ถอดสูตรสำเร็จ Movie Marketing กระแสโรงหนังฟีเวอร์ บิ๊กเนมแห่ทำกิจกรรมตอบรับเทรนด์

25 ม.ค. 2567 | 13:30 น.
อัปเดตล่าสุด :25 ม.ค. 2567 | 14:58 น.

ถอดสูตรสำเร็จ Movie Marketing กระแสโรงหนังฟีเวอร์ บิ๊กเนมแห่ทำกิจกรรมตอบรับเทรนด์

อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย ในปี 2566 ที่ผ่านมา กลับมาคึกคักอีกครั้ง หลายสัญญาณบ่งบอกถึงการฟื้นตัว ทั้งผู้คนเริ่มกลับมาทำงาน กลับมาท่องเที่ยว กลับมาใช้ชีวิตกิน ดื่ม เที่ยว สะท้อนภาพได้ชัดเจนกับการที่ผู้คนทยอยเดินเข้าชมโรงภาพยนตร์หนาตามากขึ้น บ่งชี้ชัดเจนว่าธุรกิจโรงหนังกลับมาแล้ว

บิ๊กเพลเยอร์ในอุตสาหกรรมโรงหนังอย่าง “เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์” ทำกำไร 9 เดือนแรกในปี 2566 เติบโตถึง 302% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยเฉพาะในไตรมาสสุดท้ายที่ได้รับกระแส “หนังไทยฟีเวอร์” ที่ทำรายได้มหาศาลเป็นประวัติการณ์ กับ 3 ภาพยนตร์ไทยมาแรงแห่งปี อย่าง “สัปเหร่อ” ทำรายได้ไปกว่า 700 ล้านบาท “ธี่หยด” ทำรายได้กว่า 500 ล้าน และ “4 Kings ภาค 2” ทำรายได้กว่า 240 ล้านบาท ถือเป็นอีกหนึ่งปีทองของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในเมืองไทยกลับมาคึกคักอย่างเต็มที่อีกครั้ง

 

จากไลน์อัพของ “หนังไทย” ที่จุดกระแสให้ผู้คนกลับมานิยมเข้าชมภาพยนตร์ในโรงหนังนั้น ส่งผลให้ธุรกิจโรงภาพยนตร์กลับมาเฉิดฉายเติบโตแบบก้าวกระโดด นอกจากหนังไทยแล้วยังมีคิวของภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่จ่อคิวรอเข้าฉายมากมายตลอดทั้งปี เพื่อให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยไปไกลสู่ระดับโลก “เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์” ผู้นำอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของเมืองไทย ได้วางวิสัยทัศน์และพันธกิจตั้งเป้าไว้ ยกระดับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยก้าวสู่ “Tollywood”  (Thailand+Hollywood)  ให้เทียบเท่ากับ Hollywood และ Bollywood

โดยพบว่าภาพยนตร์ไทยมีสัดส่วนรายได้เพิ่มขึ้นมาเป็น 50% เมื่อเทียบกับรายได้ภาพยนตร์ทั้งหมด

นอกจากนี้สิ่งที่ทำให้เม็ดเงินสะพัด คือ “เม็ดเงินของสื่อโฆษณาในโรงภาพยนตร์” ที่มีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นโดย 9 เดือนแรกของปี 2566 มีอัตราการเติบโตถึง 56% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า


 

ข้อมูลจากกลุ่มบริษัท มีเดีย อินเทลลิเจนซ์ หรือ MI GROUP เปิดเผยว่า ปี 2566 ภาพรวมทั้งปีของอุตสาหกรรมโฆษณาทั้งระบบมีเม็ดเงินจะสะพัดมูลค่า 8.4 หมื่นล้านบาท เติบโต 4.4% โดยเม็ดเงินสื่อโฆษณาในโรงภาพยนตร์มีมูลค่า  2.1 พันล้านบาท ฉายภาพให้เห็นชัดว่า “สื่อโฆษณาในโรงหนัง” เติบโตควบคู่ไปกับธุรกิจโรงภาพยนตร์ที่ฟื้นตัว ส่งผลให้ แบรนด์ชั้นนำในหลายอุตสาหกรรมตอบรับเทรนด์ “Movie Marketing” การสื่อสารทางการตลาดผ่านภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมสูง รวมถึงภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ทั้งไทย-ต่างประเทศ เพื่อสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ต่าง ๆ

“Movie Marketing” ถือเป็นกลยุทธ์หมัดเด็ดสร้างแบรนด์ ดันยอดขาย ให้เหล่าแบรนด์พันธมิตรแบบวิน-วิน “เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์” บิ๊กเพลเยอร์ของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในประเทศ ประสบความสำเร็จในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ต่าง ๆ ที่ร่วมจ่อคิวเข้ามาผนึกกำลัง เพื่อเอาใจคนรักหนัง และสามารถตอบโจทย์การเป็น Top of mind ของแบรนด์ พร้อมสร้าง Impact ให้กับแบรนด์พันธมิตรได้ครบทุกมิติ

ส่วนประสมทางการตลาดของการเติบโตดังกล่าว มาจากการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างกว้างขวาง ในปัจจุบัน เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ยังคงครองแชมป์ผู้นำอุตสาหกรรมโรงภาพยนตร์ชั้นนำของเมืองไทย ที่มีจำนวนสาขามากที่สุดในไทย ครอบคลุมทั่วประเทศ และเข้าถึงทุกกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมากที่สุด

