DITP ยกทัพแพลตฟอร์มชั้นนำ ดันสินค้าผลไม้ไทยขายออนไลน์สู่ตลาดโลก ผ่าน 2 กิจกรรมใหญ่คาดยอดขายกว่า 120 ล้านบาท

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ นำแพลตฟอร์มออนไลน์ชั้นนำ เข้าร่วมกิจกรรมเจรจาการค้าสินค้าผลไม้ ผลไม้แปรรูป และผลิตภัณฑ์แปรรูปจากผลไม้ ผ่าน 2 กิจกรรมใหญ่ ในงาน “Cross-border e-Commerce ขายออนไลน์สู่ตลาดโลก” ครั้งที่ 1 ณ จังหวัดจันทบุรี และงาน Thailand Premium Fruit Business Matching ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว เพื่อช่วยระบายสินค้าผลไม้ออกสู่ตลาดต่างประเทศผ่านช่องทางออนไลน์ มีมูลค่าการสั่งซื้อกว่า 120 ล้านบาทภายใน 1 ปี

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า “กรมได้ดำเนินการตามนโยบาย “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” ยุทธศาสตร์ตลาดนําการผลิต ของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์  เพื่อขยายตลาดส่งออก นอกจากการเชิญผู้นำเข้า/ผู้ซื้อจากตลาดหลักเข้าร่วมเจรจาการค้ากับผู้ประกอบการไทยแล้ว ในปีนี้กรมยังให้ความสำคัญกับการเปิดตลาดบนช่องทางออนไลน์อย่างต่อเนื่อง ในการขยายตลาดสินค้าไทยไปยังกลุ่มลูกค้าในต่างประเทศได้โดยตรง โดยเฉพาะสินค้าเกษตรที่มีผลผลิตล้นตลาดในบางฤดูกาล เราได้ใช้ช่องทางออนไลน์เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญในการช่วยแก้ไขปัญหา

กรมได้เชิญแพลตฟอร์มชั้นนำที่ได้รับความนิยมในตลาด จีน อเมริกา ฮ่องกง และอาเซียน ซึ่งเป็นตลาดเป้าหมายที่มีความสนใจสินค้าผลไม้ของไทยทั้งในรูปแบบผลไม้สดและผลไม้แปรรูป รวมถึงผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่  ผลิตจากผลไม้ ได้แก่ Amazon, Tmall, ebay, Shopee, Lazada, Klangthai, Pinkoi, PChomeThai และ AbouThai มาเจรจาซื้อสินค้าจากผู้ส่งออกโดยตรงในงาน “Cross-border e-Commerce ขายออนไลน์สู่ตลาดโลก” ครั้งที่ 1 ณ จังหวัดจันทบุรี และงาน Thailand Premium Fruit Business Matching ณ โรงแรม เซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว ทั้งนี้ จาก 2 กิจกรรม เกิดการจับคู่เจรจาการค้ารวม 189 คู่ คาดว่าจะมีมูลค่าการซื้อขายภายใน 1 ปี อยู่ที่ 120 ล้านบาท” นายภูสิต กล่าว
 

นายนิษณะ ทวีพาณิชย์ ผู้อำนวยการสำนักตลาดพาณิชย์ดิจิทัล กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา สินค้าไทยได้รับความนิยมอย่างสูงบนช่องทางออนไลน์ โดยเฉพาะสินค้าผลไม้ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสินค้าที่มีรสชาติดีและคุณภาพสูง และสินค้าอื่นๆ อาทิ  อาหาร เครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์ความงาม ทำให้กรมเล็งเห็นโอกาสการขยายตลาดสินค้าดังกล่าวบนช่องทางออนไลน์ จึงได้นำแพลตฟอร์มชั้นนำที่เป็นพันธมิตรกับกรมลงพื้นที่ไปเจรจาจับคู่ธุรกิจ เพื่อคัดเลือกสินค้าผลไม้ และสินค้าศักยภาพอื่นๆ

ไม่ว่าจะเป็นสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ สินค้าสุขภาพและความงาม อาหาร และเครื่องดื่ม จากผู้ประกอบการและผู้ส่งออกโดยตรง เพื่อขึ้นขายบนแพลตฟอร์มภายใต้โครงการร้าน TOPTHAI ซึ่งเป็นร้านค้าออนไลน์ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันได้มีการปักหมุดเปิดร้าน TOPTHAI แล้วบน 7 แพลตฟอร์มที่มีความร่วมมือกับกรมฯ ได้แก่ Amazon, Tmall, Shopee, Klangthai, PChomeThai, Bigbasket และ Blibli ครอบคลุมตลาดในภูมิภาคสำคัญๆ เช่น อเมริกา จีน เอเชีย และอาเซียน เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้ผู้ประกอบการไทยสามารถขยายการส่งออกสินค้าสู่ตลาดโลกได้เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ กรม มีกำหนดจะนำแพลตฟอร์มชั้นนำลงพื้นที่เพื่อเจรจาคัดเลือกสินค้ากับผู้ประกอบการและผู้ส่งออกสินค้าโดยตรงอีกครั้ง ณ จังหวัดเชียงใหม่ ในงาน “Cross-border e-Commerce ขายออนไลน์สู่ตลาดโลก” ครั้งที่ 2 ในปลายเดือนเมษายน 2566 นี้ ผู้ประกอบการและผู้ส่งออกที่กำลังมองหาลู่ทางขยายโอกาสในการส่งออกผ่านช่องทางออนไลน์ สามารถสมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ติดต่อสอบถามรายละเอียดข้อมูล ได้ทาง Facebook :  Thaitrade.com และ www.thaitrade.com/topthai  หรือโทร 1169