'พีระพงศ์ จรูญเอก' นั่งแท่น 'นายกสมาคมอาคารชุดไทย'คนใหม่

26 เม.ย. 2565 | 20:06 น.
อัปเดตล่าสุด :28 เม.ย. 2565 | 00:25 น.
966

' โด่ง-พีระพงศ์ จรูญเอก 'แม่ทัพ บมจ. ออริจิ้น นั่งแทนนายกสมาคมอาคารชุดไทยคนใหม่ ลำดับที่ 12 จับตาวิสัยทัศน์ ฟื้นตลาดคอนโดฯไทย ฝ่าวิกฤติโควิด-19 กับสต็อกเหลือขายและต้นทุนขาขึ้น

26 เมษายน 2565 - วันนี้ สมาคมอาคารชุดไทย ซึ่งมีการจัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ณโรงแรมอโนมา แกรนด์ ถ.ราชดำริ กรุงเทพมหานคร ได้คัดเลือก ให้ 'นายพีระพงศ์ จรูญเอก ' ขึ้นดำรงตำแหน่ง นายกสมาคมอาคารชุดไทยคนใหม่ พร้อมตั้งแต่งคณะกรรมการบริหารสมาคมฯชุดใหม่ ประจำปี 2565-2566 ร่วมด้วย 

สำหรับ นายพีระพงศ์ จะถือเป็นนายกสมาคมอาคารชุดไทย คนที่ 12 ต่อจาก ดร.อาภา อรรถบูรณ์วงศ์ ซึ่งหมดวาระลง


แม่ทัพใหญ่จักรวาลออริจิ้น

โดย โด่ง - พีระพงศ์ ซึ่งเป็นที่คุ้นเคยของสื่อมวลชนสายอสังหาริมทรัพย์เป็นอย่างดีนั้น ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ซึ่ง มีสัดส่วนการถือหุ้น (ไม่นับรวมหุ้นของภรรยาและบุตร) อยู่ที่ 693,606,354 หุ้น (ร้อยละ 28.277) 

\'พีระพงศ์ จรูญเอก\'  นั่งแท่น \'นายกสมาคมอาคารชุดไทย\'คนใหม่

ขณะ บมจ. ออริจิ้น หรือ ORI ถือเป็นบริษัทอสหาฯ Top5 ของไทย มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย 

  1. ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 103 โครงการ (ณ สิ้นไตรมาส 1/2565) เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (PARK ORIGIN), ดิ ออริจิ้น (The Origin), ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play), ไนท์บริดจ์ (KnightsBridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), เคนซิงตัน (Kensington), แฮมป์ตัน (Hampton), บริกซ์ตัน (Brixton) และ บริทาเนีย (BRITANIA) รวมมูลค่าโครงการกว่า 154,900 ล้านบาท 
  2. ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก 
  3. ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และยังมีวิสัยทัศน์ในการขยายประเภทธุรกิจใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง อาทิ ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ ธุรกิจพลังงาน ฯลฯ 



ทั้งนี้ ปี 2565 บมจ.ออริจิ้น ตั้งเป้าเปิดตัวโครงการใหม่เฉียด 42,000 ล้าน และวางเป้ายอดขายที่ 35,000 ล้าน ตั้งเป้ารายได้รวม 17,500 ล้านบาท หลังจากปี 2564 สร้าง New High ยอดโอนรวมโครงการกิจการร่วมค้ากว่า 16,157 ล้านบาท มีรายได้รวม 15,943 ล้านบาท และเติบโตจากช่วงเดียวกันของปี 2563 กว่า 43% อีกทั้ง มีกำไรสุทธิ 3,194 ล้านบาท เติบโตจากปี 2563 กว่า 20% 
 

ตามรายงานข่าว ณ ไตรมาส 1 ปี 2565  (ม.ค.-มี.ค.2565) บมจ.ออริจิ้น เปิดเผยว่า สามารถสร้างยอดขายรวมได้แล้วอยู่ที่ประมาณ 8,000 ล้านบาท


เปิดประวัติการศึกษา

  • ปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ประเภททั่วไป สาขาการจัดการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ประจำปีการศึกษา 2562 มหาวิทยาลัย​เกษมบัณฑิต​
  • ปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ (หลักสูตรนานาชาติ) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
  • ปริญญาโท Master Degree of Engineering, University of New South Wales, Australia
  • ปริญญาตรี คณะวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยขอนแก่น


