“สรรเพชญ”หวังประชุม ครม.สัญจรภาคใต้ แก้ปัญหาประมง-ผลักดันเมกะโปรเจ็กต์

13 ม.ค. 2568 | 11:39 น.
อัปเดตล่าสุด :13 ม.ค. 2568 | 12:06 น.

“สรรเพชญ บุญญามณี” ส.ส.สงขลา หวังนายกฯ นำประชุม ครม.สัญจรภาคใต้ ดันแก้ปัญหาประมง พร้อมผลักดันเมกะโปรเจ็กต์ ลดเหลื่อมล้ำและกระตุ้นเศรษฐกิจภาคใต้

วันที่ 13 มกราคม 2568 นายสรรเพชญ บุญญามณี สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แสดงความคิดเห็นต่อกระแสข่าวการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร (ครม.สัญจร) นำโดย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งคาดว่าจะจัดขึ้นที่จังหวัดสงขลา ในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ว่า การประชุมครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญสำหรับภาคใต้ โดยเฉพาะในการแก้ไขปัญหาด้านการประมงที่ค้างคามายาวนาน พร้อมทั้งผลักดันการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และแก้ไขปัญหาความยากจน ความเหลื่อมล้ำในพื้นที่ให้เกิดผลลัพธ์ที่ชัดเจน

นายสรรเพชญ ระบุว่า การประชุม ครม.สัญจรในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะหลังเกิดเหตุอุทกภัยครั้งใหญ่ในหลายจังหวัด ถือเป็นโอกาสสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจและเยียวยาผลกระทบ ที่ประชาชนเผชิญ โดยภาคใต้ยังคงประสบปัญหาความเหลื่อมล้ำในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น เช่น ภาคเหนือและภาคอีสาน ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณ และโครงการขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่อง

นายสรรเพชญ ยังกล่าวถึงปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากบริเวณ “ห้าแยกน้ำกระจาย” จังหวัดสงขลา ว่าเป็นตัวอย่างสำคัญที่รัฐบาลควรเร่งดำเนินการแก้ไข “ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากนี้ ผมได้เสนอในรัฐสภาหลายครั้ง แต่ยังไม่มีการแก้ไขที่เป็นรูปธรรม ทั้งที่เรามีหน่วยงานที่ดูแลเรื่องน้ำมากมาย หากรัฐบาลชุดนี้สามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมบริเวณนี้ได้ จะเป็นผลงานที่ประชาชนสามารถจับต้องได้จริง”

นอกจากนี้ นายสรรเพชญ ได้เรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณาโครงการขนาดใหญ่ เช่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคม การท่องเที่ยว และการศึกษา เพื่อสร้างอาชีพและรายได้ให้กับประชาชน โดยเฉพาะผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวที่ยังคงได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 รวมถึงการแก้ปัญหาความยากจนในพื้นที่ 

อีกทั้ง จากรายงานของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ระบุว่า ในปี 2566 ภาคใต้มีสัดส่วนคนจนสูงสุดในประเทศถึง 7.48% และยังคงเผชิญปัญหาความยากจนรุนแรงต่อเนื่องยาวนานกว่า 15 ปี 

โดยการวิเคราะห์ของหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ชี้ให้เห็นว่า ภาคใต้ยังขาดแคลนทุนการดำรงชีพใน 5 ด้าน ได้แก่ ทุนมนุษย์ ทุนกายภาพ ทุนเศรษฐกิจ ทุนธรรมชาติ และทุนสังคม ทำให้ประชาชนในพื้นที่ประสบปัญหาขาดแคลนปัจจัยพื้นฐาน สูญเสียทรัพย์สิน และมีข้อจำกัดในการเข้าถึงบริการทางสังคม

“นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มาเยือนภาคใต้ แต่ประชาชนในพื้นที่ยังไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้อย่างมั่นคง รัฐบาลควรส่งเสริมการจ้างงานและสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับคนในพื้นที่อย่างจริงจัง” นายสรรเพชญ กล่าว

ในตอนท้าย นายสรรเพชญ เรียกร้องให้การประชุม ครม.สัญจรครั้งนี้ เป็นเวทีสำคัญในการลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจให้กับภาคใต้ พร้อมทั้งผลักดันเมกะโปรเจ็กต์ที่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงในระยะยาว 

“ไม่ว่าจะเป็นรถไฟรางคู่ที่ยังคั้งค้างอยู่ให้ไปถึงสุไหงโกลก หรือการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษการลงทุนพัฒนาด้านเทคโนโลยี โดยเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืน “ภาคใต้ไม่ใช่เพียงจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว แต่เป็นบ้านของคนไทยอีกจำนวนมากที่สมควรได้รับโอกาสและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น” นายสรรเพชญ ระบุ