'พรอสเพค' หวังปิดดีล 'คลังสินค้า' ทะลุ 1.5 แสนตร.ม. รับต่างชาติ ขยายฐานผลิต

16 ธ.ค. 2565 | 13:13 น.
อัปเดตล่าสุด :16 ธ.ค. 2565 | 20:18 น.

'พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์' เผย จ่อปิดดีลเช่าคลังสินค้า ปี 2566 ทะลุ 1.5 แสนตร.ม. ชูจุดเด่นโซนบางพลี รองรับธุรกิจโลจิสติกส์ขยายตัว นักลงทุนต่างชาติ ขยายฐานการผลิต ขณะ ธุรกิจ EV โตก้าวกระโดด

16 ธ.ค.2565 –  พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ ในเครือ บมจ.มั่นคงเคหะการ เดินหน้าสร้างการเติบโตเต็มสูบ หลังขยายอาณาจักรคลังสินค้าและโรงงานให้เช่าเพิ่ม 5 โครงการบนยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ของไทย สิ้นปี 2565 คาดว่าเซ็นสัญญาลูกค้าใหม่เพิ่มอีกกว่า 120,000 ตร.ม. พร้อมประกาศปิดดีลเช่าคลังสินค้า รูปแบบสร้างตามความต้องการ (Built-to-Suit) พื้นที่เช่ากว่า 30,000 ตร.ม. ในโครงการใหม่ บางกอกฟรีเทรดโซน 3 (BFTZ 3) ถนนบางนา-ตราด กม. 19 ให้แก่ลูกค้าผู้ให้บริการโลจิสติกส์ ซึ่งวางแผนผลักดันให้คลังสินค้าแห่งใหม่นี้เป็น Logistics Hubs ของบริษัทฯ ด้วยสัญญาเช่าระยะยาว 15 ปี ตอกย้ำความต้องการพื้นที่บางพลีของภาคโลจิสติกส์และอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่ยังขยายตัวต่อ เนื่องจากเป็นศูนย์กลางขนส่งที่สำคัญของไทย

\'พรอสเพค\' หวังปิดดีล \'คลังสินค้า\' ทะลุ 1.5 แสนตร.ม. รับต่างชาติ ขยายฐานผลิต

นางสาวรัชนี มหัตเดชกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (“บริษัทฯ”) ในเครือบริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาและบริหาร ‘โครงการบางกอกฟรีเทรดโซน’ กล่าวว่า “ผลงานของ พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ ในปีนี้ถือว่าเติบโตตามเป้าที่วางไว้ ภายใต้กลยุทธ์ 'มากกว่าพื้นที่' (More Than Just Space) ในการส่งมอบอาคารตอบโจทย์การใช้งานผู้เช่าอย่างยืดหยุ่น เราจึงสามารถรักษาฐานผู้เช่าเดิมและเพิ่มเติมผู้เช่าใหม่เข้ามาต่อเนื่อง 

\'พรอสเพค\' หวังปิดดีล \'คลังสินค้า\' ทะลุ 1.5 แสนตร.ม. รับต่างชาติ ขยายฐานผลิต

สำหรับไตรมาส 3 ของปี 2565 มีการเซ็นสัญญาของผู้เช่ารายใหม่เข้ามากว่า 100,000 ตร.ม. และคาดว่าจะปิดปีด้วยพื้นที่เช่าใหม่ทะลุ 120,000 ตร.ม. ล่าสุดเราได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าผู้ให้บริการโลจิสติกส์ชั้นนำของไทย มอบหมายให้พัฒนาอาคารคลังสินค้ารูปแบบ Built-to-Suit พื้นที่เช่า 30,000 ตร.ม. ในเขตอุตสาหกรรมทั่วไป (General Zone) ของโครงการ BFTZ 3 ถนนบางนา-ตราด กม.19 ด้วยสัญญาเช่าระยะยาว สะท้อนความเชื่อมั่นในด้านการพัฒนาอาคารของ พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ บนทำเลยุทธศาสตร์โลจิสติกส์ รองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต”

อาคารคลังสินค้าแห่งใหม่นี้ ได้รับการออกแบบและก่อสร้างตามความต้องการของลูกค้า พัฒนารูปแบบให้มีความทันสมัย ใช้ไฟระบบ LED ที่ช่วยเรื่องการประหยัดไฟ ยกระดับมาตรฐานการใช้งาน เป็นอาคารขนาดใหญ่ที่รวบรวมศูนย์กระจายสินค้าเดิมของผู้เช่ามารวมไว้ในที่เดียวกัน ทำให้สามารถกระจายสินค้าได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ตอบสนองดีมานด์ด้านการขนส่งได้ทันท่วงที โดยทำการลงเสาก่อสร้างเป็นที่เรียบร้อย คาดว่าจะแล้วเสร็จและส่งมอบอาคารภายในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2566

