รู้จักกับ On Page SEO คืออะไร มีความสำคัญอย่างไร มาดูกันเลย

15 พ.ย. 2565 | 13:00 น.
อัปเดตล่าสุด :15 พ.ย. 2565 | 20:57 น.

On Page SEO เป็นเรื่องที่สำคัญที่จะช่วยให้ Algorithm หรือ Bot ของ Search Engine สามารถทำงานได้ง่ายมากขึ้น และยังเป็นประโยชน์ให้กับผู้ใช้งานด้วย

alt-On Page SEO คืออะไร

ในปัจจุบันมีหลายคนที่สนใจในเรื่องของ SEO เป็นจำนวนมาก โดย SEO ก็คือการทำ Digital Marketing ประเภทหนึ่งซึ่งจะช่วยให้เว็บไซต์นั้น ๆ ขึ้นเป็นอันดับแรก ๆ ในการค้นหาผ่าน Google

 

เมื่อเว็บไซต์อยู่ในการค้นหาอันดับแรก ๆ จะช่วยทำให้มีคนรู้จักแบรนด์นั้น ๆ มากยิ่งขึ้น และทำให้มีคนเข้ามาชมเว็บไซต์โดยผ่านคีย์เวิร์ดที่เหมาะสมกับธุรกิจประเภทนั้น ซึ่งจะส่งผลให้ยอดขายของแบรนด์เพิ่มสูงขึ้น

 

ถ้าหากคุณต้องการจะรู้รายละเอียดที่ลึกลงไปอีกเกี่ยวกับ SEO เข้ามาอ่านบทความนี้คุณจะเข้าใจมากขึ้นแน่นอน โดยเราจะมาอธิบายว่า On-Page SEO คืออะไร ทำไมจึงต้องทำ มีเทคนิคการทำอย่างไรบ้าง ? มาดูกันเลย

 

ON PAGE SEO

SEO ไม่ติดเลยควรทำอย่างไรดี ? โดยสาเหตุอาจมาจากคุณยังไม่เชี่ยวชาญทางด้านการทำ On Page SEO มากพอก็เป็นได้ค่ะ

 

หากต้องการให้ผลลัพธ์ติดหน้าอันดับของ Google มากขึ้น สามารถใช้เทคนิค On Page SEO SITE  มาช่วยในการปรับปรุงเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยเทคนิคนี้จัดว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สำคัญสำหรับคนทำเว็บไซต์เลยทีเดียว

สำหรับบทความนี้จะมีเทคนิคที่ช่วยให้การทำ SEO On Page ของคุณ ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น แต่ก่อนหน้านั้นเราไปทำความรู้จักกันก่อนว่า On Page SEO คืออะไร และทำไมจึงต้องทำ Search Engine Optimization โดยบทความของเราจะให้คำตอบแก่คุณอย่างละเอียดแน่นอน

 

On Page SEO คืออะไร?

On Page SEO คือการเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพของเนื้อหาบนเว็บไซต์ ให้ดีพอที่ผู้ใช้งานและ Bot ของ Search Engine เข้าใจได้ง่ายว่า เว็บไซต์ของคุณมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องไหน โดยสิ่งนี้จะส่งผลอย่างมากต่อการทำ SEO ด้วย

 

ทำไมการทำ On Page SEO จึงเป็นเรื่องสำคัญ?

