครึ่งปีแรกและเห็นถึงผลดี จึงคิดว่าหากมีความจำเป็นก็อาจดำเนินการต่อไป แม้ว่าจะมีผลกระทบบางส่วนจากการดูดซับดอกเบี้ยให้กับลูกค้าในระยะแรก