เจาะกลยุทธ์ Movie Marketing สร้างแบรนด์-เพิ่มยอดขายผ่าน“หนังฟอร์มยักษ์”

ธุรกิจโรงภาพยนตร์เป็นอีกหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนผ่านตัวเลขรายได้ไตรมาส 1 ของบิ๊กเพลย์เยอร์ “เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป” ที่เติบโตสูงถึง 41% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องในไตรมาสที่ 2 และ 3 สืบเนื่องจากมีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่ทยอยเข้าฉายแน่นโปรแกรม ทั้ง Fast & Furious 10 ซึ่งตอนนี้กวาดรายได้เกิน 300 ล้านบาท ขณะที่ The Little Mermaid และ Spider-Man Across The Spider-Verse ก็ทำรายได้แตะหลัก 100 ล้านบาท รวมถึงTransformers Rise Of The Beats ที่คาดการณ์ว่าจะทำรายได้ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท ล่าสุดกับ The Flash ก็มีแนวโน้มที่จะกวาดรายได้แบบถล่มทลายจากแฟนๆหนังซุปเปอร์ฮีโร่
 

นอกจากนี้ยังมีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่จ่อเข้าฉายอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็น Indiana  Jones and The Dial of Destiny (28 มิย.) Mission : Impossible Dead Reckoning - Part One (11 กค.)  Oppenheimer (20 กค.) The Meg 2 : The Trench (3 สค.) Teenage Mutant Ninja Turtles : Mutant  Mayhem (24 สค.) และ The Equalizer 3 (31 สค.) 

จากไลน์อัพภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่ตบเท้าเข้าฉายอย่างต่อเนื่องนี้ ส่งผลให้เกิดการใช้จ่ายเม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อโรงภาพยนตร์เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย เฉพาะไตรมาส1 มีอัตราการเติบโตถึง 42% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากการที่บิ๊กเนมในอุตสาหกรรมต่างๆหันมาใช้ MOVIE MARKETING โดยเฉพาะภาพยนตร์ที่ได้ความนิยมสูงหรือเป็นภาคต่อของภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ ในการสื่อสารการตลาดไปยังกลุ่มเป้าหมายได้ตรงกลุ่มเป้าหมายของสินค้าชนิดต่างๆได้ดี และสามารถนำเสนอสินค้าได้ตรงจุดที่สุดรวมทั้งกระตุ้นยอดขายสินค้าในระยะเวลาอันสั้น หนึ่งในเคสที่ประสบความสำเร็จอย่างมากคือ  PEPSI ซึ่งใช้กลยุทธ์ MOVIE MARKETING ร่วมกับทางเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ มาอย่างต่อเนื่อง และประสบความสำเร็จทุกครั้ง

โดยล่าสุด PEPSI ได้ร่วมกับเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ จัดกิจกรรมการตลาดผ่านภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์แห่งปี เรื่อง Transformers Rise Of The Beats แบบ 360 องศาอีกครั้ง เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์และสร้างประสบการณ์ที่ดีระหว่างแบรนด์และกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการชมภาพยนตร์ ไม่ว่าจะเป็น การออกผลิตภัณฑ์ใหม่บ็อกซ์เซ็ทเป๊ปซี่คอลเลคชันพิเศษ รุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่น ลายออโตบ็อตส์ 4 ลาย ในแพ็คเกจกล่องสีดำสวยหรู จัดโปรโมชั่น Pepsi Movie Mania กับ 2 แพ็คเกจสุดคุ้ม ได้แก่

แพ็กเกจที่ 1 : แพ็กตั๋วหนังราคาสุดพิเศษเพียง 590 บาท จากปกติ 1,165 บาท ประกอบด้วย บัตรชมภาพยนตร์ จำนวน 2 ที่นั่ง, บักเก็ต ทรานส์ฟอร์เมอร์ส 1 ชิ้น, เป๊ปซี่ แพ็ก 4 กระป๋อง ขนาด 245 ml. ลายทรานส์ฟอร์เมอร์ส และ เครื่องดื่มขนาด 44 ออนซ์ 1 แก้ว โดยสามารถซื้อแพ็กเกจพิเศษได้ที่จุดจำหน่ายบัตรชมภาพยนตร์ ในเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป สาขาที่ร่วมรายการ และ Major Mall ใน Shopee และ Lazada 
 

แพ็กเกจที่ 2 : ซื้อเป๊ปซี่ หรือ เป๊ปซี่ ไม่มีน้ำตาล กระป๋อง แพ็ก 6 กระป๋อง ขนาด 245 ml. มูลค่า 195 บาท จำนวน 3 แพ็ก ที่ กูร์เมต์ มาร์เก็ต หรือ ท็อปส์ มาร์เก็ต สแกน QR Code เพื่อแลกรับบัตรชมภาพยนตร์ จำนวน 1 ที่นั่ง  พร้อมเครื่องดื่ม 1 แก้ว ขนาด 44 ออนซ์  โดยทั้ง 2 แพ็กเกจสามารถใช้สิทธิ์จนถึง 30 มิถุนายน 2566 นี้
 

นอกจากนี้เครื่องดื่มเป๊ปซี ภายใต้บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด ยังจับมือกับ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ และ บริษัท ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล พิคเจอร์ส (ฟาร์อีสต์) จำกัด จัดงานเปิดตัวภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ “THAILAND GALA PREMIERE TRANSFORMERS RISE OF THE BEASTS” โดยจำลองบรรยากาศการเดิน Blue Carpet ของการเปิดตัวภาพยนตร์เมืองคานส์มาไว้ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ณ ริเวอร์ พาร์ค ไอคอนสยาม รวมไปถึงการจัดกิจกรรม Major FanDom Exclusive Preview ร่วมชมภาพยนตร์รอบพิเศษ กับ 2 นักแสดงสุดฮอต “เน็ต-เจมส์” แบบ Exclusive สุดๆ จำกัดเพียง 272 ที่นั่งเท่านั้น

ควบคู่ไปกับการจัดกิจกรรม On-Ground Experience ขบวนรถ Transformers แจกความซ่ากับ Pepsi ทั่วกรุงเทพ เช่น สีลม อโศก สยาม อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เยาวราช เสาชิงช้า และอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

ทั้งนี้กลยุทธ์ MOVIE MARKETING หรือการทำกิจกรรมการตลาดผ่านภาพยนตร์ เริ่มได้รับความสนใจจากบิ๊กแบรนด์ต่างๆ เพราะมองว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าแน่นอนคุ้มค่า โดยเฉพาะภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์หรือภาพยนตร์ที่กำลังเป็นกระแสมักจะได้รับความสนใจจากผู้บริโภคและได้พื้นที่สื่อจากการถูกพูดถึงบนมีเดียแพลตฟอร์มต่างๆ ทำให้โอกาสที่จะสร้างการรับรู้และสร้างประสบการณ์ที่ดีกับแบรนด์มีมากขึ้น รวมทั้งสามารถกระตุ้นยอดขายได้มหาศาลในช่วงระยะเวลาอั้นสั้น  

โดยเฉพาะการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์โรงภาพยนตร์ที่มีความแข็งแกร่งของแบรนดิ้ง มีแพลตฟอร์มและโซลูชั่นในการเพิ่มการเข้าถึงและสร้างการรับรู้ในกลุ่มแฟนภาพยนตร์เช่น เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ จะเป็นการช่วยให้แบรนด์สามารถคุมงบประมาณและบรรลุผลสำเร็จทางการตลาดตามที่ตั้งเป้าไว้ได้ง่ายขึ้น