ทุนใหญ่ ลุยโครงการชานเมือง คอนโดต่ำล้าน - คอนโดราคาล้านต้นฮอต

14 ก.ย. 2564 | 16:51 น.
อัปเดตล่าสุด :14 ก.ย. 2564 | 23:55 น.

ไนท์แฟรงค์ เผยตลาดคอนโดฯกทม. ไตรมาส 2 ซัพพลายเปิดใหม่ 2,659 หน่วย พบรายใหญ่ ขยับปักหมุดโครงการ โซนชานเมืองมาก 72% ขณะคอนโดฯ ต่ำล้าน - คอนโดฯราคาล้านต้นมาแรง

นายณัฎฐา คหาปนะ รองกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าสำนักงานไนท์แฟรงค์ ภูเก็ต บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ในไตรมาสที่ 2 ปี 2564 การแพร่ระบาดของ COVID -19 ยังคงรุนแรงและไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ เป็นปัจจัยลบที่ยังคงกดดันการเติบโตของตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพมหานครเป็นอย่างมาก ความรุนแรงของโรคระบาดได้เพิ่มขึ้นมาตั้งแต่เดือนเมษายน ส่งผลให้เกิดความอ่อนไหวของผู้ซื้อที่ลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ ทำให้ยอดขายอยู่ในอัตราที่ต่ำและผู้ประกอบการต้องเพิ่มต้นทุนส่งเสริมการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขาย ซึ่งผู้ประกอบการรายใหญ่ยังสามารถประคับประคองธุรกิจให้ไปต่อได้ แต่ผู้ประกอบการรายย่อยอาจจะต้องเผชิญกับภาวะการแข่งขันที่มากขึ้นกว่าเดิม

ทุนใหญ่ ลุยโครงการชานเมือง คอนโดต่ำล้าน - คอนโดราคาล้านต้นฮอต

ในขณะเดียวกันพบว่า บางโครงการที่เปิดตัวในไตรมาสนี้กลับมียอดขายที่โดดเด่นหรือปิดการขายได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว โดยเป็นโครงการที่ตั้งอยู่ในบริเวณชานเมืองซึ่งเป็นโครงการของผู้ประกอบการรายใหญ่ ซึ่งตั้งราคาขายที่ต่ำให้สามารถเข้าถึงได้ง่ายเจาะกลุ่มเป้าหมายหลักที่มีรายได้จำกัดได้ตามที่ต้องการ แม้ความกังวลในเรื่องของการควบคุมโรคระบาดที่ยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ในปัจจุบัน แต่ผู้ประกอบการรายใหญ่ยังคงมีความเชื่อมั่นในการลงทุนพัฒนาโครงการในเชิงบวก ในขณะที่ผู้ประกอบการรายย่อยขาดความเชื่อมั่นในการลงทุนเพราะต้องเสียเปรียบในด้านเงินลงทุนที่ไม่แข็งแกร่งและอาจมีปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงิน
 

จากผลวิจัยของไนท์แฟรงค์ประเทศไทย พบว่า ตลาดคอนโดมิเนียมในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2564 ณ อุปทานตลาดคอนมิเนียมในกรุงเทพมหานครมีจำนวนทั้งสิ้น 2,659 หน่วย จำนวนหน่วยขายใหม่ลดลงในอัตราร้อยละ 33.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และลดลงร้อยละ 26.8 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า

ทุนใหญ่ ลุยโครงการชานเมือง คอนโดต่ำล้าน - คอนโดราคาล้านต้นฮอต

จำนวนคอนโดมิเนียมที่เปิดตัวใหม่ตั้งอยู่บริเวณชานเมืองอยู่ที่ร้อยละ 72 หรือ 1,915 หน่วย เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าถึงร้อยละ 22 ในบริเวณรอบเขตศูนย์กลางธุรกิจ (City Fringe) และบริเวณศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) คิดเป็นอัตราส่วนที่ร้อยละ 22 และร้อยละ 6 ตามลำดับ แม้ในภาพรวมอุปทานใหม่จะมีจำนวนที่ลดลงแต่อุปทานส่วนมากจะอยู่บริเวณย่านชานเมืองทั้งสิ้นซึ่งเป็นโครงการของกลุ่มบริษัทรายใหญ่ในประเทศ

โดยคอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่อยู่ในระดับราคาเริ่มต้นที่ต่ำกว่าล้านไปจนถึงล้านต้นๆ หรือประมาณ 30,000-80,000 บาท ต่อ ตารางเมตร ขณะที่กลุ่มบริษัทรายย่อยกลับพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในระดับราคา 85,000 บาท ต่อ ตารางเมตรขึ้นไป โดยคอนโดมิเนียมระดับเกรดบีคิดเป็นอัตราส่วนร้อยละ 43 รองลงมาได้แก่คอนโดมิเนียมระดับเกรดซี คิดเป็นอัตราส่วนร้อยละ 35 และคอนโดมิเนียมระดับเกรดเอคิดเป็นอัตราส่วนเพียงร้อยละ 22 ในส่วนคอนโดมิเนียมระดับซุปเปอร์ไพร์มพบว่าไม่มีจำนวนหน่วยเปิดขายใหม่ในไตรมาสนี้

 

ทั้งนี้ ประเมินแนวโน้มการเปิดตัวโครงการในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ของปีนี้ ว่า จะเป็นโครงการของผู้ประกอบการรายใหญ่อยู่ประมาณ 70% ของทั้งตลาด เนื่องจากมีการซื้อที่ดินสะสมอย่างต่อเนื่องเพื่อรอการพัฒนา อีกทั้งความสามารถในการบริหารต้นทุนยังมีมากว่าผู้ประกอบการรายย่อยและสามารถพัฒนาที่ดินพร้อมกันได้หลายโครงการ นอกจากนี้หากประเทศได้รับการฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึงและสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ รวมถึงปัจจัยในด้านอื่นที่จะสามารถสนับสนุนโดยเฉพาะมาตรการภาครัฐช่วยกระตุ้นกำลังซื้อในประเทศอันจะส่งผลดีที่จะทำให้เศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัวได้เร็ว