บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย ประกาศปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ แต่งตั้งผู้บริหารเพื่อให้เกิดความคล่องตัว และเสริมความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มธุรกิจในเครือ มุ่งสู่การเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ตามวิสัยทัศน์ "อยู่ดี มีสุข" นับตั้งแต่วันที่1สิงหาคม2567เป็นต้นไป
นายอุเทน โลหชิตพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติการปรับโครงสร้างองค์กรและแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูง ดังนี้
นายปิยะ ประยงค์ จะเข้าดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินโน โฮม คอนสตรัคชั่น จำกัด โดยนำประสบการณ์กว่า 30 ปีในวงการก่อสร้างมาต่อยอดธุรกิจ สู่การเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในอุตสาหกรรมก่อสร้าง โดยมีส่วนในการผลักดันการสร้างบ้านด้วยระบบ Zero Waste Construction พัฒนาประสิทธิภาพและคุณภาพของผู้รับเหมา พัฒนาบ้านประหยัดพลังงานแบบ Passive Home และผลักดันมาตรฐาน Green Procurement Supply Chain เพื่อสร้างการเติบโตในตลาดที่มีมูลค่าการก่อสร้างภาคเอกชนกว่า 3 แสนล้านบาท
นายธีระ ทองวิไล เข้าดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารที่ร่วมงานกับพฤกษามานานกว่า 23 ปี จะสานต่อแผนเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจเรียลเอสเตท ต่อยอดแนวคิด "Better Home and Healthier Community" โดยในปีนี้ ได้วางแผนเปิดโครงการใหม่ 30 โครงการ มูลค่าราว 29,000 ล้านบาทในปีนี้ พร้อมปรับเพิ่มสัดส่วนสินค้าในกลุ่มเซกเมนต์กลาง-บนให้สูงกว่า 50% และวางแผนเปิดโครงการ Wellness Residence 6 โครงการ มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท
นางสาวสุรวีย์ ชัยธำรงค์กูล จะเข้าดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิมุต โฮลดิ้ง จำกัด โดยจะนำประสบการณ์ด้านการเงินการลงทุนกว่า 20 ปี และประสบการณ์ด้านเฮลท์แคร์ 10 ปี มาขับเคลื่อนการเติบโตของกลุ่มธุรกิจเฮลท์แคร์ในระยะยาว มุ่งสร้างรายได้ 4,000 ล้านบาท พร้อมต่อยอดความร่วมมือด้าน Wellness Residence และส่งเสริมการบริการด้านสุขภาพให้เข้าถึงลูกบ้านทุกหมู่บ้านของพฤกษา โดยเน้นความเชี่ยวชาญในด้านประสาทวิทยา ระบบทางเดินอาหารและตับ หัวใจและหลอดเลือด รวมถึงการรักษาโรคเบาหวาน ไทรอยด์ และต่อมไร้ท่อ
นายพรเทพ ศุภธราธาร เข้าดำรงตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักบริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เพื่อกำกับดูแลหน่วยงานสนับสนุน ได้แก่ สายงานจัดซื้อจัดจ้าง กฎหมาย ดิจิทัลและนวัตกรรมกลุ่ม และการพัฒนาอย่างยั่งยืน มุ่งเปลี่ยนแปลงเพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ ลดกระบวนการทำงานภายใต้แนวคิด "Lean Process" และสร้างศูนย์กลางแห่งความเป็นเลิศ (Center of Excellence) เพื่อส่งเสริมการเติบโตของกลุ่ม โดยใน 2 ปีที่ผ่านมาสามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซ CO2 ได้ 10,190 ตัน และลดระยะเวลาการทำงานของฝ่ายจัดซื้อจัดจ้างได้กว่า 16,000 วันทำงานต่อปีจากการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ามาใช้ในระบบจัดซื้อจัดจ้าง
ซึ่งการปรับโครงสร้างครั้งนี้เป็นไปตามแผนการวางแผนผู้สืบทอดตำแหน่ง (Succession Planning) ที่ผ่านการพัฒนาผู้นำและโปรแกรมบ่มเพาะผู้นำ Accelerate Impact with Pruksa โดยเชื่อมั่นว่าการแต่งตั้งตำแหน่งผู้บริหารของแต่ละกลุ่มในครั้งนี้ จะเป็นการวางรากฐานธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคง สร้างโอกาสต่อยอดธุรกิจที่หลากหลาย และส่งเสริมงานด้านสังคมอย่างต่อเนื่องต่อไป