ปัจจุบัน เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ มีจำนวนสาขา 184 สาขา 852 โรงภาพยนตร์ ครอบคลุมทั่วประเทศมากถึง 63 จังหวัด โดยแบ่งเป็นสาขาในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 43 สาขา และสาขาในต่างจังหวัด 132 สาขา รวมถึงสาขาต่างประเทศ โดยมีสาขาในลาว 3 สาขา และในกัมพูชา 6 สาขา

 

ถอดสูตรสำเร็จ Movie Marketing กระแสโรงหนังฟีเวอร์ บิ๊กเนมแห่ทำกิจกรรมตอบรับเทรนด์

 

ความสำเร็จของกลยุทธ์ Movie Marketing ที่เด่นชัดคือ PEPSI ซึ่งสามารถสร้างการรับรู้และการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างน่าประทับใจและประสบความสำเร็จทุกๆ ครั้ง

หรือจะเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ส่งท้ายปี 2566 เรื่อง Aquaman and The Lost Kingdom ที่ต้อนรับการกลับมาของราชันแห่งแอตแลนติส “อควาแมนกับอาณาจักรสาบสูญ” ที่ผนวกความร่วมมือกับ 7-Eleven ผ่านการทำโปรโมชั่นที่สามารถกระตุ้นยอดขายได้แบบ win-win รวมถึงการจัดกิจกรรม GALA เปิดตัวภาพยนตร์อย่างยิ่งใหญ่ ที่ Quartier CineArt และกิจกรรม On-Ground Experience ขบวนรถ Aquaman แจกความซ่าทั่วกรุงเทพ เช่น อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เยาวราช พารากอน สยาม สีลม

 

ถอดสูตรสำเร็จ Movie Marketing กระแสโรงหนังฟีเวอร์ บิ๊กเนมแห่ทำกิจกรรมตอบรับเทรนด์

ถอดสูตรสำเร็จ Movie Marketing กระแสโรงหนังฟีเวอร์ บิ๊กเนมแห่ทำกิจกรรมตอบรับเทรนด์

 

อีเว้นท์เหล่านี้ช่วยจุดพลุกระแสภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์แห่งปีให้ดังกระหึ่มทั่วประเทศ ภายใต้กลยุทธ์ Movie Marketing ครั้งนี้ ทั้งโรงภาพยนตร์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ และเป๊ปซี่ รวมถึงพันธมิตรในกลุ่มธุรกิจต่างๆ ร่วมกันสร้างสรรค์แคมเปญและกิจกรรมการตลาดหลากหลายรูปแบบ ครอบคลุม 360 องศา ทั้งจัดอีเว้นท์เปิดตัวภาพยนตร์ ออกสินค้าคอลเลคชันพิเศษ กิจกรรมทั้งบนออนไลน์ ออฟไลน์ และ On-ground ตลอดจนทำโปรโมชั่นร่วมกับพันธมิตรช่องทางจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เป๊ปซี่

 

ถอดสูตรสำเร็จ Movie Marketing กระแสโรงหนังฟีเวอร์ บิ๊กเนมแห่ทำกิจกรรมตอบรับเทรนด์

 

นอกจากนี้กิจกรรมการตลาดที่โรงภาพยนตร์ Kids Cinema ก็ประสบความสำเร็จไม่แพ้กัน เพราะสามารถเข้าถึงกลุ่มเด็กๆ และครอบครัวได้เป็นอย่างดี โดยสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้เช่น แจกตัวอย่างสินค้า ,จัดทำ Workshop ต่างๆ รวมถึงโปรโมชั่น Lucky Draw แจกรางวัล เพื่อยกระดับประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับผู้บริโภค

ทั้งหมดนี้คือตัวอย่างของความน่าสนใจของ Movie Marketing กลยุทธ์ที่ให้ความ Win ทั้งแบรนด์ และเหล่าคอหนัง การนำแบรนด์ให้เข้าไปสู่ไลฟ์สไตล์ของผู้คน คือสร้างภาพจำของแบรนด์ให้อยู่ในโมเมนต์ของความสุขของผู้บริโภค ยิ่งไปว่านั้นสิ่งที่แบรนด์จะได้คือฐานแฟนของภาพยนตร์ที่จะเข้ามาเสริมเป็นแฟนแบรนด์อีกด้วย

และในปี 2567 นี้มีภาพยนตร์ไทย ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ ภาพยนตร์แอนิเมชั่นน่าสนใจ พร้อมต่อคิวเข้าโรงภาพยนตร์ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็น Dune Part 2 ,Godzilla x Kong : The New Empire ,Deadpool 3 ,Joker 2 ,Kingdom Of The Planet of The Apes ,Ghostbuster Frozen Empire ,Kung Fu Panda 4 ,Inside Out 2 ,Despicable me 4 และ Garfield พร้อมที่ดันทราฟฟิกการเข้าชมและอุตสาหกรรมโรงภาพยนตร์เติบโตติดลมบนและเป็นปีทองของอุตสาหกรรมโรงภาพยนตร์ไทยอีกครั้ง