On Page SEO เป็นเรื่องที่สำคัญเพราะจะช่วยให้ Algorithm หรือ Bot ของ Search Engine สามารถทำงานได้ง่ายมากขึ้น และยังเป็นประโยชน์ให้กับผู้ใช้งานอีกด้วย

 

On Page SEO มีความสำคัญต่อผู้ใช้งานอย่างไร ? เมื่อผู้ใช้งานเข้ามายังหน้าของ Search Engine เพื่อค้นหาสิ่งที่ต้องการ หรือสิ่งที่อยากรู้ การทำ On Page SEO จะช่วยปรับปรุงเว็บไซต์ของคุณให้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การตั้งชื่อที่อยู่ลิงก์ (Slug URL) การตั้งชื่อ Tiltle หรือ Meta Description Description  (โดยถ้าใครยังไม่ทราบว่า 3 อย่างนี้คืออะไร เราจะมีการอธิบายไว้ที่หัวข้อด้านล่างค่ะ)

 

สิ่งเหล่านี้จะทำให้ผู้ใช้งานรู้ว่า เว็บไซต์ของคุณในหน้านั้น ๆ มีสิ่งที่พวกเขากำลังตามหาอยู่หรือไม่ ถ้าเว็บไซต์ของคุณตอบสนองกับพวกเขาได้เท่ากับว่าคุณจะได้กลุ่มเป้าหมายที่มีความสนใจสินค้าหรือบริการของคุณมาเป็นที่เรียบร้อย

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง Backlink คืออะไร มีความสำคัญอย่างไรกับการทำ SEO

เทคนิคการทำ On Page SEO (สำหรับมือใหม่)

หลายคนคงอยากรู้แล้วว่าจะปรับ On Page SEO อย่างไร ให้มีประสิทธิภาพและดีขึ้นกว่าเดิม มาดูกันเลย

 

ความสำคัญต่อ Algorithm ของ Search Engine

Google คือ Search Engine ประเภทหนึ่งที่สามารถมองคอนเทนต์บนเว็บไซต์ของคุณได้ว่ามีการใช้คำค้นหา (Keyword) ที่มีความเกี่ยวข้อง (Relevant) กับเว็บไซต์ของคุณหรือไม่ ทั้งนี้มีสแปม Keyword ลงไปในคอนเทนต์ Google จะปัดเว็บไซต์ของคุณทิ้งแน่นอน

 

โดยจะมีวิธีการมากกว่านั้นซึ่งจะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณสามารถติดอันดับจากการทำ On Page SEO โดยในปี 2022 นี้ ควรปรับคอนเทนต์บนเว็บไซต์ของคุณให้เหมาะสำหรับ:

  • User experience
  • Bounce Rate and Dwell Time
  • Search Intent
  • Page loading speed
  • Click-through-rate

 

ปรับปรุงเรื่อง Keyword

Keyword นั้น ถือว่าเป็นหัวใจหลักของการทำ SEO ถ้าคุณต้องการจะปรับแต่งเว็บไซต์ด้าน On Page ให้ดีขึ้น ก็ควรโฟกัสไปที่ Keyword โดยเรามีเทคนิคดี ๆ เกี่ยวกับเรื่อง Keyword มาฝาก ซึ่งมีดังต่อไปนี้

 

1.ควรทำ Keyword ให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

อย่างที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ว่า Google จะค้นหาความเกี่ยวข้องของ Keyword ที่ใช้ และเนื้อหาที่อยู่บนเว็บไซต์ โดยถ้า Target Keyword ที่ถูกเลือกมามีความตรงกับ Search Intent

 

โดยกลุ่มเป้าหมายต้องการรู้สิ่งเหล่านี้ และถ้าคุณสามารถทำคอนเทนต์ให้ตรงใจกับพวกเขาได้อย่างละเอียด จะส่งผลให้ Google มองเห็นคุณภาพและความเกี่ยวข้องของเว็บไซต์ของคุณได้แน่นอน

 

2. ควรวาง Target Keyword ในตำแหน่งที่ตรงจุด

ตำแหน่งที่ควรจะวาง Keyword นั้น สามารถแบ่งได้ตามดังนี้

 

สำหรับการใส่ Keyword ไว้ที่ Title ของบทความ และควรใส่ Keyword ให้ดูเป็นธรรมชาติที่สุด เพื่อที่เมื่อผู้ใช้งานอ่านจะไม่รู้สึกขัดหูขัดตา จนอาจส่งผลให้ยอดคลิกลดลง โดยสิ่งนี้สามารถส่งผลต่อการพิจารณาของ Google ว่า CTR ควรเป็นอย่างไร