\'พรอสเพค\' หวังปิดดีล \'คลังสินค้า\' ทะลุ 1.5 แสนตร.ม. รับต่างชาติ ขยายฐานผลิต

พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ เป็นผู้พัฒนาและบริหารโครงการคลังสินค้าและโรงงานให้เช่าที่มีความแข็งแกร่งในเรื่องการหาพื้นที่ทำเลศักยภาพและเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาอาคาร พร้อมบริการ One Stop Service ปัจจุบันครองพื้นที่บางพลี ทั้งโครงการ BFTZ 1 บริเวณบางนา-ตราด กม.23, โครงการ BFTZ 3 ถนนบางนา-ตราด กม.19  และ โครงการ BFTZ  6 ถนนบางนา-ตราด กม.19  ที่กำลังอยู่ในระหว่างพัฒนาอาคาร พร้อมเดินหน้าตามโรดแมปกับโครงการ BFTZ 4 บางปะกง ด้วยอาคารพร้อมใช้แบบ Ready Built และ เปิดตัวอาคาร Built-to-Suit โครงการ BFTZ 5 วังน้อย ในปีหน้า ซึ่งการขยายอาณาจักรกระจายตัวไปยังทำเลยุทธศาสตร์เหล่านี้ จะทำให้สามารถส่งมอบบริการได้อย่างครอบคลุม เนื่องด้วยแต่ละโลเคชั่นจะมีจุดเด่นตอบโจทย์แต่ละอุตสาหกรรมแตกต่างกันไป

 

“ด้วยศักยภาพและสิทธิประโยชน์ของผู้ประกอบการในเขต EEC โครงการใหม่ของ พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ ที่ บางปะกง จะดึงดูดผู้เช่าในกลุ่มธุรกิจ S-Curve และ New S-Curve อาทิ ธุรกิจการแปรรูปอาหาร ห้องเย็น ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนธุรกิจโลจิสติกส์ โดยเรามุ่งเน้นในส่วนของให้เช่าอาคารคลังสินค้าทั่วไป และอาคารเก็บสินค้าวัตถุอันตราย เป็นหลัก และตั้งเป้าว่าจะพัฒนาอาคาร Ready Built ที่สามารถปรับไปเป็น Built-to-Suit รวมถึงเตรียมที่ดินสำหรับรอพัฒนาอาคาร Built-to-Suit เพราะเมื่อเราขยายโครงการไปยังโลเคชั่นที่หลากหลาย ลูกค้าจะมีทางเลือกการใช้พื้นที่ได้มากขึ้น กลุ่มธุรกิจที่น่าจับตามอง นอกจากกลุ่มโลจิสติกส์แล้ว ยังมีธุรกิจ EV ที่เข้ามาสร้างโอกาสให้กับทาง พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ เช่นกัน พร้อมอานิสงค์ของนักลงทุนต่างชาติที่เร่งขยายฐานการผลิตมาที่ประเทศไทย เชื่อมั่นว่าปี 2566 จะเป็นช่วงเวลาสำคัญในสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน”

 

สำหรับภาพรวมอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมยังมีแนวโน้มโตต่อ โดยเฉพาะพื้นที่ยุทธศาสตร์โลจิกสติกส์ที่เอื้ออำนวยต่อการขนส่ง มีสิทธิประโยชน์ให้แก่ผู้ประกอบการไทยและต่างประเทศ ข้อมูลจาก บีโอไอ ระบุว่า คำขอรับการส่งเสริมการลงทุนในปี 2565 จะอยู่ที่ประมาณ 500,000 ล้านบาท มีปัจจัยสนับสนุนหลักจากโครงการขนาดใหญ่ที่ทยอยเข้ามา ประกอบกับความขัดแย้งในภูมิภาคส่งผลให้เกิดการย้ายฐานการผลิตมายังไทยเพิ่มขึ้น ซึ่งที่ผ่านมา อัตราเช่าคลังสินค้าและโรงงานในโครงการ BFTZ ยังคงสูงกว่า 90% และมีลูกค้าในไปป์ไลน์ที่กำลังเจรจาเช่าพื้นที่อีกหลายราย