กทม.น้อมรับคำสั่งศาลปกครองสูงสุด คดีแอชตัน อโศก ยันพร้อมลดผลกระทบประชาชน

31 ก.ค. 2566 | 13:57 น.
อัปเดตล่าสุด :31 ก.ค. 2566 | 14:09 น.

กทม.น้อมรับคำสั่งศาลปกครองสูงสุด ยันพร้อมลดผลกระทบประชาชน ที่ซื้อและอยู่อาศัยในโครงการคอนโดมิเนียมหรู"แอชตัน อโศก"

 

กรณีศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษายืนตามศาลปกครองกลาง  สั่งเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างโครงการแอชตัน อโศก  เพราะออกโดยมิชอบด้วยกฎหมาย  ตามที่ นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ถนนสุขุมวิท ซอย 19 แยก 2 เขตวัฒนา กทม. จำนวน 16 คน เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง และกรุงเทพมหานครคือหนึ่งในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายน 2559เป็นต้นมา

ล่าสุด วันที่ 31 ก.ค. 2566 นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า สำหรับประเด็นคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดในคดีแอชตัน อโศกที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้เพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างนั้น

วิศณุ ทรัพย์สมพล

สำนักการโยธา กรุงเทพมหานครจะมีหนังสือแจ้ง สำนักงานเขตวัฒนา พิจารณาออกคำสั่งให้เจ้าของอาคารดำเนินการแก้ไขอาคารให้ถูกต้องตามกฎหมายควบคุมอาคาร โดยใช้อำนาจตามมาตรา 40 มาตรา 41  และมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 แล้วแต่กรณี

อย่างไรก็ตาม การเพิกถอนใบรับแจ้งการก่อสร้างดังกล่าว ไม่ได้หมายความว่าอาคารชุดแอชตัน อโศก จะต้องมีการรื้อถอนอาคาร บริษัทผู้เป็นเจ้าของโครงการ สามารถยื่นขอใบแจ้งก่อสร้างใหม่ได้ที่สำนักงานเขตวัฒนา

โดยบริษัทจะต้องแก้ไขเปลี่ยนแปลงตามที่ศาลสั่ง ซึ่งก็คือเพิ่มทางเข้า-ออกโครงการให้มีความกว้างของถนน 12 เมตร และอยู่ติดกับถนนสาธารณะที่มีความกว้าง 18 เมตร ซึ่งเป็นไปตามที่กฎหมายควบคุมอาคารและกฎหมายผังเมืองกำหนด

หากบริษัทเจ้าของโครงการสามารถปรับปรุงแก้ไขเปลี่ยนแปลงทางเข้า-ออกแล้วเสร็จ ก็สามารถยื่นขอใบแจ้งก่อสร้างได้

"สำหรับกรณีนี้ขอเวลาให้ทีมกฎหมายของกรุงเทพมหานครพิจารณารายละเอียด ตามคำพิพากษาอย่างถี่ถ้วน เนื่องจากมีผลกระทบกับพี่น้องประชาชนอย่างสูง” รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครกล่าวในตอนท้าย