 

การใส่ Keyword ไว้ใน Meta Description ซึ่งก็คือข้อมูลสรุปย่อที่มีความเกี่ยวข้องกับเนื้อหาทั้งหมดของเว็บไซต์ โดยจะเป็นรายละเอียดที่ขึ้นมาด้านล่าง ต่อจาก Headline หรือ Title Meta Tags ที่อยู่บน

หน้า Search Engine และ URL ของบทความ เพื่อทำให้ Google เข้าใจว่า หน้าเว็บเพจนี้พูดถึงเรื่องอะไรตั้งแต่แรก ควรจะใส่ Keyword ไว้ใน 100 คำแรกของคอนเทนต์

 

3.การความสำคัญกับ Keyword Frequency

คุณสามารถปรับปรุงความถี่ของการใช้ Keyword ได้ โดยสมมุติว่าคุณเขียนบทความเกี่ยวกับ Keto Diet แต่ว่ากลับมีแค่คำว่า Keto Diet ที่เป็น Keyword ปรากฏอยู่ในบทความเพียงครั้งเดียว Google ก็จะมองว่า บทความนี้อาจไม่เกี่ยวข้องกับคำค้นหานี้

 

ทั้งนี้ถ้ากล่าวถึงคำว่า Keto Diet ถึง 10 ครั้ง Google ก็มีความมั่นใจแล้วว่าหน้านั้น กำลังพูดถึงเรื่อง Keto Diet อยู่ และถือว่านี่เป็น Target Keyword ซึ่งโฟกัสอยู่ในบทความนี้ 

 

แต่ว่าการใส่จำนวนที่เยอะเกินไปอาจสามารถถูกหาว่าเป็นสแปมได้ ดังนั้นควรใส่ Keyword ให้เป็นธรรมชาติ ที่ทำให้รู้สึกอ่านแล้วเข้าใจ มากกว่าการเขียนแบบสแปม ที่เมื่ออ่านแล้วไม่ได้มีเนื้อหาหรือได้สาระอะไรจากการอ่านบทความเลย

 

ปรับปรุง Title และ Meta Descrtiption
นอกเหนือจากเรื่องการใส่ Keyword ไปที่ Title และ Meta Descrtiption แล้ว ก็ต้องมีการปรับปรุงเรื่องความยาวให้เหมาะกับการแสดงผลที่อยู่บนหน้าของ Google ด้วย โดยคุณสามารถใช้ SERP Snippet Optimization Tool เพื่อตรวจสอบความยาวของ Title และ Meta Descrtiption ได้ว่าพอดีแล้วหรือยัง

 

ปรับแต่ง Heading Tag
หลายคนอาจรู้มาบ้างแล้วว่า การเขียนบทความให้ใช้ Heading Tag (H) เรียงตั้งแต่ H1-H6 โดยการทำ HTML Tag เพื่อให้ Search Engine รู้ว่า เว็บไซต์หน้านี้มีความเกี่ยวข้องในเรื่องอะไร และพูดถึงเรื่องไหนอยู่

 

ทั้งนี้คุณต้องไม่ลืมที่จะใส่ Keyword ลงใน Heading Tag ด้วย เพราะว่าเป้นสิ่งที่สำคัญอย่างมากในการทำ SEO ON PAGE

 

ปรับปรุง URL ให้ดีต่อ SEO
URL ก็คือที่อยู่ของเว็บเพจหน้านั้น ๆ โดยคุณควรทำให้ URL มี Keyword เกี่ยวข้องที่เขียนสั้น กระชับ เพื่อที่ผู้ใช้งานที่ค้นหาเว็บของคุณเจอสามารถเข้าใจได้ทันทีว่าบทความนี้เกี่ยวกับเรื่องอะไร เช่น

 

