ธนาสิริ กรุ๊ป ปรับแผนงานลุยตลาดปี 60

29 พ.ย. 2559 | 11:00 น.
อัปเดตล่าสุด :29 พ.ย. 2559 | 18:54 น.
การดำเนินธุรกิจภายใต้ทายาทรุ่น 2 ที่ชื่อ "สุทธิรักษ์ เสถียรภาพอยุทธ์" สร้างอัตราการเติบโตให้กับ ธนาสิริ กรุ๊ป อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด จากเดิมไม่ค่อยเป็นที่รู้จักของตลาดมากนัก สู่เป็นหนึ่งในผู้นำการพัฒนาที่อยู่อาศัยโซนกรุงเทพฯตะวันตกและจังหวัดนนทบุรี ด้วยรายได้สูงสุดเฉียด 1,000 ล้านบาท แต่เหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ปลายปี 2554 ทำให้อัตราการเติบโตของบริษัทชะลอตัว มาวันนี้ "สุทธิรักษ์" พร้อมที่จะนำทัพ บริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ก้าวสู่เป้าหมายการเติบโตที่ 20% ในปี 2559 โดยปีนี้บริษัทปรับเปลี่ยนแผนการทำงานในหลายๆส่วน อาทิ ระบบการก่อสร้าง แผนการตลาด เพื่อรองรับการเติบโตที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

ปี 2559 ปีแห่งการปรับฐาน

ปีนี้เป็นปีที่เราเขย่าหลายเรื่อง หลายมาตรการ ทั้งระบบการก่อสร้าง ที่ปรับมาเป็นระบบพรีแคสต์ โดยบริษัทเริ่มเปลี่ยนมาตั้งแต่ช่วงกลางปี 2558 ส่งผลให้มีสินค้าพร้อมขายมากขึ้น เนื่องจากมองว่าคนรุ่นใหม่อยากเห็นสินค้าที่ตนเองมีความสนใจจะซื้อว่าเป็นอย่างไร เพื่อช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้บริษัทสามารถรับรู้รายได้เร็วขึ้น ทั้งช่วยเรื่องการแข่งขันกับคู่แข่งได้อย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับระบบการทำงานแบบออนไลน์มากขึ้น ระบบบริการหลังการขาย ปีนี้จะเป็นปีที่เราเข้าไปจัดมาตรฐานการดูแลลูกค้า วันนี้ลูกค้ารู้จักและเข้าใจเรา แต่เราอยากให้เกิดการบอกต่อที่มากขึ้น ด้วยการปรับเปลี่ยนรูปแบบการดีไซน์ ปรับปรุงสเปก และปรับปรุงบริการหลังการขาย เมื่อเราปิดช่องว่างที่เกิดขึ้นจะช่วยทำให้เกิดการบอกต่อมากขึ้น

เพิ่มสินค้าให้ครอบคลุมทุกระดับราคา

เดิมบริษัทมีแบรนด์ที่ใช้ในการพัฒนาสินค้าทั้งหมด 3 แบรนด์ประกอบด้วย ธนาฮาบิแทต ธนาซิโอ และธนาวิลเลจ แต่ตามแผนการดำเนินธุรกิจใหม่ และนำแบรนด์ "ธนาเรสซิเดนท์" (Thana Residence) มาแทน โดยกำหนดเป็นแบรนด์สำหรับโครงการบ้านเดี่ยว ที่ระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป กลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีรายได้ค่อนข้างสูงระดับ B+, A มีรายได้ต่อเดือนที่ 1.2 -1.5 แสนบาท ทั้งนี้ เพื่อให้มีชื่อ "ธนา"อยู่ในทุกระดับราคา