ภารกิจหลักแก้โจทย์หิน ตลาดคอนโดฯ ของนายกคนใหม่

สำหรับโจทย์สำคัญของนายกสมาคมคอนโดฯคนใหม่นั้น คงหนีไม่พ้น คือ การกอบกู้สถานการณ์หลักในตลาดคอนโดฯ กทม.และเมืองท่องเที่ยว จากการหายไปของลูกค้าต่างชาติ ราว 20% ซึ่งมีผลพ่วงจากสถานการณ์โควิด19 และการปิดประเทศ รวมถึงกำลังซื้อที่ถอดถอยลงของคนไทยอีกด้วย ทำให้คอนโดฯกลางเมืองลดความต้องการลง  ขณะคอนโดฯราคาถูก ยอดปฎิเสธสินเชื่อยังสูง และขณะนี้ผู้ประกอบการ ยังมีปัญหาต้นทุนการก่อสร้างของที่กำลังกระอักจากราคาพลังงาน วัสดุก่อสร้างเร่งตัว ผลพ่วงจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ไม่นับรวม ภาระภาษีที่ดินใหม่ ที่ผู้ประกอบกาา และ 3สมาคมอสังหาฯ กำลังหาทางออก

 

ทั้งนี้ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ( REIC) ประเมินว่า ในปี 2565 จะมีโครงการอาคารชุด หรือ คอนโดมิเนียมเปิดใหม่ ในทำเล กทม. ปริมฑล จำนวน 44,519 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 111.5 มูลค่า 177,246 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 184.7 ซึ่งอาจต้องระมัดระวัง หากมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิค 19 มากจนต้องมีการ Lock-down จะส่งผลให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไม่กระเตื้องขึ้นเท่าที่ควร  นอกจากนี้ยังมีปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ย ความผันผวนของราคาน้ำมันซึ่งมีผลต่ออัตราเงินเฟ้อเป็นปัจจัยเสี่ยงในการเปิดตัวโครงการใหม่
\'พีระพงศ์ จรูญเอก\'  นั่งแท่น \'นายกสมาคมอาคารชุดไทย\'คนใหม่

โดย REIC ยังคาดการณ์ว่า ณ สิ้นปี 2565 จะมีหน่วยเหลือขายคงค้างอยู่ในตลาดคอนโดฯ จำนวน 68,887 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.1 มูลค่า 284,775 ล้านบาท  เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.7 

 

นายกสมาคมอาคารชุดไทยคนใหม่ ย้ำเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายฟื้นตลาดคอนโดฯ

 

ทั้งนี้ ล่าสุด นายพีระพงศ์​ นายกสมาคมอาคารชุดไทยคนใหม่ เปิดเผยว่า ในฐานะผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรที่เติบโตจากการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับความไว้วางใจจากคณะกรรมการสมาคมอาคารชุดไทยให้ขึ้นรับตำแหน่งสำคัญในครั้งนี้ และยินดีที่จะนำเอาความรู้ วิสัยทัศน์ และประสบการณ์ที่สั่งสมมาตลอด 12 ปี มาปรับใช้ในการทำงานร่วมกับทางสมาคมฯ เพื่อช่วยฟื้นฟูและขับเคลื่อนตลาดคอนโดมิเนียมให้เติบโตยิ่งขึ้น พร้อมผลักดันและส่งเสริมผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ทั้งขนาดกลางและขนาดเล็กให้พร้อมรับมือกับการแข่งขัน สามารถเติบโตไปด้วยกันในทุกภาวะเศรษฐกิจ

 

" คาดการณ์ว่าภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในปีนี้จะกลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ผ่อนคลายมาตรการ LTV ชั่วคราว โดยปรับเกณฑ์ให้ผู้ที่ซื้อที่อยู่อาศัยมูลค่าไม่เกิน 10 ล้านบาท เป็นสัญญาที่ 2 และสัญญาที่ 3 สามารถยื่นขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยได้ 100% จะช่วยกระตุ้นให้ผู้บริโภคกลุ่มเรียลดีมานด์ที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง และกลุ่มนักลงทุนตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยได้ง่ายขึ้น ประกอบกับแนวโน้มที่จะมีการกลับมาเปิดประเทศเต็มรูปแบบเร็วๆ นี้ ซึ่งจะเข้ามาช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจและรายได้ของคนในประเทศ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยให้กลับมาสู่ภาวะใกล้เคียงปกติ ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ที่คาดว่าจะมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นจากกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้น  "