อสังหาฯ ยอดขายชะลอตัว ดันสต๊อกบาน1.8แสนหน่วย

05 ส.ค. 2566 | 12:41 น.
อัปเดตล่าสุด :05 ส.ค. 2566 | 13:02 น.

อสังหาฯ ยอดขายรูดสต๊อกบาน182,935 หน่วย มูลค่า 883,484 ล้านบาท REIC  ย้ำ  ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยในประเทศไทย ทรุดลงค่อนข้างรุนแรง

 

 

 

ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ ปี2566 ยังคงเต็มไปด้วยอุปสรรคและความท้าทาย โดยเฉพาะ สถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมือง ความผันผวนของเศรษฐกิจ ที่สำคัญกำลังซื้อที่เปราะบาง และถูกปฏิเสธสินเชื่อ เป็นตัวการที่ทำให้ เกิดสต็อกสะสมมากขึ้น มุมสะท้อน ของ นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหา ริมทรัพย์ หรือ REIC  ระบุว่า  ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยในประเทศไทยทรุดลงค่อนข้างแรง

เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะยอดขายอาคารชุด มียอดขายตกตํ่ามาก   และส่วนต่างของจำนวนหน่วยเปิดตัวใหม่มากกว่าหน่วยที่ขายได้ใหม่ในไตรมาสที่ 1 ของปีนี้เพิ่มขึ้น 389 หน่วย ส่งผลให้หน่วยที่เหลือขายภาพรวมแนวราบและอาคารชุดในตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 182,935 หน่วย มูลค่า 883,484 ล้านบาท ขยายตัว 7.8% และ 9.4% ตามลำดับ

               จากการสำรวจ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ พบว่า ตลาดบ้านแนวราบในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑลในไตรมาส 1 เปิดขาย 124,723 หน่วย ขยายตัว 6.9% มูลค่า 679,672 ล้านบาท ขยายตัว 13% และเป็นบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ที่เสนอขายมากสุด ส่วนการเปิดตัวใหม่อยู่ที่ 8,699 หน่วย หรือ 6.97% มูลค่า 51,473 ล้านบาท หรือ 7.57% มีจำนวนหน่วยลดลง 16.8% และมูลค่าลดลง 12.8% โดยทาวน์เฮาส์ลดลงมากสุด ทำให้หน่วยที่เหลือขายของแนวราบในตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 113,142 หน่วย มูลค่า 610,073 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.1% และ 14.7% ตามลำดับ

 

ส่งผลให้ในภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบและแนวสูงที่มีหน่วยเหลือขายในกรุงเทพฯ และ 5 จังหวัดปริมณฑล ในไตรมาส 1 ปี 2566 มีการเสนอขายรวมอยู่ที่  204,226 หน่วย ขยายตัว 2.3% มูลค่า 989,251 ล้านบาท ขยายตัว 4.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในจำนวนนี้เป็นหน่วยเปิดตัวใหม่ 21,680 หน่วย หรือ 10.62% มูลค่า 82,246 ล้านบาท หรือ 8.31%

วิชัย วิรัตกพันธ์

 

มีจำนวนลดลง 26% และมูลค่าลดลง 22.5% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และดูยอดขายใหม่ที่เกิดในไตรมาสอยู่ที่ 21,291 หน่วย มูลค่า 105,768 ล้านบาท พบว่าพบว่าหน่วยลดลง 29.1% และมูลค่าลดลง 22% มีอัตราการดูดซับปรับตัวลดลงจาก 3.5% ต่อเดือน หรือระยะเวลาขายหมด 26 เดือน หรือกว่า2ปี

นี่คือสัญญาณที่น่าตกใจ และเป็นการบ้าน ที่รัฐบาลใหม่ ต้องรับมือ !!!