โดยทั้งสอง URL จะพาไปยังหน้าเว็บไซต์เดียวกัน แต่เมื่ออ่าน URL ทั้งสองแบบจะรู้ได้ว่า URL ด้านล่างจะสื่อถึงลิงก์นี้ว่าพูดถึงเรื่องอะไร โดยเรื่องนี้สามารถส่งผลไปถึง CTR ของหน้าเว็บนั้น เพราะถ้าเลือกใช้ลิ้งก์แบบแรกอาจทำให้ผู้ใช้งานไม่อยากที่จะกดเข้ามายังเว็บ เนื่องจากเว็บไซต์ดูขาดความน่าเชื่อถือ

 

การใส่ Image
การใส่ Image ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของ On Page Seo  ดังนั้นควรใส่รูปภาพในการอธิบายข้อมูลเพิ่มเติมด้วย เพราะหากใส่รูปเข้าไปจะทำให้คอนเทนต์น่าอ่านมากขึ้น สามารถจับใจความง่ายขึ้นมากกว่าการเขียนเป็น Text 

 

อีกทั้งควรเพิ่ม Alt text หรือคำอธิบายรูปภาพที่จะแทรกใน HTML Code ไปด้วย โดยใส่คำอธิบายรูปนั้นตามตริง และควรใส่ Keyword ที่เกี่ยวข้องลงไปด้วย เพื่อที่ Search Engine สามารถเข้าใจได้ว่า ว่า รูปนั้นเกี่ยวกับอะไร และช่วยให้มีโอกาสติด Image search อีกด้วย

 

การทำ Internal Link และ External Link
อีกสิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญต่อการทำ on page seo เลยก็คือการทำ Internal Link ซึ่งจะใช้เพื่อเชื่อมโยงลิ้งก์ไปที่หน้าอื่น ๆ บนเว็บไซต์โดยสิ่งนี้จะส่งผลต่อการทำ SEO อีกด้วย 

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการทำลิ้งก์คุณภาพสูงที่อยู่บนเว็บไปยังลิงก์ที่ต้องการปรับปรุง สำหรับการทำเช่นนี้ทำช่วยให้ Search Engine มองเห็น ความสัมพันธ์ของหน้าเว็บนั้น ๆ มากยิ่งขึ้น โดยเว็บ Wikipedia ถือว่าเป็นตัวอย่างเว็บที่ดีในการทำ Internal Link 

 

หลายคนอาจคิดว่าการอ้างอิงหรือทำ External Link ไปเว็บอื่น ๆ คือการช่วยให้เว็บไซต์เหล่านั้นติดอันดับหรือทำให้มีคนเข้าไปยังเว็บนั้นมากยิ่งขึ้นเพียงอย่างเดียว

 

แต่นอกเหนือจากนั้น คือการทำ  External Link ไปสู่เว็บที่มีคุณภาพจะสามารถช่วยให้ Search Engine มองเห็นว่าเว็บไซต์ของคุณเป็นจุดศูนย์รวมของข้อมูลที่มีคุณภาพเช่นกัน

 

สรุป

รู้จักกับ On Page SEO คืออะไร มีความสำคัญอย่างไร มาดูกันเลย

 

alt-On Page SEO ทำไมจึงสำคัญ

หากคุณได้อ่านจนมาถึงตรงนี้ คงได้ความรู้เกี่ยวกับ On Page SEO ไม่มากก็น้อยเลยใช่ไหมคะ โดยเราได้ช่วยแนะนำคุณเกี่ยวกับการทำ On Page SEO เบื้องต้น และแนะนำการปรับปรุงเนื้อหาคอนเทนต์ให้มีความเกี่ยวข้อง มีคุณภาพที่ดีขึ้น และเข้าใจได้ง่าย ถ้าคุณสามารถนำ 2 สิ่งนี้มาประกอบรวมกันได้ SEO ON PAGE ของคุณ จะเป็นที่รักของ Google อย่างแน่นอน