นอกจากนี้จะเพิ่มแบรนด์ "ธนาคลัสเตอร์" (Thana Cluster) ขึ้นมา มีลักษณะเป็นโครงการทาวน์โฮม หรืออาคารพาณิชย์ ระดับราคา 5-10 ล้านบาท เหมาะต่อกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่ ต้องการบ้านในทำเลใกล้เมืองที่มีพื้นที่ใช้สอยเพียงพอ ซึ่งปัจจุบันเปิดขายแล้ว 2 โครงการ คือ ธนาคลัสเตอร์ ราชพฤกษ์ – รัตนาธิเบศร์ และธนาคลัสเตอร์ สถานีเซ็นทรัล – บางใหญ่ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

สำหรับแบรนด์ ธนาวิลเลจ ซึ่งเป็นแบรนด์บ้านเดี่ยว ระดับราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท และ ธนาซิโอ เป็นแบรนด์ทาวน์โฮม หรืออาคารพาณิชย์ที่ระดับราคา 2-3 ล้านบาท กลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่ ในราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทก็ยังคงอยู่ ซึ่งการขยายแบรนด์ก็เพื่อให้ครอบคลุมทุกระดับราคา

ขยายสู่พื้นที่ใหม่-ต่างจังหวัด

ในโซนกรุงเทพฯตะวันตกและจังหวัดนนทบุรีถือได้ว่าแบรนด์ ธนาสิริ เป็นแบรนด์ที่มีความเข้มแข็งอยู่แล้ว บริษัทจึงมีแผนขยายสู่พื้นที่อื่นๆ เช่น โซนพระราม 2 อ่อนนุช หนามแดง ศรีนครรินทร์ วัชรพล ฯลฯ เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพและมีความต้องการที่อยู่อาศัย ล่าสุดในช่วงต้นปีที่ผ่านมา บริษัทเปิดตัวโครงการใหม่ในจังหวัดอุดรธานี ได้แก่ โครงการสิริวิลเลจ อุดรธานี-แอร์พอร์ต บ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวน 179 หน่วย บนเนื้อที่ 39 ไร่ ราคาขายเฉลี่ย 3.9 ล้านบาทต่อหน่วย มูลค่าโครงการ 706 ล้านบาท ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นการพัฒนาโดยบริษัท พิมานสิริ จำกัด ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัท ธนาสิริ พร๊อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด กับกลุ่มบริษัท อีสานพิมานกรุ๊ป จำกัด

พร้อมกันนี้ บริษัทยังมีที่ดินที่รอการพัฒนาอีก 4 แปลง เช่น ในตำบลบางสีทอง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี บนเนื้อที่ 26 ไร่ และที่ดินที่หาดกมลา จังหวัดภูเก็ตอีก 105 ไร่ ในอนาคตจะมีโครงการในจังหวัดอื่นๆตามมา โดยจะเน้นในจังหวัดที่มีศักยภาพ

ปี2560 ตั้งเป้าเติบโต 50%

การที่เรามีสินค้าครอบคลุม จะทำให้เราสามารถทำการตลาดได้ง่ายขึ้น ดังนั้นในปี 2560 เราจึงต้องรุกในเรื่องของการตลาดเป็นลำดับถัดไป โดยการเข้าหาลูกค้าในพื้นที่ต่างๆ เพื่อดูความต้องการของลูกค้า ว่าต้องการสินค้าประเภทใด เราจะได้นำสินค้าไปลงได้ตามความต้องการ สำหรับโครงการใหม่ที่จะเปิดในปี 2560 คือ โครงการธนาเรสซิเดนท์ บ้านเดี่ยวระดับราคา 8-13 ล้านบาท จำนวน 92 หน่วย พร้อมได้เตรียมงบซื้อที่ดินไว้ที่ 300-500 ล้าน ทั้งนี้ในปี 2556 บริษัทตั้งเป้าเติบโตมากกว่า 50% จากปี 2559 เนื่องมีสินค้าครบในทุกกลุ่ม มีระบบพรีแคสต์มาช่วยสร้างการรับรู้รายได้ให้เร็วขึ้น ดังนั้นบริษัทจึงมั่นใจว่าเป้าการเติบโตที่ตั้งไว้จะเป็นไปได้อย่างแน่นอน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,213 วันที่ 27 - 30 พฤศจิกายน 2559